|
|
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 2) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 โดยแบ่งการวิจัยออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เป็นพัฒนารูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครู กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย 1) ครูผู้สอนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 จำนวน 327 คน ได้มาจากการสุ่มแบบแบ่งชั้นตามขนาดโรงเรียน โดยแต่ละชั้นใช้วิธีการจับสลาก อย่างง่ายมาประมาณ 15 % ของประชากร 2) กลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิในประเมินรูปแบบ ได้แก่ ศึกษานิเทศก์ผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ จำนวน 5 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกอย่างเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามสภาพปัญหาและความต้องการ และแบบประเมินรูปแบบ สำหรับการวิจัยระยะที่ 2 เป็นการประเมินผลการใช้รูปแบบ กลุ่มตัวอย่างเป็นครูผู้สอนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 จำนวน 64 คน ได้มาจากครูผูสอนที่อาสาสมัครเข้าร่วมการทดลอง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบความรู้ความเข้าใจของครู แบบประเมินความสามารถของครู และแบบสอบถามความคิดเห็นของครู การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)
สรุปผลการวิจัย
1. รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 เรียกว่า รูปแบบ 3ร (3ร โมเดล) ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คือ 1) ร-เรียนรู้จากการฝึกอบรม 2) ร-เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง
3) ร- เรียนรู้จากเครือข่าย โดยผู้ทรงคุณวุฒิด้านหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ มีความเห็นว่า รูปแบบดังกล่าวมีความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และความถูกต้อง อยู่ในระดับมากที่สุด
2. ผลการประเมินการใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2
2.1 ผลการเปรียบเทียบความรู้ความเข้าใจของครูผู้สอนก่อนและหลังการใช้รูปแบบ พบว่า คะแนนเฉลี่ยหลังการใช้รูปแบบสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2.2 ผลการประเมินความสามารถของครูในการเรียนรู้แบบโครงงาน พบว่า ในภาพรวม ครูผู้สอนมีความสามารถในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน อยู่ในระดับดี (M=2.77, S.D.=0.13) และเมื่อเปรียบเทียบคะแนนความสามารถของครูด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานกับเกณฑ์ที่กำหนด พบว่า คะแนนความสามารถของครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานสูงกว่าคะแนนเฉลี่ย 2.50 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2.3 ผลการประเมินความคิดเห็นของครูที่มีต่อรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน พบว่า ในภาพรวม ครูผู้สอนมีความคิดเห็นต่อรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานว่า เห็นด้วยอยู่ในระดับมาก (M=4.40, S.D.=0.44) และเมื่อเปรียบเทียบคะแนนความคิดเห็นของครูที่มีต่อรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูกับเกณฑ์ที่กำหนด พบว่า คะแนนความคิดเห็นของครูที่มีต่อรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูสูงกว่าคะแนนเฉลี่ย 3.50 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
|
โพสต์โดย บำเพ็ญ หนูกลับ : [24 ต.ค. 2561 เวลา 19:37 น.] อ่าน [5110] ไอพี : 118.173.54.20
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 12,466 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,334 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,166 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,281 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,269 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,949 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,331 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,657 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,991 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,091 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,224 ครั้ง
| เปิดอ่าน 31,932 ครั้ง
| เปิดอ่าน 2,220 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,165 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,017 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 28,526 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,077 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,843 ครั้ง
| เปิดอ่าน 35,989 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,746 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|