ผู้วิจัย อุไรวรรณ ไชยนา
ปีที่ดำเนินการทำวิจัยแล้วเสร็จ ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน 2) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) ศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น และ 4) ประเมินผลรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนมัธยมศึกษาเทศบาล ๓ ยุติธรรมวิทยา ที่ศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 28 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย รูปแบบการเรียนการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระต่อกัน และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน พบว่าครู นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียนต้องการให้มีการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยมีกระบวนการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถสรุปองค์ความรู้ด้วยตนเอง มีส่วนร่วมในกิจกรรมมีความรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ และสามารถแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้
2. รูปแบบการเรียนการสอน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประกอบด้วย หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 เชื่อมโยงความรู้ ค้นพบปัญหา ขั้นที่ 2 สร้างประสบการณ์ และเข้าใจปัญหา ขั้นที่ 3 ฝึกปฏิบัติประยุกต์ใช้ความรู้และแก้ปัญหา ขั้นที่ 4 สร้างองค์ความรู้สู่บริบทใหม่ ขั้นที่ 5 สะท้อนผลการเรียนรู้ และการวัดผลและประเมินผล ตรวจสอบความสอดคล้องของรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า รูปแบบการเรียนการสอนมีความสอดคล้องกัน และเมื่อนำไปหาประสิทธิภาพ (E1/E2) กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 28 คน ได้ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนเท่ากับ 81.53/83.48 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนพบว่ารูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น สามารถจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ของรูปแบบได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ เช่น การจัดการเรียนการสอนในขั้นที่ 1 เชื่อมโยงความรู้ ค้นพบปัญหา ครูจะกระตุ้นให้นักเรียนเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเนื้อหาที่จะเรียนกับความรู้เดิม ขั้นที่ 2 สร้างประสบการณ์ และเข้าใจปัญหา ครูจะนำเสนอเนื้อหาใหม่เป็นความรู้และประสบการณ์ใหม่ ครูและผู้เรียนร่วมกันทบทวนและค้นหาความรู้เกี่ยวกับเนื้อหาใหม่เพื่อเป็นการกระตุ้นเพื่อให้ผู้เรียนสนใจอยากรู้อยากค้นหาคำตอบและสร้างประสบการณ์ร่วมกัน ขั้นที่ 3 ฝึกปฏิบัติประยุกต์ใช้ความรู้ และแก้ปัญหา ให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการแก้ปัญหาใช้ความรู้เดิมที่ได้รับจากการเรียนมาใช้ในการแก้ปัญหา โดยใช้กระบวนการกลุ่มร่วมกันพิจารณาถึงวิธีแก้ปัญหาแล้วให้นักเรียนนำเสนอผลงานในกระบวนการคิดแก้ปัญหา ขั้นที่ 4 สร้างองค์ความรู้สู่บริบทใหม่ ครูจะให้นักเรียนทำแบบฝึกทักษะที่นักเรียนต้องใช้ความรู้ที่เรียนมาใช้เป็นฐานในการแก้ปัญหาด้วยวิธีใหม่ ขั้นตอนที่ 5 สะท้อนผลการเรียนรู้ นักเรียนจะต้องอภิปรายขยายความรู้อย่างกว้างขวางโดยให้นักเรียนบันทึกการเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ได้เรียนรู้ จากการศึกษาสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน พบว่า นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์ มีความสามารถในการแก้ปัญหาตามสถานการณ์ที่กำหนดให้ได้ มีทักษะกระบวนการกลุ่มช่วยเหลือกันในการทำงาน และเรียนรู้อย่างมีความสุข
4. ผลการประเมินผลรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น มีผลดังนี้
4.1 นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น มีความสามารถในการแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4.2 นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4.3 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น อยู่ในระดับมาก