งานวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ 4 MAT เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดโคกสะท้อน
ผู้วิจัย รัตนาภรณ์ ชายสิงขรณ์
ปีที่ทำการวิจัย ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ 4 MAT เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารในชีวิตประจำวัน ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดโคกสะท้อน มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ 4 MAT เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดโคกสะท้อน 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ 4 MAT เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดโคกสะท้อน ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3)ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ 4 MAT เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดโคกสะท้อน และ 4)ประเมินผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ 4 MAT เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดโคกสะท้อน ใช้รูปแบบวิจัย R&D ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอน ที่ 1 การวิจัย (Research) : การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนา (Development) : การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 3 การวิจัย (Research) : การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ และขั้นตอนที่ 4 การพัฒนา (Development) : การประเมินผลและปรับปรุงการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนขั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนเทศบาลวัดโคกสะท้อน สังกัดเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 39 คน ซึ่งได้มาโดย การสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (cluster random sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT จำนวน 9 แผน แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ เป็นข้อสอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ เป็นแบบทดสอบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 4 ข้อ และเป็นแบบทดสอบอัตนัย จำนวน 8 ข้อ และแบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียน ระดับความคิดเห็น 3 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t-test
ผลการวิจัยพบว่า
1. การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน
1.1 นักเรียนมีความรู้พื้นฐานไม่ดีพอ ขาดทักษะในการเรียนแบบปฏิบัติการทดลอง ขาดการฝึกทักษะเชิงกระบวนการวิทยาศาสตร์ คะแนนเฉลี่ยความสามารถในการคิดแก้ปัญหาต่ำ
1.2 ครูผู้สอน ขาดทักษะการสอนวิทยาศาสตร์ ขาดการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เอื้อให้นักเรียนได้สืบค้น ทดลอง เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ 4 MAT เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดโคกสะท้อน มีประสิทธิภาพ 85.33/87.92
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ 4 MAT เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดโคกสะท้อน ดังนี้
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.2 ความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และพบว่านักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ทั้ง 4 ขั้นตอน สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้ โดยที่คะแนนเฉลี่ยความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ สูงเป็นลำดับที่ 1 คือ การทำความเข้าใจปัญหา และลำดับสุดท้าย คือ การดำเนินการแก้ปัญหาและประเมินผล
4. ความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT โดยภาพรวมนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับเห็นด้วยมาก