|
|
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) เรื่อง เพศศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 วัตถุประสงค์การศึกษาได้แก่1) เพื่อพัฒนาคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง เพศศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง เพศศึกษา 3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง เพศศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) เรื่อง เพศศึกษา ลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนน้ำขุ่นวิทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 39 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 15 แผน ค่าความเหมาะสม เท่ากับ 4.51 2) คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) จำนวน 5 หน่วย ค่าความเหมาะสม เท่ากับ 4.66 3) แบบทดสอบย่อยระหว่างเรียน จำนวน 50 ข้อ ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .20-.80 ค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง .23-80 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.94 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน (Pre-test) หลังเรียน (Post-test) จำนวน 30 ข้อ ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .23-.80 ค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง .20-80 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.97 และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 26 ข้อ ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .20-.80 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.8955 เก็บข้อมูลแบบ One Group Pre-test Post-test Design ได้แก่ สอบก่อนการทดลอง (Pre - test) การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) (Treatment) และสอบหลังการทดลอง (Post - test) แบบสอบถามความพึงพอใจ เก็บข้อมูลโดยให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถาม แล้นำมาให้ค่าคะแนน และแปลผลตามเกณฑ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ IOC วิเคราะห์ค่าความสอดคล้องของแบบทดสอบ E1/E2 หาประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) ใช้สถิติ t-test ทดสอบการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน ใช้สถิติของ กูดแมน เฟรทเชอร์ และชไนเดอร์ในการหาค่าดัชนีประสิทธิผล (The Effectiveness Index : E.I.) ของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) ใช้สถิติของแบรนแนน (Brennan) หาค่าอำนาจจำแนก (B) ค่าความยากง่าย (p) ใช้สถิติของโลเวท (Lovett) หาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ (rcc) ของแบบทดสอบย่อยระหว่างเรียน และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใช้วิธี Item total Correlation ใช้สูตรสหสัมพันธ์อย่างง่ายของ Pearson หาค่าอำนาจจำแนกแบบสอบถาม ใช้สถิติสัมประสิทธิ์แอลฟา (Alpha Coefficient) ของครอนบาค (Cronbach) หาค่าความเชื่อมั่นแบบสอบถาม และใช้สถิติพื้นฐานวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย (X-bar )
ร้อยละ (P) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา เรื่อง เพศศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่า = 83.08/82.56 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. คะแนนทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. ดัชนีประสิทธิผลของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง เพศศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.7530 หมายความว่า คอมพิวเตอร์ ช่วยสอน (CAI) ชุดนี้ ทำให้การเรียนของนักเรียน มีความก้าวหน้าเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 75.30 สูงกว่าเกณฑ์ที่ยอมรับได้
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตอบแบบสอบถาม จำนวน 39 คน เป็นนักเรียนชาย จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 30.77 เป็นนักเรียนหญิง 27 คน คิดเป็นร้อยละ 69.23 โดยรวมความพึงพอใจของนักเรียนชาย มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( X-bar= 4.06) และโดยรวมความพึงพอใจของนักเรียนหญิงมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( X-bar= 4.24)
|
โพสต์โดย นายสุทธิศักดิ์ ชมภูแสน : [26 ธ.ค. 2561 เวลา 11:45 น.] อ่าน [3015] ไอพี : 223.206.236.133
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 22,094 ครั้ง
| เปิดอ่าน 33,940 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,112 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,579 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,067 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,139 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,967 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,854 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,384 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,527 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,757 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,039 ครั้ง
| เปิดอ่าน 37,087 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,028 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,632 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 19,171 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,524 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,879 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,344 ครั้ง
| เปิดอ่าน 578 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|