ชื่อเรื่อง การพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านภาษาไทยโดยใช้รูปแบบร่วมมือ
เทคนิค STAD เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่ดีในยุค 4.0 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ชื่อผู้ศึกษา ศิรินาถ สีพั้ว
ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านภาษาไทยโดยใช้รูปแบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่ดีในยุค 4.0 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านภาษาไทยโดยใช้รูปแบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อ สร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่ดีในยุค 4.0 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการอ่านภาษาไทย โดยใช้รูปแบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่ดี ใน ยุค 4.0 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างก่อนเรียนและ หลังเรียน และเพื่อศึกษา ความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านภาษาไทยโดยใช้รูปแบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่ดีในยุค 4.0 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประชากรที่ ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนเทศบาล ๔ (รัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี) อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองนครพนม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 41 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านภาษาไทยโดยใช้รูปแบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่ดีในยุค 4.0 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
แบบวัดความพึงพอใจของผู้ปกครอง
สรุปผลการศึกษา แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านภาษาไทยโดยใช้รูปแบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่ดีในยุค 4.0 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ดังกล่าว มีประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านภาษาไทยโดยใช้รูปแบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่ดีในยุค 4.0 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเท่ากับ 95.92/95.13 เกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด / คือ 80/80 แสดงว่าแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านภาษาไทยโดยใช้รูปแบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่ดีในยุค 4.0 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดตามสมมติฐานข้อ 1
หลังจากได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านภาษาไทยโดยใช้รูปแบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่ดีในยุค 4.0 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาการอ่านคิดวิเคราะห์ สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 นั่นแสดงว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านภาษาไทยโดยใช้รูปแบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่ดีในยุค 4.0 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ของ การพัฒนาการอ่านภาษาไทย ด้านการจับใจความสำคัญสูงขึ้นจริง เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ในข้อ 2 และความพึงพอใจของผู้ปกครองต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านภาษาไทยโดยใช้รูปแบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่ดีในยุค 4.0 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลรวมของคะแนนเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.70 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.25 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดยกเว้น ข้อ1และข้อ 3 ผู้ปกครองมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ตามลำดับเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ในข้อ 3