ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
โครงการพัฒนาสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบ โรงเรียนบ้านโค้งประดู่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรีเขต ๒

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการพัฒนาสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบ

โรงเรียนบ้านโค้งประดู่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๒

ผู้รายงาน นางชลธิชา อนันต์นาวี

ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

รายงานการประเมินโครงการพัฒนาสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบโรงเรียนบ้านโค้งประดู่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๒มีวัตถุประสงค์เพื่อ ประเมินผลการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบโรงเรียนบ้านโค้งประดู่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 2 โดยใช้รูปแบบการประเมิน CIPP Model ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ด้าน คือด้านบริบทของโครงการ (Context)ด้านปัจจัยนำเข้าที่ใช้ในกิจกรรมตามโครงการ (Input)ด้านกระบวนการดำเนินงานของกิจกรรมตามโครงการ (Process) และด้านผลผลิตตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรมตามโครงการ (Product)กลุ่มตัวอย่างคือ ครูผู้สอนจำนวน 4 คน คณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 9 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ถึงนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 37 คน และผู้ปกครองนักเรียนจำนวน 37 คน ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sample)เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ แบบสอบถามประเมินโครงการพัฒนาสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบโรงเรียนบ้านโค้งประดู่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 2 เป็นแบบสอบถามที่มีจํานวน 3 ฉบับ มีดังนี้ฉบับนักเรียนฉบับผู้ปกครองนักเรียน และฉบับครูมีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.25-0.69 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.84, 0.87 และ 0.98 ตามลำดับ และแบบสัมภาษณ์กรรมการสถานศึกษา สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการประเมินพบว่าผลการประเมินโครงการพัฒนาสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบ

โรงเรียนบ้านโค้งประดู่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 2 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.56 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.57 เมื่อวิเคราะห์รายด้านพบว่า ด้านที่มีผลการประเมินมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง คือ ด้านผลผลิต มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.69 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.47 รองลงมา คือ ด้านกระบวนการ ด้านบริบท และด้านปัจจัยนำเข้า ตามลำดับ เมื่อวิเคราะห์เป็นรายด้านสรุปได้ ดังนี้

1.ผลการประเมินด้านบริบท (Context) ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.51 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.57 และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อในความคิดเห็นของนักเรียนพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ บรรยากาศของสถานที่เรียนรู้เหมาะสมกับการเรียนรู้ของนักเรียน ข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ สภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนเป็นระเบียบสวยงามร่มรื่น ในความคิดเห็นของผู้ปกครองพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ โรงเรียนมีอุปกรณ์และสื่อเพียงพอ

ต่อการเรียนการสอน ข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียนมีเพียงพอต่อความต้องการ และในความคิดเห็นของครูพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ โรงเรียนดำเนินนโยบายตามแผนงานโครงการสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบ

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.46 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.66 และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อในความคิดเห็นของนักเรียนพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือสื่อวัสดุอุปกรณ์และเอกสารมีความสอดคล้องกับเนื้อหาในโครงการ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ จำนวนชั่วโมงในการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม ในความคิดเห็นของผู้ปกครองพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ สถานที่ในการจัดกิจกรรมในโครงการเหมาะสมข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ สื่อ วัสดุอุปกรณ์ และเอกสารมีความสอดคล้องกับเนื้อหาโครงการ และในความคิดเห็นของครูพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ จำนวนชั่วโมงในการจัดกิจกรรมมีเหมาะสม และงบประมาณในการจัดการเรียนการสอนมีเพียงพอและเหมาะสมข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือสื่อวัสดุอุปกรณ์และเอกสารมีความสอดคล้องกับเนื้อหาในโครงการ

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการ (Process) ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.57 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.59 และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อในความคิดเห็นของนักเรียนพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ โรงเรียนติดตามผลการดำเนินโครงการเป็นระยะและให้ข้อมูลย้อนกลับอย่างสม่ำเสมอ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ เกณฑ์การประเมินของผู้สอนหรือวิทยากรมีความโปร่งใสยุติธรรม ในความคิดเห็นของผู้ปกครองพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในโครงการมีประโยชน์ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในโครงการมีความเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน และในความคิดเห็นของครูพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ครูมีเทคนิค สื่อและวิธีการสอนช่วยให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือโรงเรียนติดตามผลการดำเนินโครงการเป็นระยะและให้ข้อมูลย้อนกลับอย่างสม่ำเสมอ

4. ผลการประเมินด้านผลผลิต (Product) ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.69 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.47 และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อในความคิดเห็นของนักเรียนพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ผลงานของนักเรียนประสบผลสำเร็จทุกครั้งที่ปฏิบัติ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ กิจกรรมการจัดการเรียนการสอนตอบสนองต่อความต้องการของชุมชน ในความคิดเห็นของผู้ปกครองพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ นักเรียนสามารถปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ นักเรียนสามารถนำความรู้และทักษะไปใช้ในการพัฒนาการศึกษาและทักษะชีวิต และในความคิดเห็นของครูพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ นักเรียนสามารถใช้ความรู้ที่ได้เรียนมา นักเรียนสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพในอนาคต นักเรียนเข้าใจหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และนักเรียนสามารถปฏิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ผลงานของนักเรียนประสบผลสำเร็จทุกครั้งที่ปฏิบัติ

โพสต์โดย TOFFY : [4 ต.ค. 2561 เวลา 18:48 น.]
อ่าน [3333] ไอพี : 180.180.3.226
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,072 ครั้ง
คำสัญญาที่ว่างเปล่า
คำสัญญาที่ว่างเปล่า

เปิดอ่าน 52,770 ครั้ง
เพลง "วันแม่"
เพลง "วันแม่"

เปิดอ่าน 18,882 ครั้ง
กินแก้โรค ข้าวสมุนไพรหลากสี
กินแก้โรค ข้าวสมุนไพรหลากสี

เปิดอ่าน 36,419 ครั้ง
วิธีทำอุปกรณ์ง่าย ๆ ดูปรากฏการณ์สุริยุปราคา
วิธีทำอุปกรณ์ง่าย ๆ ดูปรากฏการณ์สุริยุปราคา

เปิดอ่าน 13,864 ครั้ง
ประโยชน์ของวิตามินบี...ที่ไม่ควรมองข้าม
ประโยชน์ของวิตามินบี...ที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 14,326 ครั้ง
ASEAN
ASEAN

เปิดอ่าน 12,987 ครั้ง
"อ้วน" กับ 7 เรื่องน่ารู้ น้ำหนักลดเร็วในช่วงแรกแต่ต่อไปทำไมไม่ลด
"อ้วน" กับ 7 เรื่องน่ารู้ น้ำหนักลดเร็วในช่วงแรกแต่ต่อไปทำไมไม่ลด

เปิดอ่าน 117,691 ครั้ง
สดุดี ‘ครูทองล้อม’ เกษียณกว่า 20 ปี ยังมาสอนเลข แต่งเพลงให้เด็กจำ ผ่านยกห้อง
สดุดี ‘ครูทองล้อม’ เกษียณกว่า 20 ปี ยังมาสอนเลข แต่งเพลงให้เด็กจำ ผ่านยกห้อง

เปิดอ่าน 9,489 ครั้ง
หน้ากากอนามัยใส่ให้เป็น
หน้ากากอนามัยใส่ให้เป็น

เปิดอ่าน 9,934 ครั้ง
สแกน...ลดเวลาเรียน "3 สัปดาห์"บรรลุเป้า?
สแกน...ลดเวลาเรียน "3 สัปดาห์"บรรลุเป้า?

เปิดอ่าน 14,691 ครั้ง
กิน เบต้าแคโรทีน มากไป เสี่ยงมะเร็ง
กิน เบต้าแคโรทีน มากไป เสี่ยงมะเร็ง

เปิดอ่าน 11,866 ครั้ง
หลักเกณฑ์กระจายอำนาจ 2550
หลักเกณฑ์กระจายอำนาจ 2550

เปิดอ่าน 14,174 ครั้ง
เอกสารแนบคำขอในระบบ DPA
เอกสารแนบคำขอในระบบ DPA

เปิดอ่าน 13,724 ครั้ง
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะจีน 3-2 เซต เมื่อวันที่ 20 ก.ย.56
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะจีน 3-2 เซต เมื่อวันที่ 20 ก.ย.56

เปิดอ่าน 11,515 ครั้ง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง

เปิดอ่าน 18,264 ครั้ง
ขจัดไขมันบนพุงด้วยการแขม่วท้อง
ขจัดไขมันบนพุงด้วยการแขม่วท้อง
เปิดอ่าน 6,718 ครั้ง
ว่ากันว่า นี่คือจุดจบของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เมื่อมีเจ้านี่!! คอมพิวเตอร์ที่เสียบเข้าทีวีใช้ได้เลย
ว่ากันว่า นี่คือจุดจบของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เมื่อมีเจ้านี่!! คอมพิวเตอร์ที่เสียบเข้าทีวีใช้ได้เลย
เปิดอ่าน 21,698 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2549
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2549
เปิดอ่าน 34,267 ครั้ง
กินเจ-มังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร
กินเจ-มังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร
เปิดอ่าน 419,584 ครั้ง
ทฤษฎีการเรียนรู้
ทฤษฎีการเรียนรู้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ