|
|
การสร้างรูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ตามรูปแบบ (PISAA) 5 ขั้นตอน เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ผู้วิจัยแบ่งการดำเนินงาน การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การวิจัย (Research : R1) เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis : A) การศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนา (Development : D1) เป็นการออกแบบและพัฒนา (Design and Development D & D) การพัฒนาหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ขั้นตอนที่ 3 การวิจัย (Research : R2) เป็นการนำไปใช้ (Implementation : I)การทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) และขั้นตอนที่ 4 การพัฒนา (Development : D2) เป็นการประเมินผล (Evaluation : E) การประเมินและปรับปรุง แก้ไขการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์ย่อยดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบ การจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพ ของรูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครูปฐมวัยที่มีต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหา อย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) เด็กเพศชายและเพศหญิง อายุระหว่าง 4-5 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 3/4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 25560 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ซึ่งได้มาโดยการเลือกสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) จำนวน 20 คน 2) ครูปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ)ซึ่งได้มาโดยการเลือกสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 12 คน ตัวแปรที่ศึกษาประกอบด้วย 1) ตัวแปรต้น (Independent Variable) ได้แก่ รูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ตามรูปแบบ (PISAA) 5 ขั้นตอน 2) ตัวแปรตาม (Dependent Variable) ได้แก่ ความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ประกอบด้วย 5 ด้านและความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) โดยถ่ายทอดแนวคิดของรูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ออกมาในรูปแบบของแผนการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) 2) แบบทดสอบความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) สถิติ Wilcoxon Signed-Ranks Test (Wilcoxon Value, Wilcoxon Prob)
สรุปผลการวิจัย
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลพื้นฐานเอกสารและข้อมูลพื้นฐานบุคคล สามารถกำหนดเป็นนิยาม องค์ประกอบและพฤติกรรมในแต่ละองค์ประกอบของความสามารถใน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และแนวทางการพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา พบว่า พฤติกรรมที่แสดงถึงการรับรู้การทำความเข้าใจกับปัญหาและการคิดหาเหตุผลเพื่อแสวงหาหาทางเลือกมาปฏิบัติในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยการกระตุ้นให้เด็กปฐมวัยคิดและตอบคำถามอย่างสม่ำเสมอ กิจกรรมการระดมสมอง ครูปฐมวัยและเด็กปฐมวัย มีส่วนร่วม ในกิจกรรมสร้างสรรค์โดยครูสามารถเป็นผู้กำหนดกรอบของคำถามในการระดมสมองเพื่อให้เกิดทิศทางในการค้นหาและได้มาซึ่งคำตอบตามวัตถุประสงค์ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า ให้เด็กปฐมวัยคิดวางแผนและลงมือปฏิบัติกิจกรรมสร้างสรรค์ด้วยตนเองมีหลากหลาย ใช้หลายวิธีเหมาะสมกับวัยเด็กปฐมวัยโดยมีสื่อ วัสดุอุปกรณ์ที่แปลกใหม่ สีสันสวยงามประกอบกับ การสร้างสถานการณ์จำลองโดยใช้เหตุการณ์เกี่ยวกับชีวิตประจำวันเพื่อให้เด็กปฐมวัยได้แก้ปัญหา จากประสบการณ์ตรง มีการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในห้องเรียนสม่ำเสมอเพื่อสร้างแรงจูงใจ เด็กปฐมวัยได้เกิดคำถามและต้องการค้นหาคำตอบในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
2. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ดังนี้
2.1 ผลการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) พบว่า กระบวนการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ที่พัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นประกอบด้วยความเป็นมาและความสำคัญ หลักการและแนวคิดพื้นฐาน วัตถุประสงค์ รูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ขั้นตอนของรูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ การประเมินผลและเงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ไปใช้ โดยกระตุ้นให้เด็กปฐมวัยใช้จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ คิดหาเหตุผล ในการนำความรู้ ทักษะและประสบการณ์ที่มีอยู่ตามระดับพัฒนาการมาใช้ในการแก้ปัญหาด้วยวิธีการซึ่งเป็นของตนเอง มีลักษณะแปลกใหม่ต่างจากสิ่งที่มีอยู่เดิมและหรือมีวิธีในการแก้ปัญหาที่หลากหลายมากกว่าหนึ่งแนวคิดหรือหนึ่งวิธีจนได้ผลการค้นพบว่าเป็นวิธีการที่สามารถใช้ในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ตามรูปแบบ (PISAA)
2.2 ผลการหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 พบว่ารูปแบบการจัดกิจกรรม เสริมประสบการณ์ มีค่าประสิทธิภาพของกระบวนการ ( ) และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ( ) เท่ากับ 85.18/86.25 ตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
3. ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล วัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) พบว่าเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 หลังการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์เด็กปฐมวัยมีความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นจากก่อนการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหา อย่างสร้างสรรค์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของครูปฐมวัยที่มีต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) พบว่าความพึงพอใจของครูปฐมวัยที่มีต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) รวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก ( =4.36, =0.68)
|
โพสต์โดย น้อง : [2 ก.ย. 2561 เวลา 12:15 น.] อ่าน [4321] ไอพี : 125.26.242.132
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 11,660 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,960 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,331 ครั้ง
| เปิดอ่าน 111,901 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,170 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,650 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,593 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,493 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,744 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,491 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,149 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,480 ครั้ง
| เปิดอ่าน 54,105 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,061 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,181 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 15,654 ครั้ง
| เปิดอ่าน 2,842 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,038 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,624 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,424 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|