ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ชื่อผู้วิจัย : ชวัลณัฏฐ์ ขำดำ
ปีที่วิจัย : 2560
บทคัดย่อ
การวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้านกระบวนการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบ การจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยแบ่งการวิจัยออกเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ด้านกระบวนการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ระยะที่ 2 การพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ระยะที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และระยะที่ 4 การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ จังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 39 คน เครื่องมือที่ใช้ใน การวิจัย ประกอบด้วย รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาร่วมกับ การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 วิเคราะห์ข้อมูลโดย การวิเคราะห์เนื้อหา หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบที สามารถสรุปผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ พบว่า โดยภาพรวมครูผู้สอนในรายวิชาคณิตศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษา โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ สังกัดเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ มีสภาพปัญหาด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน อยู่ในระดับมาก และความต้องการในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอยู่ในระดับมาก
2. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในครั้งนี้เกิดจากการใช้แนวคิดหลักการจัดการเรียนรู้ของรูปแบบ การจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพ ร่วมกับกระบวนการแก้โจทย์ปัญหาและการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค TAI มาพัฒนาเป็นรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยมีขั้นตอนการจัด การเรียนรู้ 5 ขั้น คือ 1) ขั้นชี้แจงวัตถุประสงค์และทบทวนความรู้เดิม 2) ขั้นนำเสนอเนื้อหาใหม่อย่างแจ่มแจ้ง 3) ขั้นฝึกทักษะ 4) ขั้นประเมินผลและให้ข้อมูลย้อนกลับ และ5) ขั้นให้รางวัลกลุ่ม รูปแบบการเรียนรู้นี้มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 83.19/85.11
3. ผลทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาร่วมกับ การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4พบว่านักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน และนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่าในภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด