ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ผู้รายงาน นายไกรสร สุทธิประภา
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สำนักเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 14
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนกับหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 5 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี จำนวน 11 ห้องเรียนรวม 357 คน กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 38 คน ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบ
หลายขั้นตอน (Multi - Sampling) โดยเริ่มจากการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified random sampling)
แล้วทำการสุ่มแบบอย่างง่าย (Simple random sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลครั้งนี้ ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 9 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อน หลังเรียน
วิชาประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งเป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ
3) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ จำนวน 11 แผน 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) ตามวิธีของ ลิเคิร์ท จำนวน 15 ข้อ ผู้วิจัยได้ดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แบบแผน One Group Pretest - Posttest Design สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ ค่า t test
ผลการศึกษาพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.05/81.09 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ และเมื่อนำไปทดลองหาประสิทธิภาพซ้ำกับกลุ่มตัวอย่างใหม่ พบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.39/81.91 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนโดยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.57)