|
|
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง กีฬาฟุตซอล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 วัตถุประสงค์การศึกษา 1) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง กีฬาฟุตซอล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง กีฬาฟุตซอล 3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง กีฬาฟุตซอล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อประเมินทักษะปฏิบัติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง กีฬาฟุตซอล 5) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โดยใช้แบบ ฝึกทักษะ เรื่อง กีฬาฟุตซอล กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/4 โรงเรียนเชียงยืนพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 39 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 10 แผน ค่าความเหมาะสมเท่ากับ 4.67 2) แบบฝึกทักษะ จำนวน 10 เล่ม ค่าความเหมาะสมเท่ากับ 4.66 3) แบบทดสอบย่อยระหว่างเรียน จำนวน 100 ข้อ ค่าเฉลี่ย IOC เท่ากับ 0.88 ค่าอำนาจจำแนกเท่ากับ .20-.80 ค่าความยากง่ายเท่ากับ .23-.80 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.87 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ค่าเฉลี่ย IOC เท่ากับ 0.80 ค่าอำนาจจำแนกเท่ากับ .23-.80 ค่าความยากง่ายเท่ากับ .21-.80 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 5) แบบประเมินทักษะปฏิบัติสำหรับนักเรียน จำนวน 20 ข้อ ค่าเฉลี่ย IOC เท่ากับ 0.86 6) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน จำนวน 25 ข้อ ค่าเฉลี่ย IOC เท่ากับ 0.88 ค่าอำนาจจำแนกเท่ากับ .37-.80 และค่าความเชื่อมั่น ทั้งฉบับเท่ากับ 0.8955 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบแผนการทดลองแบบ One Group Pre-test Post-test Design ทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) ทำการสอนด้วยแบบฝึกทักษะตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ และทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน (Post-test) หลังเรียน ประเมินทักษะปฏิบัติ และประเมินความพึงพอใจของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ IOC วิเคราะห์ค่าความสอดคล้องของแบบทดสอบย่อยระหว่างเรียนและแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินทักษะปฏิบัติ และแบบประเมินความพึงพอใจ ใช้สถิติ E1/ E2 หาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ ใช้สถิติ t-test ทดสอบสมมติฐานการเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน ใช้สถิติ E.I. วิเคราะห์ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ ใช้สถิติของ แบรนแนน (Brennan) หาค่าอำนาจจำแนก (B) ค่าความยากง่าย (p) ใช้สถิติของโลเวท (Lovett) หาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ (rcc) ของแบบทดสอบย่อยระหว่างเรียนและแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางเรียน หาค่าอำนาจจำแนก โดยใช้วิธี Item total Correlation ใช้สูตรสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน หาค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่น ของแบบประเมินความพึงพอใจ ทั้งฉบับ โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา (Alpha Coefficient) ของครอนบาค (Cronbach) ใช้สถิติพื้นฐานหาค่าเฉลี่ย ( ) ร้อยละ (P) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง กีฬาฟุตซอล เท่ากับ E1 = 83.46/E2 = 82.90 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง กีฬาฟุตซอล เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน พบว่า คะแนนทดสอบนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. ดัชนีประสิทธิผลแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง กีฬาฟุตซอล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.7110 หมายความว่า แบบฝึกทักษะชุดนี้ทำให้ผล การเรียนของนักเรียน มีความก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 71.10 สูงกว่าเกณฑ์ที่ยอมรับได้
4. โดยรวมทักษะปฏิบัติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง กีฬาฟุตซอล มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับดีมาก (X-bar = 44.38)
5. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ตอบแบบสอบถามความพึงพอใจ มีจำนวน 39 คน เป็นนักเรียนชาย 22 คน คิดเป็นร้อยละ 56.41 และเป็นนักเรียนหญิง 17 คน คิดเป็นร้อยละ 43.59โดยรวมความพึงพอใจของนักเรียนชายและนักเรียนหญิง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง กีฬาฟุตซอล มีค่าอยู่ในระดับมากเหมือนกัน โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ (X-bar = 4.05) และ (X-bar = 3.96) ตามลำดับ
|
โพสต์โดย นายพิศาล ศาสตร์แก้ว : [28 ก.ย. 2561 เวลา 10:18 น.] อ่าน [4863] ไอพี : 223.206.241.27
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 15,916 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,357 ครั้ง
| เปิดอ่าน 150,126 ครั้ง
| เปิดอ่าน 82,318 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,084 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,112 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,104 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,722 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,814 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,309 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,937 ครั้ง
| เปิดอ่าน 31,622 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,464 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,286 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,129 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 2,350 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,210 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,571 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,994 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,241 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|