ชื่อเรื่องวิจัย รูปแบบการพัฒนาคุณภาพนักเรียนโดยใช้กระบวนการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้
เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ของนักเรียนโรงเรียนวัดควนเมาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2
ผู้วิจัย
ตำแหน่ง
ปีที่วิจัย นางอรทัย เกิดภิบาล
ผู้อำนวยการโรงเรียน
ปี พ.ศ.2559-2560
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาคุณภาพนักเรียนโดยใช้กระบวนการจัดการแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์นักเรียน2) สร้างและพัฒนารูปแบบการพัฒนาคุณภาพนักเรียนโดยใช้กระบวนการจัดการแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์นักเรียน3) ศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการพัฒนาคุณภาพนักเรียนโดยใช้กระบวนการจัดการแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์นักเรียน4) ทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาคุณภาพนักเรียนโดยใช้กระบวนการจัดการแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์นักเรียน และ 5) ศึกษาผลของการใช้รูปแบบการพัฒนาคุณภาพนักเรียนโดยใช้กระบวนการจัดการแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์นักเรียน
กลุ่มผู้ให้ข้อมูลในการวิจัย ประกอบด้วย ผู้บริหาสถานศึกษา ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2559 จำนวน 265 คน ปีการศึกษา 2560 จำนวน 254คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสำรวจความต้องการ แบบสัมภาษณ์ แบบสอบถาม แบบบันทึก สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (X ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที และวิเคราะห์ข้อมูลบรรยายเชิงคุณภาพ
ผลการวิจัยพบว่า
1. ความต้องการจำเป็นในการพัฒนารูปแบบ พบว่า ทั้งครูและนักเรียน มีความต้องการในการพัฒนารูปแบบการพัฒนาคุณภาพนักเรียนโดยใช้กระบวนการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ของนักเรียนโรงเรียนวัดควนเมาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2อยู่ระดับมาก และผ่านเกณฑ์การสำรวจความต้องการจำเป็นในการพัฒนารูปแบบ
2. ผลการพัฒนารูปแบบการพัฒนาคุณภาพนักเรียนโดยใช้กระบวนการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ของนักเรียนโรงเรียนวัดควนเมาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 ปรากฏว่าในรูปแบบมีองค์ประกอบที่สำคัญ 4 ประการคือ ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ ผลผลิตและสภาพแวดล้อมที่เชื่อมโยงต่อเนื่องกันเป็นวัฎจักรด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม ได้รูปแบบการปฏิบัติงานที่สอดคล้องและส่งผลร่วมกันให้เกิดการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนวัดควนเมา
3. ประสิทธิภาพของรูปแบบมีความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของประเด็นคำถามเกี่ยวกับองค์ประกอบของรูปแบบการพัฒนาคุณภาพนักเรียนโดยใช้กระบวนการจัดการแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์นักเรียนของโรงเรียนวัดควนเมา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 พบว่า รูปแบบมีความเหมาะสมและความเป็นไปได้อยู่ในระดับมาก
4. ผลการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาคุณภาพนักเรียนโดยใช้กระบวนการจัดการแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์นักเรียนของโรงเรียนวัดควนเมา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2โดยการศึกษา สภาพการบริหารจัดการในการใช้รูปแบบในภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก ผลการสอบถามความคิดเห็นของครูต่อการจัดมุมประสบการณ์ในการใช้รูปแบบการพัฒนาคุณภาพนักเรียนโดยใช้กระบวนการจัดการแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์นักเรียนของโรงเรียนวัดควนเมา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือมุมพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ (Emotion Corner) รองลงมาคือมุมค้นคว้าวิเคราะห์(Critical Corner) และ มุมสัมพันธ์มิติ (Spatial Corner) ตามลำดับ
5. ผลการใช้รูปแบบการพัฒนาคุณภาพนักเรียนโดยใช้กระบวนการจัดการแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์นักเรียนของโรงเรียนวัดควนเมา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2
5.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 และชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1-3 ปีการศึกษา 2560 สูงกว่าปีการศึกษา 2559 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
5.2 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนวัดควนเมา ปีการศึกษา 2559 และปีการศึกษา 2560 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2560 สูงกว่าปีการศึกษา 2559 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 ปีการศึกษา 2560 สูงกว่าปีการศึกษา 2559 อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
5.3 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2559 และปีการศึกษา 2560 พบว่า คะแนนเฉลี่ยของโรงเรียนสูงกว่า คะแนนเฉลี่ยทุกระดับ สำหรับระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2559 คะแนนเฉลี่ยของโรงเรียนต่ำกว่า คะแนนเฉลี่ยทุกระดับ ปีการศึกษา 2560 คะแนนเฉลี่ยของโรงเรียนสูงกว่า คะแนนเฉลี่ยของระดับจังหวัด แต่ต่ำกว่า ระดับ สพฐ.และ ระดับประเทศ
5.4 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน (NT) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2560 สูงกว่าปีการศึกษา 2559 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
5.5 ผลการประเมินคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนด้านความกระตือรือร้นและด้านการนำไปใช้ ในปีการศึกษา 2559 และปีการศึกษา 2560 พบว่าในภาพรวมและรายข้อ อยู่ในระดับมากโดยคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน ทั้งด้านความกระตือรือร้นและด้านการนำไปใช้ ปีการศึกษา 2560 สูงกว่าปีการศึกษา 2559 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
5.6 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อรูปแบบการพัฒนาคุณภาพนักเรียนโดยใช้กระบวนการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ของนักเรียนโรงเรียนวัดควนเมาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2พบว่า มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
Research Title A Model of Development on Student Quality by Implementing Learning Resources Management Process for Student Experience Enrichment of Watkuanmao School,under the Primary Educational Service Area 2
Researcher
Position
Year Mrs. OrathaiKirdpibal
Director of the School
2016 - 2017
Abstract
The approach was research and development, the purposes of this study aimed to1) conditions and problems, needs a model of development on student quality by implementing learning resources management process for student experience, 2) build and develop a model on student quality by implementing learning resources management process for student experience, 3) efficiency ofa model of development on student quality by implementing learning resources management process for student experience, 4) experimental a model on student quality by implementing learning resources management process for student experience, 5) investigate the utilization of the model on student quality by implementing learning resources management process for student experience.
The sampling group included of: administrator, teachers, School Board, students, parents, 260 peoples in 2016 and 254 peoples in 2017. The tools for collecting data were a survey of needs, interviews,questionnaire,recorded. Data was analyzed by using mean, standard deviation, t-test and content analysis.
Results of the research were as follows:
1.The conditions and problems, needs a model of development on student quality by implementing learning resources management process for student experience in overall,was found at the high level.
2.The finding of the model on student quality by implementing learning resources management process for student experience included 4 aspects: input, process, product and environment.
3.The efficiency ofa model on student quality by implementing learning resources management process for student experience. The finding of the model in overall accuracy were appropriate and possibility at a high level.
4.The experimental a model on student quality by implementing learning resources management process for student experience.The finding of the model in overall accuracy were conditions administration model in overall at a high level and the opinion of teachers to experiences cornerfor used model of development on student quality by implementing learning resources management process for student experience enrichment of Watkuanmao School,under the Primary Educational Service Area 2in overall at a high level. Considering in each field by arranging from the highest average to lowest average as follows;emotion corner, critical corner,andspatial cornerrespectively.
5.The effectiveness of the model on student quality by implementing learning resources management process for student experience enrichment of Watkuanmao School,under the Primary Educational Service Area 2 as follows.
5.1 The outcome of grade primary 1-3 and secondary 1-3 in 2017 higher than in 2016 had statistically significant different at the level of .01
5.2 The outcome of grade primary 4 in2017 higher than in 2016 had not statistically
significant.
5.3 The Ordinary National Educational Test (0-NET)of grade primary 6 and secondary 3 in 2017 higher than in 2016 had statistically significant different at the level of .01
5.4 The National Test (NT)of grade primary 3 in 2017 higher than in 2016 had statistically significant different at the level of .01
5.5 The outcome of assessment of the desired learning characteristics; enthusiasm and appiedin overall, was found at the high level and in 2017 higher than in 2016 had statistically significant different at the level of .01
5.6 The satisfaction of administrator, teachers, school board, students, parents toward a model of development on student quality by implementing learning resources management process for student Experience enrichment of Watkuanmao School, under the Primary Educational Service Area 2 in overall accuracy were appropriate and possibility at a high level.