ชื่อเรื่อง : การพัฒนาชุดการเรียนการสอนนาฏลีลาบูชาศาลหลักเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรีและนาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย : อุดมทรัพย์ ภู่ยินดี ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของการศึกษา
1. เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดการเรียนการสอนนาฏลีลาบูชาศาลหลักเมือง กลุ่มสาระ การเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรีและนาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ชุดการเรียน การสอนนาฏลีลาบูชาศาลหลักเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรีและนาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนและครูที่มีต่อชุดการเรียนการสอนนาฏลีลาบูชาศาลหลักเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรีและนาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
การดำเนินการพัฒนา
ขั้นตอนที่ 1 การสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดการสอนนาฏลีลาบูชาศาลหลักเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรีและนาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยการวิเคราะห์หลักสูตร กำหนดวัตถุประสงค์กำหนดรูปแบบ และออกแบบชุดการเรียนสอนฯ นำชุดการเรียนสอนฯ แบบประเมิน และแบบทดสอบที่ออกแบบไว้ เสนอผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้พิจารณาความเหมาะสมของสื่อฯ และเครื่องมือ หลังจากนั้นนำเครื่องมือและชุดการเรียนการสอนฯ ที่พัฒนาขึ้นไปทดลองกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลบ้านตูม สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 3 คน เพื่อพิจารณาประสิทธิภาพเบื้องต้นของเครื่องมือและชุดการสอนฯ หลังจากนั้นนำไปปรับปรุงแก้ไขตามที่ได้รับคำแนะนำ แล้วนำไปทดลองใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เทศบาลบ้านตูม สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 9 คน เพื่อพิจารณาประสิทธิภาพของเครื่องมือและชุดการเรียนการสอนฯ อีกครั้งหนึ่ง แล้วนำไปปรับปรุงให้สมบูรณ์ ก่อนที่จะนำไปเรียนทดลองใช้ เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดเรียน การสอนฯ หลังจากนั้นนำชุดการเรียนการสอนฯ ไปทดลองใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลบ้านตูม สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 30 คน เพื่อหาประสิทธิภาพของการสอนฯ ตามเกณฑ์ 80/80
ขั้นตอนที่ 2 การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการใช้ชุดการสอนนาฏลีลาบูชาศาลหลักเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรีและนาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยผู้วิจัยในฐานะผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรีและนาฏศิลป์) ดำเนินการสอนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล บ้านโนนทัน สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 25 คน ตามแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 14 ชั่วโมง เมื่อสิ้นสุดการสอนแล้ว ทำการทดสอบด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ตรวจผลการทดสอบ นำคะแนนที่ได้มาวิเคราะห์โดยวิธีการทางสถิติเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนกับหลังเรียน
ขั้นตอนที่ 3 การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนและครูที่มีต่อชุดการเรียนการสอนนาฏลีลาบูชาศาลหลักเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรีและนาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้ กลุ่มตัวอย่างเดียวกับใช้ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 25 คน และครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรี-นาฏศิลป์) จำนวน 3 คน ทำแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อชุดการสอนฯ นำผลการประเมินที่ได้มาวิเคราะห์โดยวิธีการ ทางสถิติ
สรุปผล
1. ผลการสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดการเรียนการสอนนาฏลีลาบูชาศาลหลักเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรีและนาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยการหาความเหมาะสม ของแผนการจัดการเรียนรู้ชุดการสอน การพิจารณาของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านเนื้อหาสาระการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการเรียนการสอนและการประเมินผลการเรียนรู้ โดยภาพรวมอยู่ในระดับดี และเมื่อพิจารณาในแต่ละเรื่อง อยู่ในระดับดีทุกเรื่อง ยกเว้นด้านจุดประสงค์การเรียนรู้ เรื่อง สามารถให้บรรลุพฤติกรรมที่คาดหวัง อยู่ในระดับดีมาก และผลการหาความเหมาะสมของชุดการเรียนการสอนโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ในภาพรวม อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณา ในแต่ละด้าน อยู่ในระดับมาก ทุกด้าน ยกเว้นด้านคุณค่าและประโยชน์ที่ได้รับ อยู่ในระดับมากที่สุดและผลการประเมินความเหมาะสมของแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชุดเรียนการสอนนาฏลีลาบูชาศาลหลักเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรีและนาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยผู้เชี่ยวชาญพบว่า ดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ของแบบทดสอบ มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) อยู่ระหว่าง 0.80 -1.00 และการหาประสิทธิภาพของชุดการสอนนาฏลีลาบูชาศาลหลักเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรีและนาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า ชุดการเรียนการสอน มีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.26/90.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เป็นกลุ่มตัวอย่างหลังจากเรียนด้วยชุดการเรียนการสอนนาฏลีลาบูชาศาลหลักเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรีและนาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ตามผลการวิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจของชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และครูผู้สอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรีและนาฏศิลป์) ที่มีต่อชุดการเรียนการสอนนาฏลีลาบูชาศาลหลักเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรีและนาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า ความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อชุดการเรียนการสอนที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้น พบว่า ความพึงพอใจที่มีต่อชุดการเรียน การสอนในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาในแต่ละเรื่อง พบว่า เรื่องที่มีความพึงพอใจมากที่สุด คือ เรื่องนักเรียนนำไปใช้ปฏิบัติจริงรู้จักคิดค้นและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้ และเรื่องนักเรียน มีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรมทุกขั้นตอนและศึกษาเนื้อหาได้ถูกต้องมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาเรื่อง ชุดการเรียนการสอนนาฏลีลาบูชาศาลหลักเมือง สามารถใช้เป็นแนวทางการศึกษาความรู้ได้จริง อยู่ในระดับมากที่สุด และเรื่องที่มีความพึงพอใจน้อยที่สุด คือ เรื่อง สื่อเร้าความสนใจสนุกสนานเพลิดเพลินอยู่ในระดับมาก สำหรับความพึงพอใจของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรีและนาฏศิลป์) ที่มีต่อชุดการเรียนการสอนนาฏลีลาบูชาศาลหลักเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรีและนาฏศิลป์)ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในภาพรวมพบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาในแต่ละเรื่องพบว่า เรื่องที่มีความพึงพอใจมากที่สุด คือ เรื่อง ชุดการเรียนการสอนนาฏลีลาบูชาศาลหลักเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรีและนาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สามารถใช้เป็นแนวทาง การศึกษาความรู้ได้จริง เรื่องนักเรียนมีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรมทุกขั้นตอนและศึกษาเนื้อหาได้ถูกต้อง และเรื่องภาพแสดงต้นแบบเหมาะสมมีคำอธิบายชัดเจนเข้าใจง่าย อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา เรื่อง แก้ปัญหาการขาดแคลนสื่อการเรียนการสอนได้ อยู่ในระดับมากที่สุด และเรื่องที่มีความพึงพอใจ น้อยที่สุด คือ เรื่องนักเรียนสามารถนำไปใช้ปฏิบัติจริง รู้จักคิดค้นและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้ และเรื่องสามารถประยุกต์ใช้กับกลุ่มสาระอื่นๆ ได้ อยู่ในระดับมาก