บทสรุปของผู้บริหาร
การพัฒนาหลักสูตรภาวะผู้นำทางการศึกษาความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัย
ซีหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาหลักสูตรภาวะผู้นำทางการศึกษาความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยซีหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน 2) ทดลองใช้และตรวจสอบประสิทธิภาพของหลักสูตร และ 3) การติดตามและประเมินผลหลักสูตร ซึ่งดำเนินการ 5 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาและวิเคราะห์เอกสาร
ขั้นตอนที่ 2 การสร้างหลักสูตรภาวะผู้นำทางการศึกษาความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยซีหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน
ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้และตรวจสอบประสิทธิภาพของหลักสูตร
ขั้นตอนที่ 4 การติดตามและประเมินผลหลักสูตร
ขั้นตอนที่ 5 การปรับปรุงหลักสูตร
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 30 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยที่สร้างขึ้น ได้รับการตรวจสอบคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ และทดลองใช้เพื่อหาค่าความเชื่อมั่น ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดความรู้ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.9246 2) แบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อหลักสูตร มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .8931 และ 3) แบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการดำเนินการฝึกอบรม มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .8657 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที
ผลการวิจัย มีดังนี้
1. หลักสูตร ประกอบด้วย หลักการและเหตุผล ปรัชญาและแนวคิด หลักการเรียนรู้และพัฒนา วัตถุประสงค์ของหลักสูตร ขั้นตอนในการฝึกอบรม โครงสร้างและหน่วยการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ แนวทางการฝึกอบรม สื่อที่ใช้ในการฝึกอบรม ระยะเวลา คุณสมบัติของผู้เข้ารับการฝึกอบรม วิธีการคัดเลือก การวัดและประเมินผล และแผนการเรียนรู้
2. การวิเคราะห์การตรวจสอบความเหมาะสมของหลักสูตรภาวะผู้นำทางการศึกษาความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยซีหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยการประชุมปฏิบัติการร่วมกันระหว่างผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการและผู้เชี่ยวชาญของไทยกับผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตรของมหาวิทยาลัยซีหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ในคราวเดินทางไปประชุมความร่วมมือทางวิชาการด้านการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้เชี่ยวชาญได้ประเมินความเหมาะสมของหลักสูตรภาวะผู้นำทางการศึกษาความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยซีหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ในภาพรวม พบว่า หลักสูตรมีความเหมาะสมภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นด้านพบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 9 รายการ ได้แก่ องค์ประกอบของหลักสูตร สื่อที่ใช้ในการฝึกอบรม จุดประสงค์การเรียนรู้ แนวทางการฝึกอบรม โครงสร้างและหน่วยการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ แผนจัดการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผล ระยะเวลา สำหรับวิธีการคัดเลือก และคุณสมบัติของผู้เข้ารับการฝึกอบรม มีความเหมาะสมภาพรวมอยู่ในระดับมาก
3. การทดลองใช้และตรวจสอบประสิทธิภาพของหลักสูตรภาวะผู้นำทางการศึกษาความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยซีหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน พบว่า 1) หลักสูตรมีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 91.33/90.50 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 2) ผู้เข้ารับการฝึกอบรม มีคะแนนหลังการฝึกอบรมสูงกว่าคะแนนก่อนการฝึกอบรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) การประเมินความพึงพอใจของผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่มีต่อหลักสูตร พบว่า มีความพึงพอใจต่อหลักสูตร อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า มีความพึงพอใจทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ ด้านความรู้ความเข้าใจในการฝึกอบรม ด้านเนื้อหาวิชาหลักสูตร ด้านความเหมาะสมของเนื้อหาสาระและกิจกรรมการฝึกอบรม ด้านปัจจัยเกื้อหนุนในการจัดฝึกอบรม และด้านวิทยากร เทคนิคการฝึกอบรม 4) การประเมินความพึงพอใจของผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่มีต่อการจัดฝึกอบรมในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายประเด็น พบว่า มีความพึงพอใจต่อการดำเนินการ อยู่ในระดับมากที่สุด 3 ด้าน ได้แก่ ด้านประโยชน์และความคุ้มค่า ด้านกระบวนการจัดการ ด้านการดำเนินการระยะที่ 1 การพัฒนาในประเทศ ณ สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา สำหรับด้านการดำเนินการระยะที่ 2 การพัฒนาในต่างประเทศ ณ มหาวิทยาลัยซีหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
4. การติดตามและประเมินผลหลักสูตร พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้นำความรู้ และประสบการณ์ที่ได้รับจากหลักสูตร นำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ พัฒนาตนเอง พัฒนาสถานศึกษา และพัฒนาจัดการเรียนการสอน ตลอดจนขยายผลไปยังสถานศึกษาอื่นๆ และสังคม มีความเป็นผู้นำทางการศึกษา มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีความรู้ความสามารถด้านวิชาการ เป็นต้นแบบการเสนอแนวคิดในการพัฒนาการศึกษา เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการศึกษาอย่างกว้างขวาง สนับสนุนผลักดันให้เกิดการจัดการศึกษาในสถานศึกษาและพื้นที่ รวมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการกับต่างประเทศ เป็นที่ยอมรับของสังคมในระดับพื้นที่และระดับประเทศ
5. การปรับปรุงหลักสูตร พบว่า ควรเพิ่มหน่วยการเรียนรู้ในการพัฒนาในประเทศเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการพัฒนาในต่างประเทศ ควรเพิ่มการพัฒนาระยะที่ 3 การพัฒนา ในประเทศ เพื่อจัดทำแผนกลยุทธ์การพัฒนาสถานศึกษา ควรกำหนดคุณสมบัติของผู้เข้ารับการพัฒนา อายุไม่เกิน 50 ปี และมีประสบการณ์ในการบริหารสถานศึกษา ไม่น้อยกว่า 5 ปี และวิธีการคัดเลือก ควรให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการคัดเลือก
6. ข้อเสนอแนะ
6.1 เชิงนโยบาย
6.1.1 ควรมีหน่วยงานประสานความร่วมมือเครือข่ายทางการศึกษากับสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างต่อเนื่อง
6.1.2 ควรส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการ ให้มีโอกาสไปพัฒนาตนเองตามความร่วมมือทางวิชาการในต่างประเทศ เพื่อทำให้มีวิสัยทัศน์ ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาการศึกษาให้ก้าวหน้าตอบสนองนโยบายประเทศไทย 4.0 (Thailand 4.0)
6.2 การพัฒนาหลักสูตร
6.2.1 ด้านหลักสูตร ควรเพิ่มหน่วยการเรียนรู้ในการพัฒนาในประเทศเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทางไปพัฒนาในต่างประเทศ ด้านทักษะภาษา และเพิ่มการพัฒนาระยะที่ 3 การพัฒนาในประเทศ หลังกลับจากการฝึกอบรม ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อให้ผู้เข้ารับการพัฒนาจัดทำแผนกลยุทธ์การพัฒนาสถานศึกษา โดยใช้ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมตามหลักสูตรมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับการจัดการศึกษาในประเทศไทย
6.2.2 ด้านคุณสมบัติผู้เข้ารับการฝึกอบรม ควรกำหนดอายุของผู้เข้ารับการฝึกอบรม ไม่เกิน 50 ปี และมีประสบการณ์ในการบริหารสถานศึกษา ไม่น้อยกว่า 5 ปี มีผลงาน การบริหารสถานศึกษาโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม มีความมุ่งมั่นตั้งใจสามารถเข้ารับการฝึกอบรมตลอดหลักสูตร ตลอดจนมีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์และสุขอนามัยแข็งแรงดี
6.2.3 ด้านวิธีการคัดเลือก ควรให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัด พิจารณาคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษาตามคุณสมบัติและเกณฑ์ที่กำหนด และควรมีการทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษเพื่อคัดเลือกผู้รับทุนการพัฒนา โดยเรียงลำดับคะแนนทดสอบ และเสนอรายชื่อให้มหาวิทยาลัยซีหนาน พิจารณาอนุมัติทุนการพัฒนาในต่างประเทศ
6.2.4 ด้านการบริหารจัดการฝึกอบรมในต่างประเทศ ควรพิจารณาความเหมาะสมของผู้ที่ทำหน้าที่แปลภาษาโดยขอให้มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการจัดการศึกษาแต่ละระดับ เพื่อลดความคลาดเคลื่อนในการแปล ควรมีบริการอินเตอร์เน็ตเพื่อการสืบค้นข้อมูลและ การประสานงาน ควรจัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยประสานงานระหว่างการพัฒนา และมีการประชุมร่วมกัน ควรจัดสถานที่ศึกษาดูงานให้มีความสอดคล้องกับการฝึกอบรมภาคทฤษฎี และควรจัดเวทีสัมมนา เพื่อนำเสนอแลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่การปฏิบัติ เป็นต้น