ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับ
เทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดวิเคราะห์ในการแก้ปัญหา
คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นางสาวนัชดาพร แสนณรงค์
สถานศึกษา โรงเรียนทีโอเอวิทยา (เทศบาล 1 วัดคำสายทอง) สังกัดกองการศึกษา
เทศบาลเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับ STAD เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดวิเคราะห์ในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อศึกษาความสามารถการคิดวิเคราะห์ในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังการจัดการเรียนรู้ ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับ STAD 3) เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับ STAD 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับ STAD เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดวิเคราะห์ในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 จำนวน 32 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนทีโอเอวิทยา (เทศบาล 1 วัดคำสายทอง) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งได้มาด้วยวิธีสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือในการวิจัยได้แก่ รูปแบบการเรียนการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดความสามารถการคิดวิเคราะห์ในการแก้ปัญหา แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอน การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานทดสอบสมมติฐานใช้ t-test (Dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น มีชื่อเรียกว่า MPEPE Model มีองค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน สาระความรู้และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุนซึ่งกระบวนการเรียนการสอน 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การกระตุ้นความสนใจ (Motivation : M) 2) ขั้นการนำเสนอเนื้อหา (Presentation : P) ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนย่อย คือ 2.1) ขั้นเผชิญสถานการณ์ปัญหา (Problem) 2.2) ขั้นกิจกรรมไตร่ตรอง (Reflection) 2.3) ขั้นเสนอแนวทางแก้ปัญหา (Sharing) 3) ขั้นสรุปบทเรียน (Explanation : E) 4. ขั้นฝึกทักษะ (Practice: P) 5. ขั้นประเมินผล (Evaluation : E) ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนย่อย คือ 5.1) การทดสอบย่อย (Quizzes) 5.2) คะแนนพัฒนาการของนักเรียนแต่ละคน (Individual Improvement Scores) 5.3) การรับรองผลงานของกลุ่ม (Team Recognition) และรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 78.41/79.25 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 75/75 ปรากฏว่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ความสามารถการคิดวิเคราะห์ในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับ STAD อยู่ในระดับดี
3. ผลการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับ STAD สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับ STAD เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดวิเคราะห์ในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเฉพาะด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนได้พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ปัญหา การวางแผน และวิธีการแก้ปัญหา และด้านบรรยากาศในการเรียนรู้ นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นในการแก้ปัญหาและแลกเปลี่ยนการเรียนรู้