ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ชุดกิจกรรมคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ และหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์(ST

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง : รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ

และหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค

การแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์(STAD) ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา

ผู้รายงาน : นางรินทร์จิรา ชัยพรธนาวัฒน์

การศึกษาครั้งนี้เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ และหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์(STAD) ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ และหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ชุดกิจกรรมคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ และหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์(STAD) ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาชุดกิจกรรมคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ และหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์(STAD) ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา และเพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัด การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์(STAD) ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของ โพลยา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเอี่ยมสุรีย์(อนุบาลเมืองสมุทรปราการ) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 1 โดยการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย 1 ห้องเรียน จำนวน 41 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ชุดกิจกรรมคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ และหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์(STAD) ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ และหาร ฉบับก่อนเรียนและฉบับหลังเรียน แต่ละฉบับเป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือกจำนวน 20 ข้อ ชนิดเขียนตอบ 2 ข้อ คะแนนเต็ม 30 คะแนน และแบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ และหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 แบบร่วมมือเทคนิคการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 3 ระดับ ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.)

ผลการศึกษาพบว่า

1. ร้อยละของค่าเฉลี่ยของคะแนนจากการทำแบบทดสอบย่อย 79.19 และร้อยละของค่าเฉลี่ยของคะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ และหาร หลังเรียน เป็น 78.78 ดังนั้น E1/E2 เป็น 79.19/78.78 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้

2. คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ และหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาชุดกิจกรรมคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ และหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา มีค่าเท่ากับ 0.6245 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.6245 หรือคิดเป็นร้อยละ 62.45

4. ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ และหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 แบบร่วมมือเทคนิคการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา พบว่าโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

สรุปได้ว่าการศึกษาครั้งนี้ ครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 2 สามารถนำชุดกิจกรรมคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ และหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยาไปใช้ได้ และสามารถนำไปเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรม การเรียนการสอนในเรื่องอื่นๆได้

โพสต์โดย ครู : [31 ต.ค. 2561 เวลา 17:35 น.]
อ่าน [4937] ไอพี : 171.96.237.156
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 552,662 ครั้ง
วินัยข้าราชการครู
วินัยข้าราชการครู

เปิดอ่าน 85,291 ครั้ง
ประชาธิปไตย คืออะไร
ประชาธิปไตย คืออะไร

เปิดอ่าน 27,691 ครั้ง
พระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555
พระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555

เปิดอ่าน 13,411 ครั้ง
วิธีทาลิปกลอสให้สวย
วิธีทาลิปกลอสให้สวย

เปิดอ่าน 14,868 ครั้ง
เผยทีเด็ดชนะใจสาวอย่างง่ายที่สุด เล่าเรื่องตลกที่ ตัวเองหน้าแตก
เผยทีเด็ดชนะใจสาวอย่างง่ายที่สุด เล่าเรื่องตลกที่ ตัวเองหน้าแตก

เปิดอ่าน 10,900 ครั้ง
วิตามินอี ความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
วิตามินอี ความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 9,834 ครั้ง
เคล็ดลับดูแลผมในหน้าร้อน
เคล็ดลับดูแลผมในหน้าร้อน

เปิดอ่าน 51,274 ครั้ง
คำกล่าวทักทาย กลุ่มประเทศอาเซียน
คำกล่าวทักทาย กลุ่มประเทศอาเซียน

เปิดอ่าน 16,333 ครั้ง
ปะการัง
ปะการัง

เปิดอ่าน 28,949 ครั้ง
ภาษาฝรั่งเศส
ภาษาฝรั่งเศส

เปิดอ่าน 34,148 ครั้ง
ประวัติศาสนาพุทธ
ประวัติศาสนาพุทธ

เปิดอ่าน 10,785 ครั้ง
น้ำเพื่อสุขภาพ
น้ำเพื่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 22,085 ครั้ง
ราคากลางชุดฝึกทักษะนักเรียนก่อนประถมศึกษา
ราคากลางชุดฝึกทักษะนักเรียนก่อนประถมศึกษา

เปิดอ่าน 13,444 ครั้ง
“เลี้ยงลูกยิ่งใหญ่" ของขวัญปีใหม่ของพ่อแม่
“เลี้ยงลูกยิ่งใหญ่" ของขวัญปีใหม่ของพ่อแม่

เปิดอ่าน 54,067 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 4 อุปกรณ์ของผู้เล่น ( The Players
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 4 อุปกรณ์ของผู้เล่น ( The Players' Equipment)

เปิดอ่าน 12,162 ครั้ง
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"
เปิดอ่าน 14,044 ครั้ง
อ้วนไม่แคร์สื่อ กระโดดลงสระน้ำแข็ง เดี๋ยวก็รู้ งานนี้มีฮา
อ้วนไม่แคร์สื่อ กระโดดลงสระน้ำแข็ง เดี๋ยวก็รู้ งานนี้มีฮา
เปิดอ่าน 16,675 ครั้ง
สะสมใบสั่งจราจรไว้ จะต่อภาษีรถได้อย่างไร?  หลังระบบเชื่อมโยงใบสั่งจราจร เริ่มใช้ 1 ตุลาคม 2562 นี้
สะสมใบสั่งจราจรไว้ จะต่อภาษีรถได้อย่างไร? หลังระบบเชื่อมโยงใบสั่งจราจร เริ่มใช้ 1 ตุลาคม 2562 นี้
เปิดอ่าน 25,283 ครั้ง
8 วิธี การบริหารสมอง ให้สดชื่น
8 วิธี การบริหารสมอง ให้สดชื่น
เปิดอ่าน 34,384 ครั้ง
ยาสีฟันทำมาจากอะไร?
ยาสีฟันทำมาจากอะไร?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ