ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้
7 ขั้น (7E) ร่วมกับเทคนิคการเรียนรู้บูรณาการสาระการเรียนรู้ท้องถิ่น เรื่อง
การเคลื่อนที่ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ผู้รายงาน นางจารุวรรณ ทองวิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนสตรีพัทลุง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ปีที่รายงาน 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ผู้รายงานมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับเทคนิค
การเรียนรู้บูรณาการสาระการเรียนรู้ท้องถิ่น เรื่อง การเคลื่อนที่ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนด้วย
ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับเทคนิคการเรียนรู้บูรณาการสาระการเรียนรู้ท้องถิ่น เรื่อง การเคลื่อนที่ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนหลังการเรียนด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการ
สืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับเทคนิคการเรียนรู้บูรณาการสาระการเรียนรู้ท้องถิ่น เรื่อง การเคลื่อนที่ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 5 โรงเรียนสตรีพัทลุง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 12 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 124 คน กลุ่มตัวอย่างได้มาด้วยการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 24 คน ดำเนินการทดลองโดยใช้เวลาในการทดลอง 18 ชั่วโมง ใช้การทดลองแบบ One Group Pretest-Posttest Design
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า คือ 1) ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการ
สืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับเทคนิคการเรียนรู้บูรณาการสาระการเรียนรู้ท้องถิ่น เรื่อง
การเคลื่อนที่ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ 80 / 80 จำนวน 6 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเคลื่อนที่ จำนวน 1 ชุด
เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.47 ถึง 0.77 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.20 ถึง 0.40 และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.76 และแบบวัดความพึงพอใจเป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ค่าอำนาจจำแนก (ค่าที) ตั้งแต่ 1.82 ถึง 4.33 และค่าความเชื่อมั่นของแบบวัดความพึงพอใจทั้งฉบับเท่ากับ 0.86
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ค่าเฉลี่ยร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
E1 / E2 และ t test แบบ dependent
ผลการศึกษาค้นคว้า พบว่า
1) ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับเทคนิคการเรียนรู้บูรณาการสาระการเรียนรู้ท้องถิ่น เรื่อง การเคลื่อนที่ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ 82.03/84.06
2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับเทคนิคการเรียนรู้บูรณาการสาระการเรียนรู้ท้องถิ่น เรื่อง
การเคลื่อนที่ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับเทคนิคการเรียนรู้บูรณาการสาระการเรียนรู้ท้องถิ่น เรื่อง
การเคลื่อนที่ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.32 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.34