ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การวิจัยและพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์การศึกษาเพื่อสร้างเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ชื่อเรื่อง การวิจัยและพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์การศึกษาเพื่อสร้างเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา

รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ผู้วิจัย นางสาวอารีย์ ศรีนรา

ปีที่พิมพ์ 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยและการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์การศึกษาเพื่อสร้างเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา

รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ดำเนินการโดยใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์การศึกษาเพื่อสร้างเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์การศึกษาเพื่อสร้างเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 สำหรับนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้เกมคอมพิวเตอร์การศึกษาเพื่อสร้างเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 สำหรับนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เกมคอมพิวเตอร์การศึกษาเพื่อสร้างเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 30 คน โรงเรียนสะแกราชธวัชศึกษา อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งโรงเรียนได้จัดห้องเรียนแบบคละความสามารถของนักเรียน คือ เก่ง ปานกลาง อ่อน ให้อยู่ในห้องเรียนเดียวกัน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย

เกมคอมพิวเตอร์การศึกษาเพื่อสร้างเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งมีจำนวน 9 เรื่องย่อย 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียนใช้ทดสอบก่อนเรียน/หลังเรียน เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และ

3) แบบทดสอบวัดทักษะการคิดแก้ปัญหาใช้ทดสอบก่อนเรียน/หลังเรียน เป็นแบบอัตนัย จำนวน

5 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยเกมคอมพิวเตอร์การศึกษาเพื่อสร้างเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (rating scale) ตามวิธีของลิเครอท์ (Likert) มี 20 ข้อ เครื่องมือทั้งหมดได้ผ่านการตรวจสอบพิจารณาจากผู้เชี่ยวชาญและปรับปรุงแก้ไข เพื่อใช้เก็บรวบรวมข้อมูลจริงจากกลุ่มตัวอย่าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (x ̅) ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และการทดสอบค่า (t – test)

สรุปผลการวิจัย

1. ข้อมูลพื้นฐานสำหรับเป็นแนวทางสำหรับการสร้างและพัฒนาการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์การศึกษาเพื่อสร้างเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา รายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ 1 สำหรับนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 คือ การจัดการเรียนการสอนโดยเน้นให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติและเรียนรู้ด้วยตนเอง จากสถานการณ์ที่หลากหลายและใกล้เคียงกับสถานการณ์ในชีวิตจริง เกมคอมพิวเตอร์การศึกษาที่ใช้ควรมีความน่าสนใจ มีขั้นตอนการเล่นที่ไม่ซับซ้อนเกินระดับความสามารถของผู้เรียน เนื้อหาการเรียนรู้เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน ใช้เวลาในการเรียนรู้ให้พอเหมาะ ผู้สอนต้องมีความรู้ ความเข้าใจ

ในการสร้างและขั้นตอนการใช้เกมคอมพิวเตอร์การศึกษาเป็นอย่างดี และสามารถดำเนินการอภิปรายให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ในการเรียนรู้ พร้อมทั้งการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง

โดยใช้เครื่องมือและเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจน

2. เกมคอมพิวเตอร์การศึกษาเพื่อสร้างเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา รายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.22/81.08

เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80

3. ทดลองใช้เกมคอมพิวเตอร์การศึกษาเพื่อสร้างเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา รายวิชา

เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า

3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้เกมคอมพิวเตอร์การศึกษาเพื่อสร้างเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา รายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3.2 ผลคะแนนการทดสอบวัดทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนที่เรียนโดยใช้เกม

คอมพิวเตอร์การศึกษาเพื่อสร้างเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา รายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ 1

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เกมคอมพิวเตอร์การศึกษาเพื่อสร้างเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา รายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ 1

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย aris : [2 ก.ย. 2561 เวลา 22:45 น.]
อ่าน [3223] ไอพี : 223.205.235.102
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,611 ครั้ง
8 เทคนิครักษาดอกกุหลาบให้อยู่ได้นานขึ้น
8 เทคนิครักษาดอกกุหลาบให้อยู่ได้นานขึ้น

เปิดอ่าน 2,332 ครั้ง
ประกันเดินทางต่างประเทศ (Travel Insurance) ประกันที่คนเดินทางควรทำไว้
ประกันเดินทางต่างประเทศ (Travel Insurance) ประกันที่คนเดินทางควรทำไว้

เปิดอ่าน 35,217 ครั้ง
ทำไมพระเรียกผู้หญิงว่า "สีกา"
ทำไมพระเรียกผู้หญิงว่า "สีกา"

เปิดอ่าน 31,171 ครั้ง
ภาษาอังกฤษ เริ่มได้ที่บ้าน กับ สอนลูกฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษกับคำศัพท์เกี่ยวกับบ้าน
ภาษาอังกฤษ เริ่มได้ที่บ้าน กับ สอนลูกฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษกับคำศัพท์เกี่ยวกับบ้าน

เปิดอ่าน 10,580 ครั้ง
จบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ...เงินเดือน 25,000 จะทำไหม ?
จบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ...เงินเดือน 25,000 จะทำไหม ?

เปิดอ่าน 10,921 ครั้ง
คนค้นฅน ปลัดตงฉิน ผู้รักษาแผ่นดินเกิด
คนค้นฅน ปลัดตงฉิน ผู้รักษาแผ่นดินเกิด

เปิดอ่าน 16,275 ครั้ง
ผักกระเฉด
ผักกระเฉด

เปิดอ่าน 15,352 ครั้ง
คอกาแฟมีหวังอายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ช่วยป้องกันภัยโรคหัวใจหลอดเลือด
คอกาแฟมีหวังอายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ช่วยป้องกันภัยโรคหัวใจหลอดเลือด

เปิดอ่าน 27,387 ครั้ง
ประโยชน์จากปูทะเล
ประโยชน์จากปูทะเล

เปิดอ่าน 14,163 ครั้ง
เมื่อฝรั่งขับรถเจอด่านตำรวจ จะเป็นยังไง ?
เมื่อฝรั่งขับรถเจอด่านตำรวจ จะเป็นยังไง ?

เปิดอ่าน 16,666 ครั้ง
คลิปเจ้าหนู 11 ปี นักบาสฯ ขั้นเทพ เล่นเก่งกว่าผู้ใหญ่ ฮิตกว่า 2 ล้านวิวแล้ว
คลิปเจ้าหนู 11 ปี นักบาสฯ ขั้นเทพ เล่นเก่งกว่าผู้ใหญ่ ฮิตกว่า 2 ล้านวิวแล้ว

เปิดอ่าน 14,392 ครั้ง
"5 บ่วงอันตราย" เตือนคนทำงานมือใหม่ อย่าตกหล่ม !!
"5 บ่วงอันตราย" เตือนคนทำงานมือใหม่ อย่าตกหล่ม !!

เปิดอ่าน 2,425 ครั้ง
"ไบโอติน" วิตามินหลากหลายประโยชน์
"ไบโอติน" วิตามินหลากหลายประโยชน์

เปิดอ่าน 15,946 ครั้ง
ตามไปดูต้นแบบความสำเร็จ การปฏิรูปการศึกษา 5 ประเทศ
ตามไปดูต้นแบบความสำเร็จ การปฏิรูปการศึกษา 5 ประเทศ

เปิดอ่าน 10,755 ครั้ง
การหยุดหายใจในขณะหลับ (Sleep apnoea)
การหยุดหายใจในขณะหลับ (Sleep apnoea)

เปิดอ่าน 23,525 ครั้ง
ครู-คนสอนคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์สอนคน
ครู-คนสอนคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์สอนคน
เปิดอ่าน 91,624 ครั้ง
วิธีการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ที่ถูกต้อง
วิธีการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ที่ถูกต้อง
เปิดอ่าน 14,826 ครั้ง
วิธีแก้อาการอ่อนเพลีย หลังเดินทาง
วิธีแก้อาการอ่อนเพลีย หลังเดินทาง
เปิดอ่าน 1,698 ครั้ง
วันไหว้ครู ที่มาและความสำคัญของวันไหว้ครู และพิธีปฏิบัติ
วันไหว้ครู ที่มาและความสำคัญของวันไหว้ครู และพิธีปฏิบัติ
เปิดอ่าน 19,404 ครั้ง
ทานไข่วันละกี่ฟอง ถึงจะดี?
ทานไข่วันละกี่ฟอง ถึงจะดี?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ