ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สมการและการแก้สมการ
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้รายงาน นายกิตติณ์พณ ทุงฤทธิ์
ปีการศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านหัวขัวโพธิ์ศรี
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 1
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สมการและ
การแก้สมการ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สมการและการแก้สมการ และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สมการและการแก้สมการ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหัวขัวโพธิ์ศรี อำเภอแกดำ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 9 คน ซึ่งได้มาจาก
การเลือกแบบเจาะจง (Purposive Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้ามี 5 ชนิด คือ 1) แผนการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สมการและการแก้สมการ 2) แบบฝึกเสริมทักษะเรื่อง สมการและการแก้สมการ 3) แบบทดสอบย่อยก่อนเรียน-หลังเรียนของแบบฝึกเสริมทักษะ
4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน
ที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สมการและการแก้สมการ แบบแผนการทดลองใน
ครั้งนี้เป็นแบบกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Research) วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 เปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ โดยใช้ค่าสถิติ t–test (Dependent Samples) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .01 วิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สมการและการแก้สมการ โดยใช้ค่าเฉลี่ย (Mean) เปรียบเทียบกับเกณฑ์ 5 ระดับ คือ มีความพึงพอใจมากที่สุด
มีความพึงพอใจมาก มีความพึงพอใจปานกลาง มีความพึงพอใจน้อย และมีความพึงพอใจน้อยที่สุด
ผลการศึกษาค้นคว้า พบว่า 1) แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สมการและการแก้สมการ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 2.78/84.07 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้ 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ สมการและการแก้สมการ สูงกว่าก่อนการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สมการและการแก้สมการ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ 3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ
เรื่อง สมการและการแก้สมการ ที่ผู้รายงานสร้างขึ้นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.59 ( = 4.59 ,
S.D. = 0.47) ซึ่งหมายถึงนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สมการและการแก้สมการ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับมากที่สุด