ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

ผลการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม ที่เรียนโดยการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของ Polya สำหรับนักเรียน

ผลการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม ที่เรียนโดยการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของ Polya สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม ที่เรียนโดยการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของ Polya สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม ที่เรียนโดยการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของ Polya สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม ที่เรียนโดยการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของ Polya สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล ๓ (บ้านบ่อ) สังกัด กองการศึกษาเทศบาลเมืองกาญจนบุรี อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ที่กำลังทำการศึกษา ปีการศึกษา 2560 จำนวน 4 ห้องเรียน รวมทั้งสิ้น 166 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนเทศบาล ๓ (บ้านบ่อ) จังหวัดกาญจนบุรี ที่กำลังทำการศึกษา ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 40 คน ซึ่งได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ใชในการวิจัย ประกอบ ด้วย (1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 จํานวน 5 ชุด (2) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เรื่อง ทศนิยม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ใช้ควบคู่กับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จํานวน 25 แผน (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ทศนิยม และ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียน 

โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t-test (Dependent Samples)

ผลการวิจัย พบว่า

1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม ที่เรียนโดยการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของ Polya สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ E1/E2 = 87.13 /83.92 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ มาตรฐานที่กําหนดไว้ คือ 80/80

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม ที่เรียนโดยการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของ Polya สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ทั้ง 5 แบบฝึกมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.01 และเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

3. ผลการศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม ที่เรียนโดยการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของ Polya สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 4.35 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.51) และเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

โพสต์โดย อิศรา สิทธิสาร : [12 ก.พ. 2562 เวลา 12:24 น.]
อ่าน [5250] ไอพี : 101.108.173.158
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 27,425 ครั้ง
เทรนด์ชุดนักศึกษาแบบตัวใหญ่ไม่รัดติ้ว กำลังจะกลับมา จริงหรือ?
เทรนด์ชุดนักศึกษาแบบตัวใหญ่ไม่รัดติ้ว กำลังจะกลับมา จริงหรือ?

เปิดอ่าน 11,523 ครั้ง
ทำไมต้องตีเส้นซิกแซ็กก่อนถึงทางม้าลาย
ทำไมต้องตีเส้นซิกแซ็กก่อนถึงทางม้าลาย

เปิดอ่าน 14,756 ครั้ง
"ผมร่วง" แก้ไขยังไงดี
"ผมร่วง" แก้ไขยังไงดี

เปิดอ่าน 26,031 ครั้ง
สรภัญตารางธาตุ
สรภัญตารางธาตุ

เปิดอ่าน 14,856 ครั้ง
อย.เตือนภัยครีมกันแดด - แก้ฝ้า 15 ชนิดใช้แล้วหน้าพัง
อย.เตือนภัยครีมกันแดด - แก้ฝ้า 15 ชนิดใช้แล้วหน้าพัง

เปิดอ่าน 47,160 ครั้ง
พืชสมุนไพรพื้นบ้าน
พืชสมุนไพรพื้นบ้าน

เปิดอ่าน 66,303 ครั้ง
10 มายากล เทคนิควิทยาศาสตร์ จำไว้ไปโชว์เพื่อนๆ
10 มายากล เทคนิควิทยาศาสตร์ จำไว้ไปโชว์เพื่อนๆ

เปิดอ่าน 17,268 ครั้ง
เด็กไทยมีไอคิวต่ำลงจริงหรือ?
เด็กไทยมีไอคิวต่ำลงจริงหรือ?

เปิดอ่าน 16,956 ครั้ง
SEO กับ SEM คืออะไร...ต่างกันแค่ไหน?
SEO กับ SEM คืออะไร...ต่างกันแค่ไหน?

เปิดอ่าน 98,435 ครั้ง
ดูให้รู้ - วิธีการสอนเพื่อพัฒนาสมองทั้งซีกขวาและซ้ายในญี่ปุ่น
ดูให้รู้ - วิธีการสอนเพื่อพัฒนาสมองทั้งซีกขวาและซ้ายในญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 15,468 ครั้ง
วิธีแก้ปัญหาเด็กกินยาก
วิธีแก้ปัญหาเด็กกินยาก

เปิดอ่าน 14,476 ครั้ง
กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. ๒๕๕๕
กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. ๒๕๕๕

เปิดอ่าน 11,545 ครั้ง
จะให้ลูกเล่นกีฬาให้เก่ง ต้องฝึกทักษะควบคุมวัตถุ ตั้งแต่ตอน10 ขวบ
จะให้ลูกเล่นกีฬาให้เก่ง ต้องฝึกทักษะควบคุมวัตถุ ตั้งแต่ตอน10 ขวบ

เปิดอ่าน 3,557 ครั้ง
เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก อาการเริ่มปัญหาของหัวใจ อย่ารอช้ารีบพบแพทย์
เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก อาการเริ่มปัญหาของหัวใจ อย่ารอช้ารีบพบแพทย์

เปิดอ่าน 14,171 ครั้ง
ทึ่ง! เด็ก5ขวบพูดอังกฤษสำเนียงอเมริกันคล่อง
ทึ่ง! เด็ก5ขวบพูดอังกฤษสำเนียงอเมริกันคล่อง

เปิดอ่าน 18,291 ครั้ง
วิธีดูแลรักษาโซฟาหนัง
วิธีดูแลรักษาโซฟาหนัง
เปิดอ่าน 15,662 ครั้ง
10 วิธีดูแลมือ เท้า และเล็บ
10 วิธีดูแลมือ เท้า และเล็บ
เปิดอ่าน 14,762 ครั้ง
คลิป"เล่นน้ำสงกรานต์อย่างปลอดภัย" โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
คลิป"เล่นน้ำสงกรานต์อย่างปลอดภัย" โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เปิดอ่าน 42,578 ครั้ง
มาดูซิว่า คนญี่ปุ่นฝึกเด็กให้เป็นคนมีคุณภาพ มีมารยาทและระเบียบวินัยได้อย่างไร?
มาดูซิว่า คนญี่ปุ่นฝึกเด็กให้เป็นคนมีคุณภาพ มีมารยาทและระเบียบวินัยได้อย่างไร?
เปิดอ่าน 12,469 ครั้ง
กาแฟลดอ้วน ผอมชัวร์หรือมั่วนิ่ม
กาแฟลดอ้วน ผอมชัวร์หรือมั่วนิ่ม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ