ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินความต้องการจำเป็นในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการมีจิตอาสาของนักเรียนโรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินความต้องการจำเป็นในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

เพื่อส่งเสริมการมีจิตอาสาของนักเรียนโรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง

ผู้วิจัย นางยุพา เวียงกมล อัดโดดดร

ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการมีจิตอาสาของนักเรียน โรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง 2) นำเสนอแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการมีจิตอาสาของนักเรียน โรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง และ 3) ประเมินความเหมาะสมของแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการมี

จิตอาสาของนักเรียน โรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง

กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) นักเรียนช่วงชั้นที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ของโรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง จำนวน 327 คน 2) ครูโรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง ปีการศึกษา 2560 ของโรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง จำนวน 28 คน 3) ตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนจำนวน 178 ที่ได้จาก

การกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน 13 คน (ไม่นับรวมผู้อำนวยการสถานศึกษาและตัวแทนครูผู้สอน) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี 3 ชนิดคือ

1) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพความต้องการจำเป็นในการจัดกิจกรรม

การเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการมีจิตอาสาของนักเรียนโรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง ประกอบด้วยแบบวัดจำนวน 6 ฉบับ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ชนิดตอบสนองคู่ (Dual Responses) ดังนี้

ฉบับที่ 1 แบบวัดพฤติกรรมจิตอาสา จำนวน 15 ข้อ

ฉบับที่ 2 แบบวัดการรับรู้ความสามารถของตนเอง จำนวน 9 ข้อ

ฉบับที่ 3 แบบวัดการเห็นคุณค่าในตนเอง จำนวน 24 ข้อ

ฉบับที่ 4 แบบวัดแรงจูงใจอาสา จำนวน 24 ข้อ

ฉบับที่ 5 แบบวัดการมีตัวแบบด้านจิตอาสา จำนวน 9 ข้อ

ฉบับที่ 6 แบบวัดการสนับสนุนทางสังคม จำนวน 10 ข้อ

2) แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง ที่มีเนื้อหาครอบคลุมถึงโอกาส และอุปสรรคในการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการมีจิตอาสาของนักเรียนโรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง ใช้สัมภาษณ์ตัวแทนผู้ปกครองช่วงชั้นที่ 2 จำนวนระดับชั้นละ 1 คน รวม 3 คน ประธานกรรมการสถานศึกษา

ขั้นพื้นฐาน และผู้อำนวยการโรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง รวมกลุ่มเป้าหมายในการสัมภาษณ์

ทั้งสิ้น 5 คน

3) แบบประเมินความเหมาะสมแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการมีจิตอาสาของนักเรียนโรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง เป็นแบบตรวจสอบ (ร่าง) แนวทางทางการจัดกิจกรรม

การเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการมีจิตอาสาของนักเรียนโรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (5 Rating scale) โดยมีเกณฑ์ในการพิจารณาตรวจสอบ (ร่าง)แนวทาง ประกอบด้วยเกณฑ์ 4 ประการ คือ 1) ด้านความเหมาะสม (Propriety) 2) ด้านความเป็นไปได้ (Feasibility) 3) ด้านความสอดคล้อง (Congruity) และ 4) ด้านความเป็นประโยชน์ (Utility)

ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิค Modified Priority Needs Index (PNImodified) ในการจัดลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการมีจิตอาสาของนักเรียนโรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง สำหรับข้อมูลจากแบบสอบถาม และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) สำหรับข้อมูลจากแบบสัมภาษณ์

ผลการวิจัยพบว่า

1) สภาพที่พึงประสงค์ของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการมีจิตอาสาของนักเรียน โรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง พบว่ามีค่าเฉลี่ยของความต้องการจำเป็นสูงกว่าสภาพปัจจุบันในทุกด้านและเรียงตามลำดับความสำคัญ เป็นดังนี้ 1) การเห็นคุณค่าในตนเอง 2) การมีตัวแบบด้านจิตอาสา 3) การสนับสนุนทางสังคม 4) แรงจูงใจอาสา 5) พฤติกรรมจิตอาสา และ 6) การรับรู้ความสามารถของตนเอง ตามลำดับ

2) นำเสนอแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการมีจิตอาสาของนักเรียน โรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง เป็นดังนี้

2.1) แนวทางเพื่อขยายงานและสร้างความเจริญเติบโต (Stars) มี 10 ประเด็น

2.2) แนวทางรักษาเสถียรภาพ ชะลอ ปรับปรุง พัฒนาสมรรถนะภายในเพื่อรอโอกาสที่เหมาะสมในการดำเนินกิจการให้เจริญเติบโตต่อไป (cash cows) มี 10 ประเด็น

2.3) แนวทางที่เหมาะสมเป็นแนวทางลดจุดอ่อน หรือแนวทางส่งเสริม ปรับปรุง เร่งรัดเพื่อสร้างโอกาสในการขยายงานหรือสร้างความเจริญเติบโตในอนาคต (question marks) มี 10 ประเด็น

2.4) แนวทางที่เหมาะสมเป็นแนวทางลดจุดอ่อนและหลีกเลี่ยงอุปสรรค หรือเรียกว่าแนวทางตัดทอน ยุบเลิก ควบกิจการ (dogs) มี 10 ประเด็น

3) ความเหมาะสมของแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการมีจิตอาสาของนักเรียน โรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง

3.1) ผลการตรวจสอบความเหมาะสมของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริม

การมีจิตอาสาของนักเรียน โรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง ด้านความเหมาะสม จากผู้ทรงคุณวุฒิและ

ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับมาก

3.2) ผลการตรวจสอบแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการมีจิตอาสาของนักเรียนที่สร้างขึ้นด้านความเป็นไปได้ โดยภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับมาก

3.3) ผลการตรวจสอบแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการมีจิตอาสาของนักเรียนที่สร้างขึ้น ด้านความสอดคล้อง โดยภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด

3.4) ผลการตรวจสอบแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการมีจิตอาสาของนักเรียนที่สร้างขึ้น ด้านความเป็นประโยชน์ โดยภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด

4) ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริม

การมีจิตอาสาของนักเรียน โรงเรียนพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง จากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

สรุปได้ดังนี้

4.1) แนวทางมีความเหมาะสม แต่ควรปรับการใช้คำให้สื่อความหมายมากขึ้นและรวมแนวทางหลักบางประเด็นเข้าด้วยกัน เพื่อเป็นแนวทางหลักที่จะนำไปสู่การปฏิบัติตามแนวทางได้อย่างเป็นรูปธรรม และเหมาะที่จะนำมาใช้ในการพัฒนาโรงเรียนเพื่อการขับเคลื่อนการมีจิตอาสาของผู้เรียน ควรพิจารณาการเขียนใน 2 ระดับคือ

4.1.1) ระดับผลที่เกิดต่อผู้เรียน มุ่งไปที่การเปลี่ยนแปลงในตัวเรียนและครอบคลุมสมรรถนะทั้งด้านพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย

4.1.2) ระดับสถานศึกษา มุ่งไปที่การเปลี่ยนแปลงของสถานศึกษาในด้านการบริหารวิชาการ ครอบคลุมทั้งด้านหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน การพัฒนาครู และการพัฒนาระบบสนับสนุนการเรียนรู้

4.2) แนวทางบางข้อต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมที่จะนำไปใช้ เพื่อแนวทางส่งเสริมให้มีการกระจายอำนาจและหน้าที่ให้ครูและบุคลาการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานตามหลักประชาธิปไตยภายใต้กรอบอำนาจและหน้าที่

โพสต์โดย อ้อย : [25 พ.ย. 2561 เวลา 19:02 น.]
อ่าน [4993] ไอพี : 1.2.151.142
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,181 ครั้ง
แพทย์ไทยวิจัยพบ เถาวัลย์เปรียง รักษาอาการปวด
แพทย์ไทยวิจัยพบ เถาวัลย์เปรียง รักษาอาการปวด

เปิดอ่าน 146,431 ครั้ง
บัญชีเงินเดือนข้าราชการครู
บัญชีเงินเดือนข้าราชการครู

เปิดอ่าน 23,794 ครั้ง
"กำจัดจุดอ่อน" ผลงานทางวิชาการ สาขาภาษาไทย
"กำจัดจุดอ่อน" ผลงานทางวิชาการ สาขาภาษาไทย

เปิดอ่าน 14,622 ครั้ง
ขนมเสริมมงคล 12 ราศี
ขนมเสริมมงคล 12 ราศี

เปิดอ่าน 19,784 ครั้ง
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน

เปิดอ่าน 14,712 ครั้ง
"สมุนไพร" ส่วนประกอบอาหารไทยที่มีคุณค่า
"สมุนไพร" ส่วนประกอบอาหารไทยที่มีคุณค่า

เปิดอ่าน 13,480 ครั้ง
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร

เปิดอ่าน 23,377 ครั้ง
ตัวหนังสือไทยต่างๆ นอกราชอาณาจักรไทย
ตัวหนังสือไทยต่างๆ นอกราชอาณาจักรไทย

เปิดอ่าน 7,761 ครั้ง
ธอส.เปิดให้ดาวน์โหลดฟรี พิมพ์เขียว แบบ "บ้านรักษ์โลก" งบไม่เกิน 1-2 ล้าน
ธอส.เปิดให้ดาวน์โหลดฟรี พิมพ์เขียว แบบ "บ้านรักษ์โลก" งบไม่เกิน 1-2 ล้าน

เปิดอ่าน 14,321 ครั้ง
เนียนจริง มุขเด็ดสำหรับการหาที่จอดรถ ดูซิ เจ๊แกใช้มุขไหน?
เนียนจริง มุขเด็ดสำหรับการหาที่จอดรถ ดูซิ เจ๊แกใช้มุขไหน?

เปิดอ่าน 10,642 ครั้ง
เทคนิคการคูณเลขแบบญี่ปุ่นกรณีมีเลขศูนย์อยู่ด้วย
เทคนิคการคูณเลขแบบญี่ปุ่นกรณีมีเลขศูนย์อยู่ด้วย

เปิดอ่าน 415,146 ครั้ง
ทฤษฎีจิตสังคมของอีริคสัน (Erikson)
ทฤษฎีจิตสังคมของอีริคสัน (Erikson)

เปิดอ่าน 18,862 ครั้ง
เกมส์ต่อสู้
เกมส์ต่อสู้

เปิดอ่าน 7,151 ครั้ง
การปลูกกระเทียม
การปลูกกระเทียม

เปิดอ่าน 22,231 ครั้ง
ปัญหาและการแก้ปัญหา
ปัญหาและการแก้ปัญหา

เปิดอ่าน 14,982 ครั้ง
ยิ่งเดิน ยิ่งดีต่อสุขภาพ
ยิ่งเดิน ยิ่งดีต่อสุขภาพ
เปิดอ่าน 19,902 ครั้ง
สักขี คำที่คุ้นหู ที่จริงคือพืชนั่นเอง
สักขี คำที่คุ้นหู ที่จริงคือพืชนั่นเอง
เปิดอ่าน 22,315 ครั้ง
3G สามจี หรือ ทรีจี
3G สามจี หรือ ทรีจี
เปิดอ่าน 5,871 ครั้ง
กลยุทธ์การตลาดออนไลน์เบื้องต้นที่จำเป็นต่อคนรุ่นใหม่ในการต่อยอดความรู้ด้านธุรกิจ
กลยุทธ์การตลาดออนไลน์เบื้องต้นที่จำเป็นต่อคนรุ่นใหม่ในการต่อยอดความรู้ด้านธุรกิจ
เปิดอ่าน 32,664 ครั้ง
ประโยชน์ของ e-Learning
ประโยชน์ของ e-Learning

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ