ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน

ชื่อผลงาน : รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน

โรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา ปีการศึกษา 2560

ผู้รายงาน : นางอรนุช สงแก้ว

รองผู้อำนวยการโรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา

ปีที่รายงาน : ปีการศึกษา 2560

บทสรุป

รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา ปีการศึกษา 2560 มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมิน ด้านสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้าด้านกระบวนการ และด้านผลผลิตของโครงการ ประกอบด้วย 1) คุณภาพการส่งเสริมมีนิสัยรักการอ่าน 2) พฤติกรรมการมีนิสัยรักการอ่าน 3) การมีส่วนร่วมของนักเรียนครูและผู้ปกครองในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน 4) ความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานต่อการดำเนินโครงการส่งเสริม นิสัยรักการอ่าน โดยศึกษาจาก กลุ่มตัวอย่างนักเรียน จำนวน 346 คน กลุ่มตัวอย่างครู จำนวน 113 คน กลุ่ม ตัวอย่างผู้ปกครอง จำนวน 346 คน กลุ่มตัวอย่างคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน รวมทั้งสิ้น 7 ฉบับ มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ทุกฉบับมี การตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ ได้ค่าความเชื่อมั่นแต่ละฉบับระหว่าง .929 - .986 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรม SPSS Version 23 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

ผลการประเมินพบว่า

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านสภาพแวดล้อมของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ของนักเรียนโรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา ปีการศึกษา 2560 ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและครู โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.17 , S.D. = .44) ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มผู้ประเมินพบว่ากลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก (x̄= 4.28 , S.D. = .60) ได้คะแนน 15 ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและตัวชี้วัด และรองลงมา ได้แก่ กลุ่มครูมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.13 , S.D. = .39) ได้คะแนน 15 ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและตัวชี้วัด

2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปัจจัยนำเข้าในการดำเนินงานตามของโครงการส่งเสริม นิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา ปีการศึกษา 2560 ตามความคิดเห็นของครู โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.12 , S.D. = .46) ได้คะแนน 15 ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวม และตัวชี้วัด

3. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านกระบวนการในการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา ปีการศึกษา 2560 ตามความคิดเห็นของครู นักเรียน และผู้ปกครอง โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.05 , S.D. = .73) ได้คะแนนเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่ม ผู้ประเมินพบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก (x̄= 4.11 , S.D. = .64) ได้คะแนน 20 ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและตัวชี้วัด และรองลงมา ได้แก่ กลุ่มผู้ปกครอง มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.10 , S.D. = .73) ได้คะแนน 20 ผ่านเกณฑ์การประเมินส่วนกลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ในระดับมากเช่นกัน(x̄= 4.10 , S.D. = .73) ได้คะแนน 20 ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและตัวชี้วัด

4. ผลการประเมินด้านผลผลิต จำแนกเป็น

4.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลผลผลิตด้านคุณภาพการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา ปีการศึกษา 2560 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.16 , S.D. = .63) ได้คะแนนเฉลี่ย 13 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยในภาพรวมสูงสุด อยู่ในระดับมาก (x̄= 4.21 , S.D. = .56) ได้คะแนน 13 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และรองลงมา ได้แก่ กลุ่มครู อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.20 , S.D. = .39) ได้คะแนน 13 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนกลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ในระดับมากเช่นกัน (x̄ = 4.09 , S.D. = .72) ได้คะแนน 13 ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวม และตัวชี้วัด

4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลผลผลิต ด้านพฤติกรรมการมีนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา ปีการศึกษา 2560 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.13 , S.D. = .69) ได้คะแนนเฉลี่ย 13 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.17 , S.D. = .70) ได้คะแนน 13 และกลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.17 , S.D. = .67) ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน ส่วนกลุ่มครูมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมาก (x̄ = 3.78 , S.D. = .61) ได้คะแนน 13 ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวม และตัวชี้วัด

4.3 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลผลผลิตในการมีส่วนร่วมของนักเรียน ครู และผู้ปกครองในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา ปีการศึกษา 2560 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.19 , S.D. = .69) ได้คะแนนเฉลี่ย 12 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่ม ผู้ประเมินพบว่ากลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.35 , S.D. = .46) ได้คะแนน 12 ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมาได้แก่กลุ่มผู้ปกครอง อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.17 , S.D. = .67) ได้คะแนน 12 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนกลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมากเช่นกัน (x̄ = 3.78 , S.D. = .61) ได้คะแนน 12 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและตัวชี้วัด

4.4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลผลผลิตด้านความพึงพอใจ ของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ต่อการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา ปีการศึกษา 2560 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมิน อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.18 , S.D. = .66) ได้คะแนนเฉลี่ย 12 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.44 , S.D. = .48) ได้คะแนน 12 ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมาได้แก่กลุ่มผู้ปกครอง อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.26 , S.D. = .61) ได้คะแนน 12 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนกลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.08 , S.D. = .73) ได้คะแนน 12 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและตัวชี้วัด

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

1. โรงเรียนควรให้ความสำคัญกับการกำหนดนโยบายการเสริมสร้างนิสัยรักการอ่าน ของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชน

2. โรงเรียนควรส่งเสริมอำนวยความสะดวกในด้านการจัดสรรงบประมาณ วัสดุ อุปกรณ์ และอาคารสถานที่ เพื่อส่งเสริมให้ทุกที่ในโรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้และเสริมสร้างนิสัยรักการอ่านของนักเรียน

3. ในการจัดกิจกรรมแต่ละกิจกรรมครูควรเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียน ได้แก่ พฤติกรรมการอ่าน การศึกษาค้นคว้า การใฝ่รู้ ใฝ่เรียน การมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมทุกกิจกรรมที่โรงเรียนมอบหมาย

4. ควรมีการนิเทศ ติดตาม กำกับดูแลช่วยเหลือและการประเมินผลเกี่ยวกับการดำเนินงานตามโครงการครอบคลุมผู้รับผิดชอบทั้งกลุ่มบริหารหัวหน้ากลุ่มสาระ และเป็นรายบุคคลแบบกัลยาณมิตร โดยเน้นการมีส่วนร่วม รวมทั้งมีการประเมินผล สรุปรายงานและเผยแพร่ผลงานโรงเรียนต่อสาธารณชน อย่างกว้างขวาง

ข้อเสนอแนะในการประเมินโครงการหรือวิจัยครั้งต่อไป

1. ควรมีการประเมินโครงการต่าง ๆ ในระดับงานหรือกลุ่มงานย่อยของโรงเรียน ทุกโครงการ โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินอื่นที่เหมาะสม และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของข้อมูลและสารสนเทศที่ต้องการคำตอบ

2. ควรมีการประเมินโครงการในระบบองค์รวมของสถานศึกษา โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินของซิปป์ (CIPP Model)

โพสต์โดย ครูอรนุช : [10 ต.ค. 2561 เวลา 08:55 น.]
อ่าน [5086] ไอพี : 61.19.79.18
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,455 ครั้ง
เตือนอย่าทดลองแมงมุมหม้ายดำ รักษานกเขาไม่ขัน
เตือนอย่าทดลองแมงมุมหม้ายดำ รักษานกเขาไม่ขัน

เปิดอ่าน 55,158 ครั้ง
ประวัติ....ซานตาคลอส
ประวัติ....ซานตาคลอส

เปิดอ่าน 25,146 ครั้ง
เมฆสีรุ้ง
เมฆสีรุ้ง

เปิดอ่าน 18,837 ครั้ง
ชนชาติแรกที่สูบบุหรี่
ชนชาติแรกที่สูบบุหรี่

เปิดอ่าน 12,164 ครั้ง
อาหารเพื่อสุขภาพกระเพาะอาหาร
อาหารเพื่อสุขภาพกระเพาะอาหาร

เปิดอ่าน 15,005 ครั้ง
เตือนใช้ "บิททอร์เรนท์" โหลดคลิปโป๊มีโทษติดคุก
เตือนใช้ "บิททอร์เรนท์" โหลดคลิปโป๊มีโทษติดคุก

เปิดอ่าน 26,667 ครั้ง
เกษตรกรมือใหม่ต้องรู้ ระบบน้ำเลี้ยงมีความสำคัญมากยังไง
เกษตรกรมือใหม่ต้องรู้ ระบบน้ำเลี้ยงมีความสำคัญมากยังไง

เปิดอ่าน 17,883 ครั้ง
ระบบการศึกษา กุญแจความสำเร็จของเกาหลี
ระบบการศึกษา กุญแจความสำเร็จของเกาหลี

เปิดอ่าน 56,851 ครั้ง
เทคนิคการเตรียมตัวไปสัมภาษณ์งานครั้งแรก
เทคนิคการเตรียมตัวไปสัมภาษณ์งานครั้งแรก

เปิดอ่าน 9,087 ครั้ง
หลักฟื้นสภาพจิตใจหลังน้ำลด
หลักฟื้นสภาพจิตใจหลังน้ำลด

เปิดอ่าน 56,347 ครั้ง
เผยแพร่ตัวอย่าง SAR สถานศึกษา โรงเรียนหนองอ้อวิทยาคม
เผยแพร่ตัวอย่าง SAR สถานศึกษา โรงเรียนหนองอ้อวิทยาคม

เปิดอ่าน 20,028 ครั้ง
จำนวนเต็ม (Integer) คืออะไร
จำนวนเต็ม (Integer) คืออะไร

เปิดอ่าน 12,941 ครั้ง
7 วิธีเติมความมีชีวิตชีวาให้ชีวิต
7 วิธีเติมความมีชีวิตชีวาให้ชีวิต

เปิดอ่าน 14,766 ครั้ง
สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ใช้พระนาม “สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ”
สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ใช้พระนาม “สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ”

เปิดอ่าน 9,753 ครั้ง
Scribble นวัตกรรมปากกา 16 ล้านสีในแท่งเดียว
Scribble นวัตกรรมปากกา 16 ล้านสีในแท่งเดียว

เปิดอ่าน 15,360 ครั้ง
ประโยชน์ของ ADSL
ประโยชน์ของ ADSL
เปิดอ่าน 11,194 ครั้ง
อภิปัญหาหนี้ครู...ปมที่แก้ไม่ตก 11 ปีลุกลาม 1.2 ล้านล้าน
อภิปัญหาหนี้ครู...ปมที่แก้ไม่ตก 11 ปีลุกลาม 1.2 ล้านล้าน
เปิดอ่าน 18,255 ครั้ง
เคาน์เตอร์ต้อนรับในโรงเรียน มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด
เคาน์เตอร์ต้อนรับในโรงเรียน มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด
เปิดอ่าน 15,966 ครั้ง
แอปเปิ้ลแต่ละสีมีประโยชน์ต่างกัน
แอปเปิ้ลแต่ละสีมีประโยชน์ต่างกัน
เปิดอ่าน 62,752 ครั้ง
เด็กเก่ง "อุดรพิทยานุกูล" สอบติดมหาลัยยกชั้น 5 ห้องรวด เรียนแพทย์ 44 คน
เด็กเก่ง "อุดรพิทยานุกูล" สอบติดมหาลัยยกชั้น 5 ห้องรวด เรียนแพทย์ 44 คน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ