ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การแสดงบทบาทสมมติร่วมกับภาระงานเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้วิจัย สุปราณี สุขไกว
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๕ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การแสดงบทบาทสมมติร่วมกับภาระงานเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) ออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การแสดงบทบาทสมมติร่วมกับภาระงานเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การแสดงบทบาทสมมติร่วมกับภาระงานเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการสื่อสารภาษา อังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 4) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การแสดงบทบาทสมมติร่วมกับภาระงานเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนเทศบาล ๕ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 50 คน ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (simple random sampling) จากจำนวน 2 ห้องเรียน แล้วจับสลากเป็นกลุ่มทดลอง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัด การเรียนรู้โดยใช้การแสดงบทบาทสมมติร่วมกับภาระงานเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 4 หน่วย 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 20 แผน ชั่วโมงสอน 20 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 60 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น 0.86 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนมีค่าความเชื่อมั่น ( ) 0.86 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยสองค่าจากกลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียว (t-test for Paired Samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการศึกษา พบว่า
1.กรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การแสดงบทบาทสมมติร่วมกับภาระงานเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบเชิงหลักการและวัตถุประสงค์ ประกอบด้วยหลักการและวัตถุประสงค์ องค์ประกอบเชิงกระบวนการ ประกอบด้วย ขั้นก่อนการปฏิบัติภาระงาน (pre-task) ขั้นดำเนินงานตามตามวงจรของการปฏิบัติภาระงาน (task cycle) ขั้นฝึกฝนและตรวจสอบ การใช้ภาษา (language focus) และองค์ประกอบเชิงเงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ ประกอบด้วยปัจจัย ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และปัจจัยสนับสนุน
2.กรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การแสดงบทบาทสมมติร่วมกับภาระงานเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.31/82.87 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80
3.กผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การแสดงบทบาทสมมติร่วมกับภาระงานเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4.กค่าดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การแสดงบทบาทสมมติร่วมกับภาระงานเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.7086 แสดงว่า หลังจากนักเรียนได้เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ มีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น 0.7086 หรือคิดเป็นร้อยละ 70.86 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 0.50 ที่ตั้งไว้
5.กความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การแสดงบทบาทสมมติร่วมกับภาระงานเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.50 S.D= 0.22)