ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
โครงการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านราไว

ชื่องานประเมิน : โครงการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านราไว

ชื่อผู้ประเมิน : นายสุนันท์ เหร็มดี

ชื่อหน่วยงาน : โรงเรียนบ้านราไว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล

ปีการศึกษา : 2560

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

รายงานการประเมินโครงการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านราไว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล มีวัตถุประสงค์ของการประเมิน 1. เพื่อประเมินสภาพแวดล้อมของโครงการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านราไว 2. เพื่อประเมินความพร้อมปัจจัยนำเข้า ของโครงการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านราไว 3. เพื่อประเมินกระบวนการดำเนินการของโครงการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านราไว 4. เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนของนักเรียน โรงเรียน บ้านราไว 4.1 ผลที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการตามความคิดเห็นของนักเรียน โรงเรียนบ้านราไว 4.2 ความพึงพอใจในการจัดกิจกรรม 5 กิจกรรมของนักเรียน โรงเรียนบ้านราไว และ 4.3 ความพึงพอใจในการดำเนินโครงการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านราไว ตามความคิดเห็นของครู กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองนักเรียน ผู้ให้ข้อมูลได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ประกอบด้วย ครู 12 คน กรรมการสถานศึกษา 7 คน นักเรียน 64 คน และผู้ปกครอง 64 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประกอบด้วย แบบสอบถาม 6 ฉบับ เป็นแบบประเมินค่า 5 ระดับ สอบถามเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ปัจจัย กระบวนการ และผลผลิตของโครงการ มีค่าความเชื่อมั่นระหว่าง 0.873 – 0.948 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความตรง (IOC) และค่าความเชื่อมั่น (Reliability)

ผลการประเมิน

1. สภาพแวดล้อมของโครงการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านราไวตามความคิดเห็นของครูและกรรมการสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.54, S.D. = 0.14) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ในระดับมากที่สุดเช่นเดียวกัน เว้นข้อโครงการสอดคล้องกับนโยบายและแผนงานของต้นสังกัด และข้อวัตถุประสงค์ของโครงการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนอย่างชัดเจน อยู่ในระดับมาก ( = 3.68 S.D. = 0.74) และ ( = 3.52 S.D. = 0.69) ตามลำดับ

2. ปัจจัยนำเข้าของโครงการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านราไว ตามความคิดเห็นของครู และกรรมการสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.00 S.D. = 0.19) เมื่อพิจารณาเป็นรายองค์ประกอบ พบว่า ทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน เว้นองค์ประกอบความพร้อมของบุคลากรอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.74, S.D. = 0.52) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อครูเห็นความสำคัญของการอ่าน และการเขียนว่ามีผลต่อการพัฒนาคุณภาพนักเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.84, S.D. = 0.50) และข้องบประมาณที่โรงเรียนจัดสรรเพื่อจัดซื้อหนังสือ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 3.36, S.D. = 0.59)

3. กระบวนการโครงการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านราไว ตามความคิดเห็นของครู และกรรมการสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.20, S.D. = 0.19) เมื่อพิจารณาเป็นองค์ประกอบ พบว่า ทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน โดยองค์ประกอบด้านการวางแผนมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.44, S.D. = 0.22) องค์ประกอบด้านการติดตามผล มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 3.69, S.D. = 0.20) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อมีการประชุมวางแผนและประชาสัมพันธ์แผนงานโครงการให้นักเรียน ผู้ปกครอง และกรรมการสถานศึกษาได้รับทราบ และข้อมีการแบ่งหน้าที่ผู้รับผิดชอบแต่ละกิจกรรมมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.78, S.D. = 0.41) ข้อมีการประชุมนำปัญหาต่าง ๆ มาวางแผนการดำเนินโครงการ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 3.52, S.D. = 0.84)

4. ผลผลิตของโครงการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านราไว ตามความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง มีดังนี้

4.1 นักเรียนมีความคิดเห็นต่อการเข้าร่วมโครงการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.64, S.D. = 0.24) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน เว้นข้อนักเรียนเห็นความสำคัญในการอ่านและการเขียนหนังสือ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.73, S.D. = 0.44) ข้อนักเรียนนำความรู้ที่ได้รับจากการอ่าน และการเขียนไปเผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างสร้างสรรค์ ข้อนักเรียนยืมหนังสือจากห้องสมุดในโรงเรียน หรือแหล่งความรู้ต่าง ๆ ไปอ่านที่บ้าน ข้อนักเรียนจะรู้สึกหงุดหงิด เมื่อมีใครมาขัดจังหวะการอ่านและการเขียนหนังสือ และข้อนักเรียนชอบที่จะได้รับรางวัลเป็นหนังสือมากกว่าอย่างอื่น อยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.28, S.D. = 0.45) , ( = 2.70, S.D. = 1.01) , ( = 2.90, S.D. = 0.86) และ ( = 3.82, S.D. = 0.57) ตามลำดับ

4.2 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรม โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ( = 3.79, S.D. = 0.20) เมื่อพิจารณาเป็นรายกิจกรรม พบว่า กิจกรรมวางทุกงาน อ่านทุกคน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 3.96, S.D. = 0.26) กิจกรรมเรียงร้อยถ้อยคำตามจินตนาการ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 3.62, S.D. = 0.37)

4.3 ครู กรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครองมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมตามโครงการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.42, S.D. = 0.54) เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มพบว่า ครูมีความพึงพอใจ โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.47, S.D. = 0.52) รองลงมา ผู้ปกครองและกรรมการสถานศึกษา มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน ( = 4.41, S.D. = 0.54), ( = 4.41, S.D. = 0.64) ตามลำดับ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อของแต่ละกลุ่มของผู้ตอบพบว่า กลุ่มครูข้อนักเรียนอ่านและเขียนหนังสืออย่างตั้งใจ ค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.75, S.D. = 0.45) และข้อนักเรียนอ่านหนังสือหลายชนิดและนักเรียนหาเวลาเพ่ออ่านหนังสือและฝึกเขียนในรูปแบบต่างต่าง ๆ เป็นประจำ ค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 4.16, S.D. = 0.71) สำหรับกลุ่มของกรรมการสถานศึกษา ข้อนักเรียนอ่านและเขียนหนังสืออย่างตั้งใจ ค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.71, S.D. = 0.48) และข้อนักเรียนศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมโดยการอ่านหนังสือจากสื่อ สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ และ ฝึกเขียนเรื่องราวจากสิ่งที่อ่าน ค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 4.14, S.D. = 0.69) ในส่วนของกลุ่มผู้ปกครอง มีความเห็นตรงกับครูและกรรมการสถานศึกษา โดยข้อที่นักเรียนอ่านและเขียนหนังสืออย่างตั้งใจ ค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.75, S.D. = 0.45) และข้อนักเรียนศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมโดยการอ่านหนังสือจากสื่อ สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ และ ฝึกเขียนเรื่องราวจากสิ่งที่อ่าน ค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 4.14, S.D. = 0.69)

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

1. ด้านสภาพแวดล้อม นำผลการประเมินโครงการไปสร้างความตระหนักให้แก่บุคลากรในโรงเรียน นักเรียน ผู้ปกครองและชุมชนให้เห็นความสำคัญของโครงการ วัตถุประสงค์ของโครงการให้มีความสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการอ่านออก เขียนได้ของต้นสังกัด โดยการจัดอบรม สัมมนา ศึกษาดูงาน และประชาสัมพันธ์เพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือกับทุกฝ่าย

2. ด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการควรส่งเสริมและเพิ่มงบประมาณเพื่อจัดหาหนังสือ สื่อวัสดุอุปกรณ์เทคโนโลยีให้เพียงพอและเหมาะสมตามความต้องการของผู้เข้าร่วมกิจกรรม

3. ด้านกระบวนการ การดำเนินการควรจัดกิจกรรมที่เร้าความสนใจและเหมาะสมกับวัย จัดกิจกรรมอย่างสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง และมีการติดตามประเมินผล วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำผลไปแก้ไขปรับปรุงในปีการศึกษาต่อ ๆ ไป

4. ด้านผลผลิต ควรส่งเสริมให้นักเรียนนำกิจกรรมการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะนำไปสู่การบูรณาการกิจกรรมการเรียนการสอนในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

ข้อเสนอแนะสำหรับการประเมินหรือวิจัยในครั้งต่อไป

1. ควรประเมินโครงการที่เน้นประสิทธิผลของโครงการด้านผลผลิตและผลกระทบของโครงการ เพื่อเป็นข้อมูลสารสนเทศในการพัฒนาโครงการต่อไป

2. ควรมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับรูปแบบและวิธีการดำเนินโครงการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนในสถานศึกษา โดยมุ่งส่งเสริมสนับสนุนให้ใช้การอ่าน การเขียนในกระบวนการเรียนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้

3. ควรใช้รูปแบบประเมินโครงการในรูปแบบอื่น ๆ มาศึกษาเรื่องการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านในสถานศึกษา เพื่อเป็นข้อเท็จจริงในการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ

โพสต์โดย แอ๋ว : [4 ก.พ. 2562 เวลา 07:35 น.]
อ่าน [6160] ไอพี : 1.20.198.247
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,199 ครั้ง
จัดการผมยุ่งเหยิงยามเช้าตรู่อย่างไรดี
จัดการผมยุ่งเหยิงยามเช้าตรู่อย่างไรดี

เปิดอ่าน 12,074 ครั้ง
7 ตัวช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวอีกครั้ง
7 ตัวช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวอีกครั้ง

เปิดอ่าน 15,551 ครั้ง
ชาวโลกแห่ดูคลิป สิ่งเล็กๆ ในสังคมที่เรียกว่า "น้ำใจ" ยอดคนดูเกือบ3ล้านครั้งแล้ว
ชาวโลกแห่ดูคลิป สิ่งเล็กๆ ในสังคมที่เรียกว่า "น้ำใจ" ยอดคนดูเกือบ3ล้านครั้งแล้ว

เปิดอ่าน 29,788 ครั้ง
สัมภาษณ์ ดร.พิษณุ ตุลสุข เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. "ปัญหาหนี้สินครู"
สัมภาษณ์ ดร.พิษณุ ตุลสุข เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. "ปัญหาหนี้สินครู"

เปิดอ่าน 25,735 ครั้ง
เปิดความหมายคำว่า... พ่อ... กับเรื่องดีๆ ที่น่ารู้ในพยัญชนะตัว พ.ทั้ง 6
เปิดความหมายคำว่า... พ่อ... กับเรื่องดีๆ ที่น่ารู้ในพยัญชนะตัว พ.ทั้ง 6

เปิดอ่าน 16,137 ครั้ง
ชาวเน็ตชื่นชมมาก วงดนตรีเด็ก ร.ร.เล็กในทุ่งกว้าง
ชาวเน็ตชื่นชมมาก วงดนตรีเด็ก ร.ร.เล็กในทุ่งกว้าง

เปิดอ่าน 1,259 ครั้ง
ทำความรู้จักกับหลักสูตรการรับรองการสอนภาษาอังกฤษ TEFL /TESOL
ทำความรู้จักกับหลักสูตรการรับรองการสอนภาษาอังกฤษ TEFL /TESOL

เปิดอ่าน 29,193 ครั้ง
ใครที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานๆ ปวดเมื่อยแล้วนวดไม่หาย ต้องอ่านเรื่องนี้
ใครที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานๆ ปวดเมื่อยแล้วนวดไม่หาย ต้องอ่านเรื่องนี้

เปิดอ่าน 47,191 ครั้ง
ศีล-สมาธิ-ปัญญา...คืออะไร
ศีล-สมาธิ-ปัญญา...คืออะไร

เปิดอ่าน 19,782 ครั้ง
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร มรดกวัฒนธรรม
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร มรดกวัฒนธรรม

เปิดอ่าน 11,895 ครั้ง
ประวัติการผลิตเบียร์
ประวัติการผลิตเบียร์

เปิดอ่าน 15,316 ครั้ง
สมูทตี้สมุนไพร อร่อยได้ประโยชน์
สมูทตี้สมุนไพร อร่อยได้ประโยชน์

เปิดอ่าน 27,274 ครั้ง
8 ยุทธวิธี ออกจากเงินเดือนที่ไม่พอใช้
8 ยุทธวิธี ออกจากเงินเดือนที่ไม่พอใช้

เปิดอ่าน 31,015 ครั้ง
ภาพกีฬามันๆ โหด มัน ฮา ตลก ขำๆ มาดูกันคลายเครียด
ภาพกีฬามันๆ โหด มัน ฮา ตลก ขำๆ มาดูกันคลายเครียด

เปิดอ่าน 12,634 ครั้ง
ภัยเงียบของเด็กไทย
ภัยเงียบของเด็กไทย

เปิดอ่าน 14,302 ครั้ง
ลูกบาศก์ของรูบิค
ลูกบาศก์ของรูบิค
เปิดอ่าน 53,763 ครั้ง
แนวโน้มของเทคโนโลยีการศึกษาของไทย
แนวโน้มของเทคโนโลยีการศึกษาของไทย
เปิดอ่าน 15,167 ครั้ง
"เมียนมาร์" "เบอร์มา" ชื่อนั้นสำคัญไฉน
"เมียนมาร์" "เบอร์มา" ชื่อนั้นสำคัญไฉน
เปิดอ่าน 19,810 ครั้ง
เอกสารประกอบการสอนเสริมเพื่อเตรียมสอบ O-NET
เอกสารประกอบการสอนเสริมเพื่อเตรียมสอบ O-NET
เปิดอ่าน 22,558 ครั้ง
Active Learning กำลังจะมา แต่ผล Pisa ของไทยกำลังไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น… : โดย ณรงค์ ขุ้มทอง
Active Learning กำลังจะมา แต่ผล Pisa ของไทยกำลังไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น… : โดย ณรงค์ ขุ้มทอง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ