ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการวิจัยและการพัฒนาทักษะการฟังและการพูดของเด็กปฐมวัยโดยใช้กิจกรรมการเล่านิทานพื้นบ้าน สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2

ชื่อผลงาน รายงานการวิจัยและการพัฒนาทักษะการฟังและการพูดของเด็กปฐมวัย

โดยใช้กิจกรรมการเล่านิทานพื้นบ้าน สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2

ผู้วิจัย นางยินดี บัวขวัญ

ปีที่วิจัย 2561

บทคัดย่อ

รายงานการวิจัยและการพัฒนาทักษะการฟังและการพูดของเด็กปฐมวัยโดยใช้กิจกรรมการเล่านิทานพื้นบ้าน สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาการพัฒนาทักษะการฟังและการพูดของเด็กปฐมวัยโดยใช้กิจกรรมการเล่านิทานพื้นบ้าน สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยเทียบเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เปรียบเทียบทักษะการฟังและการพูดของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเล่านิทานพื้นบ้าน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยและการพัฒนาในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลวัดนิโครธาราม สังกัดเทศบาลเมืองพัทลุง จำนวน 22 คน ซึ่งได้มาจากวิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยและการพัฒนา คือ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นแผนการเรียนรู้ที่เกี่ยวกับพัฒนาการทางภาษาด้านการฟังและการพูด 2)หนังสือนิทานพื้นบ้านประกอบภาพ จำนวน 2 เล่ม 3)แบบประเมินก่อนและหลังการทักษะการฟังและการพูดของเด็กปฐมวัยโดยใช้กิจกรรมการเล่านิทานพื้นบ้าน สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยและการพัฒนาพบว่า นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเล่านิทานพื้นบ้านมีความสามารถทางภาษาด้านการฟังและการพูดโดยภาพรวมและรายด้าน ด้านการฟัง โดยภาพรวมหลังการจัดกิจกรรมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 89.50ด้านการพูด โดยภาพรวมหลังการจัดกิจกรรมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 95.00 ความสามารถทางภาษาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 หลังจัดกิจกรรมโดยใช้นิทานพื้นบ้านด้านการฟัง การพูด

สูงกว่าความสามารถทางภาษาก่อนการจัดกิจกรรมโดยใช้นิทานพื้นบ้านอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกด้าน

1) หนังสือนิทานพื้นบ้านประกอบภาพที่สร้างขึ้นเพื่อพัฒนาทักษะด้านการฟังและการพูดของเด็กปฐมวัย มีจำนวน 2 เล่ม คือเรื่อง เรื่องที่ 1 ตำนานเขาอกทะลุ และเรื่องที่ 2 นางเลือดขาว มีลักษณะการเสนอภาพแบบเรื่องราวบรรยายใต้ภาพ

2) การใช้หนังสือนิทานพื้นบ้านประกอบภาพเพื่อพัฒนาทักษะด้านการฟังและการพูด ตามหัวข้อประเมิน 7 ข้อ มีรายละเอียดดังนี้

2.1) มีความตั้งใจฟังนิทานที่ครูเล่าได้ มีค่าเฉลี่ย ก่อนการทดลอง เท่ากับ 1.58 และหลังการทดลอง เท่ากับ 2.65 มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.07 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ก่อนการทดลอง เท่ากับ 0.50 และหลังการทดลอง เท่ากับ 0.48 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานน้อยลง 0.02

2.2) มีความสนใจที่จะให้ครูเล่านิทานให้ฟัง มีค่าเฉลี่ย ก่อนการทดลอง เท่ากับ 1.63 และหลังการทดลอง เท่ากับ 2.67 มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.04 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ก่อนการทดลอง เท่ากับ 0.49 และหลังการทดลอง เท่ากับ 0.47 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานน้อยลง 0.02

2.3) พูดและตอบคำถามง่ายๆ จากเรื่องที่ฟังได้ มีค่าเฉลี่ย ก่อนการทดลอง เท่ากับ 1.60 และหลังการทดลอง เท่ากับ 2.70 มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.10 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ก่อนการทดลอง เท่ากับ 0.49 และหลังการทดลอง เท่ากับ 0.46 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานน้อยลง 0.03

2.4) สนทนาซักถามเกี่ยวกับสิ่งที่สนใจ มีค่าเฉลี่ย ก่อนการทดลอง เท่ากับ 1.60 และหลังการทดลอง เท่ากับ 2.67 มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.07 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ก่อนการทดลอง เท่ากับ 0.49 และหลังการทดลอง เท่ากับ 0.47 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานน้อยลง 0.02

2.5) บอกชื่อตัวละครในนิทานพื้นบ้านได้ มีค่าเฉลี่ย ก่อนการทดลอง เท่ากับ 1.60 และหลังการทดลอง เท่ากับ 2.67 มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.07 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ก่อนการทดลอง เท่ากับ 0.49 และหลังการทดลอง เท่ากับ 0.47 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานน้อยลง 0.02

2.6) แสดงบทบาทสมมติได้อย่างสนุกสนาน มีค่าเฉลี่ย ก่อนการทดลอง เท่ากับ 1.56 และหลังการทดลอง เท่ากับ 2.65 มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.05 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ก่อนการทดลอง เท่ากับ 0.49 และหลังการทดลอง เท่ากับ 0.48 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานน้อยลง 0.01

2.7) กล้าพูด กล้าแสดงออกของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเล่านิทานพื้นบ้าน มีค่าเฉลี่ย ก่อนการทดลอง เท่ากับ 1.56 และหลังการทดลอง เท่ากับ 2.65 มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.09 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ก่อนการทดลอง เท่ากับ 0.50 และหลังการทดลอง เท่ากับ 0.48 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานน้อยลง 0.02

โพสต์โดย ยินดี : [14 พ.ย. 2561 เวลา 09:33 น.]
อ่าน [5219] ไอพี : 101.51.106.220
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 86,902 ครั้ง
วิธีทำ  น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ
วิธีทำ น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ

เปิดอ่าน 8,711 ครั้ง
บิดซ้ายยืดขวา หยุดปวดจากคอมพิวเตอร์
บิดซ้ายยืดขวา หยุดปวดจากคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 10,258 ครั้ง
งานแฟร์ เพื่อนพึ่ง(ภา) 2552 ช็อปของขวัญปีใหม่สไตล์วัง
งานแฟร์ เพื่อนพึ่ง(ภา) 2552 ช็อปของขวัญปีใหม่สไตล์วัง

เปิดอ่าน 13,847 ครั้ง
นาฬิกาชีวิต องค์รวมสุขภาพแบบ A.M./P.M.
นาฬิกาชีวิต องค์รวมสุขภาพแบบ A.M./P.M.

เปิดอ่าน 27,100 ครั้ง
6 วิธีรับปีใหม่แบบเฮงๆ จัดกระเป๋าสตางค์รับเงินไหล ใส่เสื้อ 5 สีมงคล
6 วิธีรับปีใหม่แบบเฮงๆ จัดกระเป๋าสตางค์รับเงินไหล ใส่เสื้อ 5 สีมงคล

เปิดอ่าน 64,767 ครั้ง
เด็กมี IQ อย่างเดียวไม่พอ! ต้องมี EF ทักษะฝึกสมองบ่มเพาะ "นิสัยอดทน-พากเพียร"
เด็กมี IQ อย่างเดียวไม่พอ! ต้องมี EF ทักษะฝึกสมองบ่มเพาะ "นิสัยอดทน-พากเพียร"

เปิดอ่าน 15,761 ครั้ง
กรมการขนส่งทางบก   เตรียมนําแผ่นป้ายทะเบียนรถรูปแบบใหม่ออกให้บริการประชาชน หลังจากหมวด ฆฮ เริ่มต.ค.
กรมการขนส่งทางบก เตรียมนําแผ่นป้ายทะเบียนรถรูปแบบใหม่ออกให้บริการประชาชน หลังจากหมวด ฆฮ เริ่มต.ค.

เปิดอ่าน 10,916 ครั้ง
จำกันได้ไหม? "คลิปฝรั่งเกลียดเมืองไทย" ล่าสุดได้รางวัลโฆษณาส่งเสริมการท่องเที่ยวยอดเยี่ยม!!
จำกันได้ไหม? "คลิปฝรั่งเกลียดเมืองไทย" ล่าสุดได้รางวัลโฆษณาส่งเสริมการท่องเที่ยวยอดเยี่ยม!!

เปิดอ่าน 17,165 ครั้ง
Multimidia คืออะไร?
Multimidia คืออะไร?

เปิดอ่าน 53,233 ครั้ง
ถอดรหัส SLC แดนปลาดิบ ผ่าน 2 กูรูด้านการศึกษา เดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยสู่ "โรงเรียนชุมชนแห่งการเรียนรู้" เต็มรูปแบบ
ถอดรหัส SLC แดนปลาดิบ ผ่าน 2 กูรูด้านการศึกษา เดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยสู่ "โรงเรียนชุมชนแห่งการเรียนรู้" เต็มรูปแบบ

เปิดอ่าน 15,799 ครั้ง
จัดฮวงจุ้ยอย่างไร จึงจะช่วยส่งเสริมให้การงานเด่น กิจการมั่นคงเจริญรุ่งเรือง
จัดฮวงจุ้ยอย่างไร จึงจะช่วยส่งเสริมให้การงานเด่น กิจการมั่นคงเจริญรุ่งเรือง

เปิดอ่าน 20,798 ครั้ง
หลักเกณฑ์การคำนวณเงินค่าเสาเข็มฐานรากอาคารเรียนและอาคารประกอบ
หลักเกณฑ์การคำนวณเงินค่าเสาเข็มฐานรากอาคารเรียนและอาคารประกอบ

เปิดอ่าน 18,697 ครั้ง
ปลูกว่านเสริมชะตา
ปลูกว่านเสริมชะตา

เปิดอ่าน 84,883 ครั้ง
5 สายอาชีพควรเรียน เป็นที่ต้องการในอีก 5 ปี
5 สายอาชีพควรเรียน เป็นที่ต้องการในอีก 5 ปี

เปิดอ่าน 16,287 ครั้ง
9 ประโยชน์เพื่อสุขภาพของกระเทียม ที่คุณอาจคาดไม่ถึง!
9 ประโยชน์เพื่อสุขภาพของกระเทียม ที่คุณอาจคาดไม่ถึง!

เปิดอ่าน 25,141 ครั้ง
ที่มาของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ที่มาของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
เปิดอ่าน 27,828 ครั้ง
วิวัฒนาการ ตู้ไปรษณีย์ สู่สัญลักษณ์ที่สุดเมืองไทย
วิวัฒนาการ ตู้ไปรษณีย์ สู่สัญลักษณ์ที่สุดเมืองไทย
เปิดอ่าน 17,983 ครั้ง
eco car เทรนด์ใหม่ รถเล็ก ประหยัดพลังงาน
eco car เทรนด์ใหม่ รถเล็ก ประหยัดพลังงาน
เปิดอ่าน 13,974 ครั้ง
แชร์กระจาย ฝีมือการแต่งนิทานของเด็ก 7 ขวบ ครีเอทได้น่ารักมาก
แชร์กระจาย ฝีมือการแต่งนิทานของเด็ก 7 ขวบ ครีเอทได้น่ารักมาก
เปิดอ่าน 4,620 ครั้ง
"ใส่ซองเท่าไหร่ดี" ปัญหานี้มีตัวช่วย TypeThai เครื่องช่วยคำนวณเงินใส่ซองให้เหมาะสมกับงานและฐานะตัวเอง
"ใส่ซองเท่าไหร่ดี" ปัญหานี้มีตัวช่วย TypeThai เครื่องช่วยคำนวณเงินใส่ซองให้เหมาะสมกับงานและฐานะตัวเอง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ