ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสาน โดยใช้การเรียนรู้พลศึกษาแบบ 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านทักษะกีฬาแบดมินตัน และความฉลาดทางอารมณ์ ของนักเ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสาน โดยใช้การเรียนรู้พลศึกษา

แบบ 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านทักษะกีฬาแบดมินตัน และความฉลาด

ทางอารมณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ผู้วิจัย นายสุนันท์ หิรัตพรม

หน่วยงาน โรงเรียนจุมจังพลังราษฎร์ อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ กระทรวงมหาดไทย

ปีที่พิมพ์ 2559

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานของการจัดการเรียนรู้พลศึกษา

2) เพื่อออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสาน โดยใช้การเรียนรู้พลศึกษาแบบ 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านทักษะกีฬาแบดมินตัน และความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อนำรูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสาน โดยใช้การเรียนรู้พลศึกษาแบบ 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านทักษะกีฬาแบดมินตัน และความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่พัฒนาขึ้นไปใช้ 4) เพื่อประเมินผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น ดังนี้ 4.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 4.2) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้พลศึกษา 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านทักษะกีฬาแบดมินตัน และความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนจุมจังพลังราษฎร์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่เรียนวิชาแบดมินตัน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เป็นหน่วยวิเคราะห์ (Unit of Analysis) ดำเนินการวิจัย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis : R1) ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนา (Design and Development : D1) : การพัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 3 การนำไปใช้ (Implementation: R2) : การทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 4 การประเมินผลและปรับปรุง (Evaluation : D2) : การประเมินและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย (1) รูปแบบการสอนพลศึกษา 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านทักษะกีฬาแบดมินตันและความฉลาดทางอารมณ์(2) แบบประเมินความสอดคล้องของรูปแบบการสอน (3) เอกสารประกอบ การสอนแบดมินตัน (4) แผนการจัดการเรียนรู้พลศึกษา 5 ขั้น (5) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (6) แบบวัดความฉลาดทางอารมณ์ และ (7) แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระ (t-test dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผู้บริหาร ครูผู้สอนพลศึกษา และนักเรียนต้องการให้มีการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้พลศึกษา วิชาแบดมินตัน โดยจัดเป็นหน่วยการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านทักษะกีฬาแบดมินตัน และความฉลาดทางอารมณ์ ครูมีความจำเป็นและมีความต้องการรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สอดคล้องกับทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อส่งเสริมทักษะปฏิบัติ และความฉลาดทางอารมณ์

2. การออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มี 7 องค์ประกอบสำคัญ คือ (1) หลักการ (2) วัตถุประสงค์ (3) สาระหลัก (4) กระบวนการจัดการเรียนรู้ 5 ขั้น ได้แก่ ขั้นเตรียมหรือนําเขาสูบทเรียน (Introductory Phase) ขั้นการสอน (Teaching Phase) ขั้นฝกหัด (Practice Phase) ขั้นนําไปใช้ (Skill Laboratory) ขั้นสรุปและสุขปฏิบัติ (Closing Phase) (5) ระบบสนับสนุน (6) การประเมินผล (7) ผลของการนำไปใช้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้มีความเหมาะสม และสอดคล้องขององค์ประกอบ อยู่ในระดับมากที่สุด

3. ผลการนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ไปใช้ พบว่า

3.1 รูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสาน โดยใช้การเรียนรู้พลศึกษาแบบ 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านทักษะกีฬาแบดมินตัน และความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 89.60/87.15

3.2 ดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสาน โดยใช้การเรียนรู้พลศึกษาแบบ 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านทักษะกีฬาแบดมินตัน และความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.7312 ซึ่งหมายถึงว่าหลังเรียนนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 73.12

4. ผลประเมินการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบว่า

4.1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสาน โดยใช้การเรียนรู้พลศึกษาแบบ 5 ขั้น มีความสามารถด้านทักษะกีฬาแบดมินตัน และความฉลาดทางอารมณ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4.2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสาน โดยใช้การเรียนรู้พลศึกษาแบบ 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านทักษะกีฬาแบดมินตัน และความฉลาดทางอารมณ์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยนักเรียนพึงพอใจต่อการสอนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสาน โดยใช้การเรียนรู้พลศึกษาแบบ 5 ขั้น ด้านรูปแบบการจัดการเรียนรู้มากที่สุด เพราะผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์และแสวงหาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ผู้เรียนเรียนรู้จากการฝึกปฏิบัติทักษะกีฬาแบดมินตันและความฉลาดทางอารมณ์ด้วยตัวเอง และร่วมกันเรียนรู้กับผู้อื่น

ครูเรียงลำดับเนื้อหาและกิจกรรมได้อย่างเหมาะสม และนักเรียนสามารถสรุปความรู้ เชื่อมโยงนำไปไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

โพสต์โดย บืนมอ : [29 ส.ค. 2561 เวลา 11:59 น.]
อ่าน [70719] ไอพี : 223.206.233.114
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,576 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : การศึกษาระดับประถมวัยของไทยคือการเตรียมพร้อมหรือการทำร้ายเผ่าพันธุ์มนุษย์
ตูนส์ศึกษา : การศึกษาระดับประถมวัยของไทยคือการเตรียมพร้อมหรือการทำร้ายเผ่าพันธุ์มนุษย์

เปิดอ่าน 11,979 ครั้ง
คลิปแชร์ต่อเมื่อพ่อต้องโกหกลูก (ชมคลิป)
คลิปแชร์ต่อเมื่อพ่อต้องโกหกลูก (ชมคลิป)

เปิดอ่าน 9,877 ครั้ง
การประเมินเพื่อเรียนรู้ การตั้งคำถามและการให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้
การประเมินเพื่อเรียนรู้ การตั้งคำถามและการให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้

เปิดอ่าน 12,786 ครั้ง
ง่ายๆ นวดกดจุดฝ่าเท้าบำบัดโรคความดันโลหิตสูง
ง่ายๆ นวดกดจุดฝ่าเท้าบำบัดโรคความดันโลหิตสูง

เปิดอ่าน 25,102 ครั้ง
Mambo Opensource คืออะไร
Mambo Opensource คืออะไร

เปิดอ่าน 39,633 ครั้ง
ปรากฏการณ์ Earth Shine คืออะไร
ปรากฏการณ์ Earth Shine คืออะไร

เปิดอ่าน 12,617 ครั้ง
รักต้องเปิด (แน่นอก ) เวอร์ชั่นนี้ ฮาระเบิดระเบ้อ!
รักต้องเปิด (แน่นอก ) เวอร์ชั่นนี้ ฮาระเบิดระเบ้อ!

เปิดอ่าน 31,474 ครั้ง
ชมกันหรือยัง? เทคนิคการสอน ห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom)
ชมกันหรือยัง? เทคนิคการสอน ห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom)

เปิดอ่าน 17,357 ครั้ง
สุดยอดอาหารช่วยให้ผอมเร็วขึ้น แถมยังช่วยล้างพิษด้วย
สุดยอดอาหารช่วยให้ผอมเร็วขึ้น แถมยังช่วยล้างพิษด้วย

เปิดอ่าน 9,226 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่4
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่4

เปิดอ่าน 15,434 ครั้ง
วิธีคั้นมะนาวให้ได้น้ำมาก-ไม่ขม
วิธีคั้นมะนาวให้ได้น้ำมาก-ไม่ขม

เปิดอ่าน 9,429 ครั้ง
เทคนิคนวดผมพาเพลิน
เทคนิคนวดผมพาเพลิน

เปิดอ่าน 554 ครั้ง
บริษัทให้เช่ารถยนต์ที่ดี ต้องมี 5 สิ่งนี้ในบริการเช่ารถ
บริษัทให้เช่ารถยนต์ที่ดี ต้องมี 5 สิ่งนี้ในบริการเช่ารถ

เปิดอ่าน 20,742 ครั้ง
ตู้เก็บเอกสาร ในห้องเรียนมีประโยชน์อย่างไร
ตู้เก็บเอกสาร ในห้องเรียนมีประโยชน์อย่างไร

เปิดอ่าน 13,700 ครั้ง
พ่อแม่ควรแอด เฟซบุ๊ก Facebook ลูกไหม
พ่อแม่ควรแอด เฟซบุ๊ก Facebook ลูกไหม

เปิดอ่าน 13,787 ครั้ง
12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน
12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน
เปิดอ่าน 17,920 ครั้ง
ทายใจจากอักษรท้ายชื่อ
ทายใจจากอักษรท้ายชื่อ
เปิดอ่าน 13,859 ครั้ง
5 พฤติกรรมสุดฮิตของคนติด LINE ฉบับขายหัวเราะ ดูกันหรือยังครับ?
5 พฤติกรรมสุดฮิตของคนติด LINE ฉบับขายหัวเราะ ดูกันหรือยังครับ?
เปิดอ่าน 17,148 ครั้ง
11 กิจกรรมดี ๆ ช่วงปิดเทอม
11 กิจกรรมดี ๆ ช่วงปิดเทอม
เปิดอ่าน 18,811 ครั้ง
ความมืดมีประโยชน์ ช่วยต้านมะเร็ง แถมลดน้ำหนัก
ความมืดมีประโยชน์ ช่วยต้านมะเร็ง แถมลดน้ำหนัก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ