ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ผู้วิจัย นางสุจิตรา พงษ์วัน ตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม

สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม

ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์

1. เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

2. เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

3. เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ตามวัตถุประสงค์เฉพาะ ดังนี้

3.1 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียน

ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ก่อนเรียนและหลังเรียน

3.2 เพื่อเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

หลังเรียนได้เรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์

4. เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยมีการสรุปผลการวิจัยตามขั้นตอนการวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1 ผลการศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม

ระยะที่ 2 ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม

ระยะที่ 3 ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม

ระยะที่ 4 ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม

ผลการวิจัย

จากการดำเนินการวิจัยตามขั้นตอนการวิจัยในแต่ละระยะของการวิจัย ผู้วิจัยสามารถสรุปผลการวิจัยโดยมีรายละเอียดตามลำดับดังต่อไปนี้

1. ผลการศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม

1.1 องค์ประกอบของการเรียนรู้แบบร่วมมือ

การเรียนรู้แบบร่วมมือ ไม่เพียงแต่เป็นการแบ่งกลุ่มให้นักเรียนช่วยกันทำงานที่ได้รับ มอบหมายให้ประสบความสำเร็จเท่านั้น การเรียนรู้แบบร่วมมือจะต้องมีองค์ประกอบสำคัญครบ 6 ประการ ดังนี้

1.1.1 แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐาน

1. การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้

2. แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ

2.1 ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์

2.2 ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของบรูเนอร์

2.3 ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ

1.1.2 วัตถุประสงค์

นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีความคิดสร้างสรรค์

1.1.3 ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ มี 5 ขั้นตอน ดังนี้

1. ขั้นเตรียม เป็นขั้นครูแนะนำทักษะในการเรียนรู้ร่วมกันและจัดเป็นกลุ่มย่อย

แจ้งวัตถุประสงค์ของบทเรียน และการทำกิจกรรมร่วมกัน และการฝึกฝนทักษะพื้นฐานจำเป็นสาหรับการทำกิจกรรมกลุ่ม

2. ขั้นสอนและเสนอบทเรียนต่อทั้งชั้น เป็นขั้นครูนำเข้าสู่บทเรียนแนะนำเนื้อหา แนะนำแหล่งข้อมูลและมอบหมายงานให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม

3. ขั้นทำกิจกรรมกลุ่ม เป็นขั้นที่ผู้เรียนเรียนรู้ร่วมกันในกลุ่มย่อย โดยที่แต่ละคนมีบทบาทและหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย เป็นขั้นตอนที่สมาชิกในกลุ่มจะได้ร่วมกันรับผิดชอบต่อผลงานของกลุ่ม ในการทำกิจกรรมแต่ละครั้ง เทคนิคที่ใช้แต่ละครั้ง จะต้องเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการเรียน แต่ละเรื่อง ในการเรียนครั้งหนึ่ง ๆ อาจต้องใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือหลาย ๆ เทคนิคประกอบกันเพื่อให้เกิดประสิทธิผลในการเรียน

4. ขั้นทดสอบย่อย ขั้นนี้เป็นการตรวจสอบว่าผู้เรียนได้ปฏิบัติหน้าที่ครบถ้วนแล้วหรือยัง ผลการปฏิบัติเป็นอย่างไร เน้นการตรวจสอบผลงานกลุ่มและรายบุคคล ในบางกรณีผู้เรียนอาจต้องเสริมสร้างส่วนที่ยังขาดตกบกพร่อง ต่อจากนั้นเป็นการทดสอบความรู้

5. ขั้นสรุป ครูและผู้เรียนช่วยกันสรุป บทเรียนถ้ามีสิ่งที่ผู้เรียนยังไม่เข้าใจครูควรอธิบายเพิ่มเติม ครูและผู้เรียนช่วยกันประเมินผลการทำงานกลุ่มและพิจารณาว่า อะไรคือจุดเด่นของงาน และอะไรคือสิ่งที่ควรปรับปรุง

1.1.4 ระบบสังคม

บทบาทครูผู้สอน : การวางแผนการจัดการเรียนการสอน การสอน การช่วยเหลือ

กลุ่ม และการประเมินผล วิเคราะห์กระบวนการเรียนรู้

บทบาทผู้เรียน : ทำตามกิจกรรมการจัดการเรียนรู้และทำตามโครงสร้างเป็นลำดับขั้นตอนการจัดการเรียนรู้

1.1.5 ระบบสนับสนุน

1. สิ่งแวดล้อมในการเรียนการสอน

2. แหล่งเรียนรู้ต่างๆ ทั้งในและนอกห้องเรียน

3. กิจกรรมกลุ่ม การมีส่วนร่วมจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ

1.2 รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ผู้วิจัยได้สังเคราะห์เป็นรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีที่ให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมแบบกลุ่มโดยมีการรวมกลุ่มที่ชัดเจน ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ประกอบด้วย

1.2.1. ขั้นเตรียม เป็นขั้นครูแนะนำทักษะในการเรียนรู้ร่วมกันและจัดเป็นกลุ่มย่อย

แจ้งวัตถุประสงค์ของบทเรียน และการทำกิจกรรมร่วมกัน และการฝึกฝนทักษะพื้นฐานจำเป็นสาหรับการทำกิจกรรมกลุ่ม

1.2.2. ขั้นสอนและเสนอบทเรียนต่อทั้งชั้น เป็นขั้นครูนำเข้าสู่บทเรียนแนะนำเนื้อหา แนะนำแหล่งข้อมูลและมอบหมายงานให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม

1.2.3. ขั้นทำกิจกรรมกลุ่ม เป็นขั้นที่ผู้เรียนเรียนรู้ร่วมกันในกลุ่มย่อย โดยที่แต่ละคนมีบทบาทและหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย เป็นขั้นตอนที่สมาชิกในกลุ่มจะได้ร่วมกันรับผิดชอบต่อผลงานของกลุ่ม ในการทำกิจกรรมแต่ละครั้ง เทคนิคที่ใช้แต่ละครั้ง จะต้องเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการเรียน แต่ละเรื่อง ในการเรียนครั้งหนึ่ง ๆ อาจต้องใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือหลาย ๆ เทคนิคประกอบกันเพื่อให้เกิดประสิทธิผลในการเรียน

1.2.4. ขั้นทดสอบย่อย ขั้นนี้เป็นการตรวจสอบว่าผู้เรียนได้ปฏิบัติหน้าที่ครบถ้วนแล้วหรือยัง ผลการปฏิบัติเป็นอย่างไร เน้นการตรวจสอบผลงานกลุ่มและรายบุคคล ในบางกรณีผู้เรียนอาจต้องเสริมสร้างส่วนที่ยังขาดตกบกพร่อง ต่อจากนั้นเป็นการทดสอบความรู้

1.2.5. ขั้นสรุป ครูและผู้เรียนช่วยกันสรุป บทเรียนถ้ามีสิ่งที่ผู้เรียนยังไม่เข้าใจครูควรอธิบายเพิ่มเติม ครูและผู้เรียนช่วยกันประเมินผลการทำงานกลุ่มและพิจารณาว่า อะไรคือจุดเด่นของงาน และอะไรคือสิ่งที่ควรปรับปรุง

2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม มีรายละเอียดดังนี้

2.1 แนวคิดพื้นฐาน รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม มีการศึกษาแนวคิดพื้นฐานในการพัฒนา ได้แก่ การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และงานวิจัยที่เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จากแนวคิดของ Joyce, Weil และ Calhoun (2011 : 83-101) ซึ่งได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประกอบด้วยคือ 1) แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐาน 2) วัตถุประสงค์ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 4) ระบบสังคม 5) หลักการตอบสนอง 6) ระบบสนับสนุน

2.2 หลักการ ประกอบด้วย 1) รูปแบบการเรียนรู้นี้เป็นการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือ และสามารถนำไปใช้ในห้องเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2) รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือนี้ให้อิสระแก่ผู้เรียนในการดำเนินกิจกรรมภายในกลุ่มย่อย ซึ่งแต่ละกลุ่มและแต่ละคนต้องรับผิดชอบการเรียนรู้ของตนเอง โดยครูผู้สอนคอยให้ความช่วยเหลือ

2.3 จุดมุ่งหมาย เพื่อ 1) พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี 2) พัฒนาสมรรถนะของผู้เรียน 3) พัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์

2.4 เนื้อหา ประกอบด้วย 1) สาระการเรียนรู้ เรื่อง การออกแบบและเขียนเว็บไซต์เบื้องต้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี 2) รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์

2.5 กิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบด้วย 1) บทบาทผู้เรียน 2) บทบาทครูผู้สอน 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ 4) สิ่งแวดล้อมในการเรียนการสอน แหล่งเรียนรู้ต่างๆ ทั้งในและนอกห้องเรียน

2.6 การวัดและประเมินผล ประกอบด้วย 1) ทดสอบความสามารถในการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ 2) ประเมินความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนที่เรียนด้วยด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ 3) ประเมินคุณลักษณะอังพึงประสงค์ของผู้เรียน

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม พบว่า ในภาพรวมผู้เรียนให้ความสนใจกับบทเรียนมาก โดยหลังจากเรียนจบผู้เรียนยังซักถามเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนด้วยวิธีอื่นๆ อีก และเมื่อผู้เรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่เรียน และวิธีการเรียน ผู้เรียนมีความคิดเห็นว่า กิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ น่าสนใจ ผู้เรียนชอบที่จะทำกิจกรรมเป็นกลุ่ม ส่วนบรรยากาศการทำงานกลุ่ม พบว่า ผู้เรียนส่วนใหญ่มีความกระตือรือร้นในการทำงาน โดยจะพูดคุยและให้ความช่วยเหลือกันในการทำกิจกรรมเป็นอย่างดี จะเห็นได้ว่าการจัดกลุ่มที่มีความเหมาะสม คือการมีสมาชิกจำนวน 4 คน ปัญหาที่พบคือ ผู้เรียนไม่คุ้นเคยกับกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ จึงทำให้ค่อนข้างจะสับสนในระยะแรก และไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร เมื่อไร และจะทำกิจกรรมในใบงานอย่างไร ซึ่งครูแก้ปัญหาโดยเข้าไปอธิบายทีละกลุ่มแล้วถามกระตุ้นให้เกิดการคิดวิเคราะห์ ซึ่งหลังจากทำไปได้สักระยะหนึ่ง ผู้เรียนจึงเข้าใจและสามารถดำเนินกิจกรรมตามรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ได้ในที่สุด

ส่วนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาการออกแบบและเขียนเว็บไซด์เบื้องต้นของผู้เรียนก่อนและหลังการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 16.63 คะแนน และ 21.17 คะแนน ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน พบว่า คะแนะสอบหลังเรียนของผู้เรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สำหรับผลการประเมินความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนที่เรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี พบว่า ผู้เรียนมีความคิดสร้างสรรค์เท่ากับ 15.82 คะแนน และ 31.39 คะแนน ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน พบว่า คะแนะสอบหลังเรียนของผู้เรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

สำหรับความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ อยู่ในระดับมากที่สุด และมีความคิดเห็นว่า รูปแบบการเรียนรู้แบบนี้เป็นรูปแบบที่ดี ได้ทำงานกลุ่ม เป็นวิธีสอนที่ให้ทุกคนได้ร่วมมือกัน คนที่ไม่เก่งได้ทำงานกับคนเก่ง การฟังอธิบายจากเพื่อนทำให้กล้าซักถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ การทำงานกลุ่มเป็นสิ่งที่ได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ได้ใช้ความสามารถของตนเองอย่างเต็มที่ และทุกคนได้ร่วมมือกันในกลุ่ม และได้เรียนรู้จากต่างกลุ่มทำให้ได้แลกเปลี่ยนความคิดที่หลากหลาย

4. ผลการประเมินรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม พบว่า รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ มีความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และความเป็นประโยชน์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย สุจิตรา พงษ์วัน : [6 ก.พ. 2562 เวลา 03:01 น.]
อ่าน [4792] ไอพี : 223.206.250.242
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 2,610 ครั้ง
วันไหว้ครู ที่มาและความสำคัญของวันไหว้ครู และพิธีปฏิบัติ
วันไหว้ครู ที่มาและความสำคัญของวันไหว้ครู และพิธีปฏิบัติ

เปิดอ่าน 10,272 ครั้ง
9 ปัญหาสุขภาพ ที่ควรบอกผ่านการขับรถ
9 ปัญหาสุขภาพ ที่ควรบอกผ่านการขับรถ

เปิดอ่าน 20,443 ครั้ง
สำรวจหาดาวเคราะห์แบบเดียวกับโลก มี 100 พันล้านดวง
สำรวจหาดาวเคราะห์แบบเดียวกับโลก มี 100 พันล้านดวง

เปิดอ่าน 17,471 ครั้ง
ห้องเรียนไม่ใช่ห้องสอน บทสัมภาษณ์ ดร.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์
ห้องเรียนไม่ใช่ห้องสอน บทสัมภาษณ์ ดร.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์

เปิดอ่าน 18,606 ครั้ง
ปลูก "มะละกอ" สร้างรายได้ที่น่าทึ่ง
ปลูก "มะละกอ" สร้างรายได้ที่น่าทึ่ง

เปิดอ่าน 30,055 ครั้ง
ใส่หลอดในขวดซอสมะเขือเทศจะทำให้เทออกง่าย
ใส่หลอดในขวดซอสมะเขือเทศจะทำให้เทออกง่าย

เปิดอ่าน 18,724 ครั้ง
ข้าวกล้องงอก
ข้าวกล้องงอก

เปิดอ่าน 76,115 ครั้ง
บัญชีเงินเดือนใหม่ 2 มกราคม 2552
บัญชีเงินเดือนใหม่ 2 มกราคม 2552

เปิดอ่าน 20,116 ครั้ง
คลิปการ์ตูน ก-ฮ แบบเอาฮา พล็อตเรื่องดี
คลิปการ์ตูน ก-ฮ แบบเอาฮา พล็อตเรื่องดี

เปิดอ่าน 15,235 ครั้ง
วิธีแก้ปัญหาเด็กกินยาก
วิธีแก้ปัญหาเด็กกินยาก

เปิดอ่าน 10,275 ครั้ง
เตือน แมงกะพรุนกล่อง อาละวาด พิษแรง สัมผัสถึงตาย
เตือน แมงกะพรุนกล่อง อาละวาด พิษแรง สัมผัสถึงตาย

เปิดอ่าน 17,408 ครั้ง
นั่งหน้าคอมฯ นาน ๆ อาจตายได้!
นั่งหน้าคอมฯ นาน ๆ อาจตายได้!

เปิดอ่าน 19,687 ครั้ง
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 11,365 ครั้ง
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ คำตอบสุดท้ายจะออกมาอย่างไร
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ คำตอบสุดท้ายจะออกมาอย่างไร

เปิดอ่าน 57,786 ครั้ง
เกลือ
เกลือ

เปิดอ่าน 120,223 ครั้ง
บทความพิเศษ : การศึกษา 4.0 / ดร.โพยม จันทร์น้อย
บทความพิเศษ : การศึกษา 4.0 / ดร.โพยม จันทร์น้อย
เปิดอ่าน 9,557 ครั้ง
ตรุษจีนกับอาจารย์ช้าง ตอน เก็บกวาดบ้านเสริมฮวงจุ้ย เฮงๆรวยๆ
ตรุษจีนกับอาจารย์ช้าง ตอน เก็บกวาดบ้านเสริมฮวงจุ้ย เฮงๆรวยๆ
เปิดอ่าน 9,044 ครั้ง
ตอนนี้สามารถรับประทานเนื้อหมู ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
ตอนนี้สามารถรับประทานเนื้อหมู ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
เปิดอ่าน 20,445 ครั้ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง
เปิดอ่าน 21,850 ครั้ง
ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18
ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ