ผู้วิจัย นายเกษม อาจเวทย์
รองผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะ รองผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล สังกัดเทศบาลเมืองเมืองพล จังหวัดขอนแก่น
ปี พ.ศ. 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องการพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานแบบร่วมคิดร่วมทำเพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน:กรณีโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล เทศบาลเมืองเมืองพล จังหวัดขอนแก่น ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ทั่วไป เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานแบบร่วมคิดร่วมทำเพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน:กรณีโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล เทศบาลเมืองเมืองพล จังหวัดขอนแก่น และวัตถุประสงค์เฉพาะ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานแบบร่วมคิดร่วมทำและสภาพความต้องการในการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน:กรณีโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล เทศบาลเมืองเมืองพล จังหวัดขอนแก่น 2) เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานแบบร่วมคิดร่วมทำเพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน:กรณีโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล เทศบาลเมืองเมืองพล จังหวัดขอนแก่น 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานแบบร่วมคิดร่วมทำเพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน:กรณีโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล เทศบาลเมืองเมืองพล จังหวัดขอนแก่น 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ครู กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานแบบร่วมคิดร่วมทำ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน:กรณีโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล เทศบาลเมืองเมืองพล จังหวัดขอนแก่น กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครู กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล เทศบาลเมืองเมืองพล จังหวัดขอนแก่น จำนวน 309 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1. แบบสัมภาษณ์ มีลักษณะเป็นแบบสัมภาษณ์ที่ไม่มีโครงสร้าง ใช้สัมภาษณ์ผู้บริหารและครูผู้สอน เกี่ยวกับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน:กรณีโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล เทศบาลเมืองเมืองพล จังหวัดขอนแก่น 2. แบบสอบถามสภาพความต้องการในการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน:กรณีโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล เทศบาลเมืองเมืองพล จังหวัดขอนแก่น ลักษณะแบบสอบถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ ตามแบบของลิเคอร์ท (Likert) พบว่า
สรุปผลการวิจัย ได้ดังนี้
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานแบบร่วมคิดร่วมทำและข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน
1.1 ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานแบบร่วมคิดร่วมทำเพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล สรุปได้ว่า การพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานนั้นมีลักษณะการพัฒนารูปแบบมาจากการกำหนดแนวคิดพื้นฐานของรูปแบบและการกำหนดองค์ประกอบของรูปแบบ ในด้านการกำหนดแนวคิดพื้นฐานของรูปแบบมีการกำหนดจากแนวคิดพื้นฐานในด้านของการบริหารและแนวคิดพื้นฐานในด้านกลยุทธ์และวิธีการ ด้านองค์ประกอบของรูปแบบ มีการกำหนดองค์ประกอบของรูปแบบในด้านผลลัพธ์ของรูปแบบองค์ประกอบที่เป็นกลไกในการดำเนินงาน องค์ประกอบที่เป็นกลไกในการประสานงานและบูรณาการงาน และองค์ประกอบที่เป็นกลไกในการติดตามและประเมินผล
1.2 ผลการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน
จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนเกี่ยวกับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนในโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล ผู้วิจัยได้แจ้งวัตถุประสงค์ของการสัมภาษณ์ และได้ดำเนินการสัมภาษณ์ด้วยตนเอง พบว่า คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนที่มีการถูกกำหนดในโรงเรียน ข้อที่มีความถี่ร้อยละสูงที่สุด ได้แก่ คุณลักษณะด้านความมีระเบียบวินัย มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 95.44 อยู่ในระดับ ดีมาก รองลงมาได้แก่ ความซื่อสัตย์ มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 91.64 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ด้านความใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 86.78 อยู่ในระดับคุณภาพ ดี ตามลำดับ
2. ผลการพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานแบบร่วมคิดร่วมทำเพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล รูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานแบบร่วมคิดร่วมทำ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลพลประชา- นุกูล ที่ยกร่างขึ้นจากการศึกษาข้อมูลพื้นฐานจากเอกสารและงานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานและจากการสำรวจและสัมภาษณ์ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ที่มีการกำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้แล้ว ผู้วิจัยนำข้อมูลที่ได้มาทำการวิเคราะห์และสังเคราะห์ ร่างเป็นรูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล และทำการตรวจสอบร่างรูปแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 ท่าน เห็นว่ารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานแบบร่วมคิดร่วมทำเพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก พร้อมทั้งมีข้อเสนอแนะให้ปรับปรุง ได้รูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานแบบร่วมคิดร่วมทำ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล
3. ผลการใช้รูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานแบบร่วมคิดร่วมทำเพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล
ผลการนำรูปแบบไปใช้กับโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล สรุปได้ว่าคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในแต่ละด้านของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล โดยรวมมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 90.84 มีคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด ได้แก่ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านความมีระเบียบวินัย มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 95.44 อยู่ในระดับ ดีมาก รองลงมา ได้แก่ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านความซื่อสัตย์ มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 91.64 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ด้านความใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 86.78 อยู่ในระดับคุณภาพ ดี ตามลำดับ
4. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานแบบร่วมคิดร่วมทำเพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล
ผลการประเมินรูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานแบบร่วมคิดร่วมทำเพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนเทศบาลพลประชานุกูล พบว่า ในภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มากที่สุด