ชื่อเรื่องการวิจัย การพัฒนารูปแบบการสอนภาษาอังกฤษ โดยวิธีการสอนที่เน้นโครงงาน
เพื่อพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความคิดสร้างสรรค์
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล 1 วัดแก่นเหล็ก
(รัตนกะลัสอนุสรณ์)
ผู้วิจัย นางอุสาห์ วิเชียรราชัย
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
วิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนภาษาอังกฤษ โดยวิธีการสอนที่เน้นโครงงาน เพื่อพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล 1 วัดแก่นเหล็ก(รัตนกะลัสอนุสรณ์) มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการสอนวิชาภาษาอังกฤษโดยวิธีการสอนที่เน้นโครงงาน ในการพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีคุณภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษ โดยวิธีการสอนที่เน้นโครงงาน เพื่อพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียน ที่มีต่อรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษ โดยวิธีการสอนที่เน้นโครงงาน เพื่อพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการใช้รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 35 คน โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย เป็นกลุ่มทดลอง 1 ห้องเรียน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม ( Cluster Random Sampling ) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ (1) รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษ โดยวิธีการสอนที่เน้นโครงงาน เพื่อพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความคิดสร้างสรรค์ (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติขั้นพื้นฐาน ซึ่งได้แก่ เกณฑ์การหาประสิทธิภาพ E1/E2 ค่าเฉลี่ย (x̄) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (s.d.)
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษ โดยวิธีการสอนที่เน้นโครงงาน เพื่อพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความคิดสร้างสรรค์ มีองค์ประกอบของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ดังนี้ (1) หลักการ (2) วัตถุประสงค์ (3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ (4) สาระหลัก (5) สิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ (6) เงื่อนไข ได้ค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 91.71/86.22 ยอมรับสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 1 แสดงให้เห็นว่ารูปแบบการสอน มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษ โดยวิธีการสอนที่เน้นโครงงาน เพื่อพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความคิดสร้างสรรค์ ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ ผู้เรียนมีพัฒนาการด้านคิดสร้างสรรค์ของโครงงานสูงขึ้นในช่วงก่อนเรียนระหว่างเรียน และหลังเรียน สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 แสดงให้เห็นว่าผู้เรียนมีพัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น ยอมรับตามสมมติฐานข้อที่ 2
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสมในระดับมาก