ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบ LEC เพื่อเสริมสร้างหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง น้ำพริกสมุนไพรไทยในท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางจันทร์จิรา สาแก้ว
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
รายงานการวิจัยและพัฒนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียน การสอนแบบ LEC เพื่อเสริมสร้างหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง น้ำพริกสมุนไพรไทยในท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี 2) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบ LEC เพื่อเสริมสร้างหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง น้ำพริกสมุนไพรไทยในท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 3) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบ LEC เพื่อเสริมสร้างหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง น้ำพริกสมุนไพรไทยในท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยดำเนินการตามลักษณะของกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีวิธีดำเนินการวิจัย 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษาข้อมูลเบื้องต้น ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนฯ และระยะที่ 3 การนำรูปแบบการเรียนการสอนไปใช้ ซึ่งในขั้นการทดลองใช้ ผู้วิจัยใช้แบบแผนการวิจัยแบบกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Design) โดยใช้ กลุ่มทดลองกลุ่มเดียว มีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (One Group Pretest Posttest Design) กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านไกลเสนียด อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 จำนวน 17 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) และบุคคลทั่วไปในโรงเรียนที่ทดลองชิมและสัมผัสน้ำพริกสมุนไพร จำนวน 44 คน โดยใช้วิธีสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ตามสัดส่วน ตารางของเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie&Mogan. 1970 : 608) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการเรียนการสอนแบบ LEC เพื่อเสริมสร้างหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง น้ำพริกสมุนไพรไทยในท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี 2) เครื่องมือที่ใช้ควบคู่กับรูปแบบการเรียนการสอน ฯ ซึ่งประกอบด้วย (1) ชุดกิจกรรมตามรูปแบบ LEC เพื่อเสริมสร้างหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (2) คู่มือการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมตามรูปแบบ LEC เพื่อเสริมสร้างหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (4) แบบสอบถามความพึงพอใจ และ (5) แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้ที่รับประทานน้ำพริกสมุนไพร การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้สถิติ ค่าร้อยละ (P) ค่าเฉลี่ย (x̄) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และทดสอบค่าที (ttest dependent samples)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน ฯ พบว่า ได้รูปแบบการเรียนการสอนแบบ LEC เพื่อเสริมสร้างหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง น้ำพริกสมุนไพรในท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ คือ หลักการ จุดมุ่งหมาย กระบวนการเรียนการสอน และการวัดและการประเมินผล ซึ่งกระบวนการเรียนการสอน ประกอบด้วย ขั้นเห็นคุณค่าการเรียนรู้(Learning and Appreciation) ขั้นเรียนรู้เชิงประสบการณ์ร่วมกัน (Experiential Learning and Learning Together) และขั้นตกผลึกความรู้อย่างสร้างสรรค์ (Creative Productive Learning) โดยมีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด คะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 4.60 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.49 และมีความสอดคล้องระหว่าง 0.80 - 1.00 สามารถนำไปใช้
ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้
2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนฯ พบว่า
2.1 นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบ LEC เพื่อเสริมสร้างหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง น้ำพริกสมุนไพรไทยในท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
2.2 นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบ LEC เพื่อเสริมสร้างหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีทักษะกระบวนการปฏิบัติการทำน้ำพริกสมุนไพรไทยในท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี อยู่ในระดับดี เฉลี่ย เท่ากับ 12.85 และมีคะแนนสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน อยู่ในระดับดีทุกด้าน เฉลี่ย เท่ากับ 38.21
3. ผลการประเมินผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอน ฯ พบว่า
3.1 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบ LEC เพื่อเสริมสร้างหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง น้ำพริกสมุนไพรไทยในท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด เฉลี่ย เท่ากับ 4.56 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.53
3.2 ผู้ที่รับประทานน้ำพริก มีความพึงพอใจต่อน้ำพริกสมุนไพรไทยในท้องถิ่น อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด คะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 4.88 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.39 เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ผู้ที่รับประทานน้ำพริก มีความชอบต่อน้ำพริกหมูตะไคร้ และน้ำพริกชื่นกมล (รากบัว) อยู่ในระดับมากที่สุด