|
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เทคนิค STAD ที่เน้นกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา เรื่อง การบวก การลบ การคูณ และการหารเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้วิจัย นางสาวเนตรชนก ยอดแก้ว
ปีที่พิมพ์เผยแพร่ 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เทคนิค STAD ที่เน้นกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา เรื่อง การบวก การลบ การคูณ และการหารเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ ให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ70 และนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของนักเรียนทั้งหมด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เทคนิค STAD ที่เน้นกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา เรื่อง การบวก การลบ การคูณ และการหารเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการ กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนนิคมพัฒนาผัง ๖ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 42 คน เป็นชาย 21 คน หญิง 21 คน ผู้วิจัยดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เทคนิค STAD ที่เน้นกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา จำนวน 18 แผน ประกอบด้วย แผนปฐมนิเทศจำนวน 1 แผน แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 16 แผน และแผนปัจฉิมนิเทศ จำนวน 1 แผน โดยแบ่งเป็น 4 วงจร การปฏิบัติดังนี้ วงจรที่ 1 แผนที่ 1-4 การบวก การลบ เศษส่วน และโจทย์ปัญหาการบวก การลบ เศษส่วน วงจรที่ 2 แผนที่ 5-8 การคูณเศษส่วน และโจทย์ปัญหาการคูณเศษส่วน วงจรที่ 3 แผนที่ 9-12 การหารเศษส่วน และโจทย์ปัญหาการหารเศษส่วน วงจรที่ 4 แผนที่ 13-16 การบวก ลบ คูณระคนเศษส่วน และโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณระคนเศษส่วน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เทคนิค STAD ที่เน้นกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา 2) แบบทดสอบย่อยท้ายวงจร 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบบันทึกการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 5) แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ 6) แบบสัมภาษณ์ 7) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เทคนิค STAD ที่เน้นกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ดังนี้ 1. การนำเสนอบทเรียนทั้งชั้นเรียน มี 3 ขั้น คือ ขั้นนำ ขั้นสอนเน้นกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา มี 4 ขั้นตอน คือ 1) ทำความเข้าใจปัญหา 2) วางแผนแก้ปัญหา 3) ดำเนินการตามแผน 4) ตรวจสอบผล และขั้นสรุป 2. การศึกษารายกลุ่ม ปฏิบัติกิจกรรมเน้นกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา 3. ขั้นพัฒนาทักษะ / การนำไปใช้ ผู้เรียนทำแบบฝึกทักษะท้ายแผนหรือแก้โจทย์ปัญหาเป็นรายบุคคล 4. ขั้นประเมินผล ผู้เรียนทำแบบทดสอบย่อยท้ายวงจร และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นรายบุคคล 5. การคิดคะแนนการพัฒนา 6. ประกาศยกย่อง ชมเชย ให้รางวัล ทำให้นักเรียนรู้จักคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ มีความรับผิดชอบ เพื่อมุ่งความสำเร็จของกลุ่ม
2. ผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 80.71 และนักเรียนร้อยละ 83.33 ของนักเรียนทั้งหมดมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เทคนิค STAD ที่เน้นกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
|
โพสต์โดย ครูนก : [12 ก.พ. 2562 เวลา 13:59 น.] อ่าน [5396] ไอพี : 1.0.146.113
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 24,966 ครั้ง
| เปิดอ่าน 83,862 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,007 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,139 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,701 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,561 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,014 ครั้ง
| เปิดอ่าน 202,890 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,142 ครั้ง
| เปิดอ่าน 31,330 ครั้ง
| เปิดอ่าน 37,201 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,503 ครั้ง
| เปิดอ่าน 449,740 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,064 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,925 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 18,475 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,774 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,031 ครั้ง
| เปิดอ่าน 103,282 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,964 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|