ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทยด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์โดยใช้ แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ เรื่อง เด็กดีรู้คิดใช้ชีวิตอย่างพอเพียงของนักเรียน

ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทยด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์โดยใช้

แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ เรื่อง เด็กดีรู้คิดใช้ชีวิตอย่างพอเพียงของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ชื่อผู้ศึกษา ศิรินาถ สีพั้ว

ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทยด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์โดยใช้แบบฝึกทักษะ

การอ่านเชิงวิเคราะห์ เรื่อง เด็กดีรู้คิดใช้ชีวิตอย่างพอเพียงของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ เรื่อง เด็กดีรู้คิดใช้ชีวิต อย่างพอเพียงของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทยด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ เรื่อง เด็กดีรู้คิดใช้ชีวิตอย่างพอเพียง และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนภาษาไทยด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ เรื่อง เด็กดีรู้คิดใช้ชีวิตอย่างพอเพียงของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนเทศบาล ๔ (รัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี) อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองนครพนม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 36 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา

1.แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ เรื่อง เด็กดีรู้คิดใช้

ชีวิตอย่างพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

2.แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ เรื่อง เด็กดีรู้คิดใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ของนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

3.แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

4.แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียน

ผลการศึกษา

1. การหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ เรื่อง เด็กดีรู้คิดใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า คะแนนเฉลี่ยระหว่างเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ เรื่อง เด็กดีรู้คิดใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทั้ง 5 ชุด มีค่าเท่ากับ 593.81 จากคะแนนเต็ม 630 คะแนน นำมาหาค่าประสิทธิภาพของกระบวนการ ( ) คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 94.26 ส่วนค่าเฉลี่ยหลังเรียนจากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบฝึกทักษะภาษาไทยพัฒนาการอ่านคิดวิเคราะห์ โดยเท่ากับ 28.33 จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 94.43 ซึ่งมีค่าเท่ากับประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ( ) ดังนั้น ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ เรื่อง เด็กดีรู้คิดใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเท่ากับ 94.26/94.43 เกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด / คือ 80/80 แสดงว่า แบบฝึกทักษะภาษาไทยแบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ เรื่อง เด็กดีรู้คิดใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดตามสมมติฐานข้อ 1

2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการอ่านเชิงวิเคราะห์จากการใช้แบบฝึกทักษะแบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ เรื่อง เด็กดีรู้คิดใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 โดยภาพรวมคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 23.86 และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 28.33และหลังจากได้รับการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ เรื่อง เด็กดีรู้คิดใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาการอ่านเชิงวิเคราะห์ สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นั่นแสดงว่าการพัฒนาการอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ เรื่อง เด็กดีรู้คิดใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาการอ่านคิดวิเคราะห์สูงขึ้นจริง เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ในข้อ 2

3. การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ เรื่อง เด็กดีรู้คิดใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ เรื่อง เด็กดีรู้คิดใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลรวมของคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.70 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.27 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ยกเว้น ข้อ 1 และข้อ 3 นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากตามลำดับ เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ในข้อ 3

โพสต์โดย aomam : [30 ส.ค. 2561 เวลา 00:05 น.]
อ่าน [5184] ไอพี : 182.232.103.87
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,794 ครั้ง
แนะเด็กกินผักสด สู้หวัดหน้าหนาว
แนะเด็กกินผักสด สู้หวัดหน้าหนาว

เปิดอ่าน 8,644 ครั้ง
คุณครูกับคนดี โดย กล้า สมุทวณิช
คุณครูกับคนดี โดย กล้า สมุทวณิช

เปิดอ่าน 6,372 ครั้ง
พันธุ์หอมแดง
พันธุ์หอมแดง

เปิดอ่าน 34,736 ครั้ง
รูปแบบการสอน 7 ประการ
รูปแบบการสอน 7 ประการ

เปิดอ่าน 19,158 ครั้ง
ชนชาติแรกที่สูบบุหรี่
ชนชาติแรกที่สูบบุหรี่

เปิดอ่าน 8,690 ครั้ง
ยันแก๊สโซฮอล์ ไม่ได้ก่อมลพิษฯ ทำให้เกิดมะเร็ง
ยันแก๊สโซฮอล์ ไม่ได้ก่อมลพิษฯ ทำให้เกิดมะเร็ง

เปิดอ่าน 29,862 ครั้ง
วิวัฒนาการของ "บัตรประจำตัวประชาชน"
วิวัฒนาการของ "บัตรประจำตัวประชาชน"

เปิดอ่าน 17,652 ครั้ง
การศึกษาแบบไหนสอนให้คิดเป็น
การศึกษาแบบไหนสอนให้คิดเป็น

เปิดอ่าน 23,924 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย ในศตวรรษที่ 21 ไปทางไหน
ปฏิรูปการศึกษาไทย ในศตวรรษที่ 21 ไปทางไหน

เปิดอ่าน 65,673 ครั้ง
การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์
การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 4,822 ครั้ง
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน

เปิดอ่าน 17,542 ครั้ง
ชาผลไม้...บำรุงร่างกาย สูตรทำเองได้...ง่ายๆ
ชาผลไม้...บำรุงร่างกาย สูตรทำเองได้...ง่ายๆ

เปิดอ่าน 16,916 ครั้ง
"มะระ" ป้องเบาหวาน-จัดการริดสีดวง!
"มะระ" ป้องเบาหวาน-จัดการริดสีดวง!

เปิดอ่าน 16,678 ครั้ง
เทควันโด : อวัยวะของร่างกายที่ใช้เป็นอาวุธ
เทควันโด : อวัยวะของร่างกายที่ใช้เป็นอาวุธ

เปิดอ่าน 14,430 ครั้ง
วันพ่อแห่งชาติ (5 ธันวาคม)
วันพ่อแห่งชาติ (5 ธันวาคม)

เปิดอ่าน 21,659 ครั้ง
สุดยอดสิ่งมีชีวิต ตอนที่ 1 สุดยอดจ้าวความเร็ว
สุดยอดสิ่งมีชีวิต ตอนที่ 1 สุดยอดจ้าวความเร็ว
เปิดอ่าน 19,266 ครั้ง
1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่
1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่
เปิดอ่าน 44,890 ครั้ง
การจัดการศึกษาที่หลากหลาย เพื่อแสวงหาแนวทาง ‘ปฏิรูป’ ผู้เขียน ดร.พีระพงษ์ สิทธิอมร
การจัดการศึกษาที่หลากหลาย เพื่อแสวงหาแนวทาง ‘ปฏิรูป’ ผู้เขียน ดร.พีระพงษ์ สิทธิอมร
เปิดอ่าน 10,773 ครั้ง
การจัดการเรียนการสอนในยุคโลกดิจิตอล
การจัดการเรียนการสอนในยุคโลกดิจิตอล
เปิดอ่าน 22,215 ครั้ง
ทายนิสัยจากการอาบน้ำ
ทายนิสัยจากการอาบน้ำ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ