ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้นิทานเป็นสื่อ สำหรั

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) ในวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้นิทานเป็นสื่อ โรงเรียนสตรีชัยภูมิ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชา ภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 75 ให้มีนักเรียนร้อยละ 80 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 75 ขึ้นไป 3) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียน วิชาภาษาอังกฤษโดยใช้ซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนสตรีชัยภูมิ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งเป็น 3 ประเภท 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ใช้รูปแบบ (CIPPA MODEL) เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้นิทานเป็นสื่อ โดยใช้ซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) จำนวน 16 แผนการจัดการเรียนรู้ 2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบบันทึกสังเกตการณ์จัดกิจกรรมการเรียนการสอน แบบบันทึกผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ แบบสัมภาษณ์นักเรียน แบบฝึกหัด แบบทดสอบย่อยท้ายวงจร ผลงานนักเรียน แบบแสดงความคิดเห็น 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการสอน ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่น (KR – 20) 0.84

รูปแบบที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ใช้เทคนิคการวิจัยเชิงปฏิบัติการของ Kemmis & Mataggart (1992) ซึ่งมีวงจรปฏิบัติการ 4 วงจร คือ วงจรปฏิบัติที่ 1 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ 1-4 วงจรปฏิบัติที่ 2 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 - 8 วงจรปฏิบัติที่ 3 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9-12 และวงจรที่ 4 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13-16 ขั้นตอนการดำเนินการวิจัย ดังนี้ คือ ขั้นวางแผนและผู้ช่วยวิจัยร่วมกันศึกษาสภาพปัญหา ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องและสร้างแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ซิปปาโมเดล ขั้นปฏิบัติการ ผู้วิจัยดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่วางไว้ ขั้นสังเกตการณ์ครูผู้ช่วยวิจัยสังเกตและรวบรวมข้อมูลจาการเรียนการสอน โดยใช้แบบบันทึกเหตุการณ์ขณะสอนของครูและแบบบันทึกเหตุการณ์ขณะเรียนของนักเรียน นักเรียนบันทึกความคิดเห็น จากการเรียนการสอนและผู้วิจัยสัมภาษณ์นักเรียน ขั้นสะท้อนผลการปฏิบัติผู้ช่วยวิจัยนำข้อมูลที่ได้จากขั้นสังเกตการณ์มาวิเคราะห์ เพื่อปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ที่จะสอนในครั้งต่อไปให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เมื่อสิ้นสุดการดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนแต่ละวงจร นักเรียนทำแบบทดสอบย่อยเพื่อประเมินความก้าวหน้า และสิ้นสุดการเรียนการสอน นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการสะท้อนผลการปฏิบัติที่ผู้วิจัยและผู้ช่วยวิจัยนำข้อมูลที่ได้จากการบันทึก สังเกต สัมภาษณ์ และผลงานของนักเรียน นำมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยนำข้อมูลจาก การสัมภาษณ์และการเขียนแสดงความคิดเห็นของผู้ช่วยวิจัยมาวิเคราะห์ตีความ สรุปและตรวจสอบแล้วรายงานผลในลักษณะการบรรยาย และหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ผลการวิจัย

1. การพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้นิทานเป็นสื่อ มีหลักการและเป้าหมายให้ผู้เรียนเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ ในการเรียนรู้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้อย่างตื่นตาตื่นใจ มีส่วนร่วมทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลและสิ่งแวดล้อมรอบตัว จากกิจกรรมการเรียนการสอน พบว่า ผู้เรียนสามารถสรุปข้อความสำคัญ มีความเข้าใจ สามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง นำประสบการณ์ในชีวิตประจำวันของตนเองมาสัมพันธ์กับวิชาภาษาอังกฤษที่เรียนได้ รวมถึงเรียนรู้การวางแผนการแก้ปัญหา กระบวนการทำงาน ตลอดจนการสร้างสรรค์ผลงานและการนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ และเกิดการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการเรียนรู้ภายใต้บรรยากาศที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีความสามารถในการใช้กระบวนการคิดของตนเองแก้ปัญหา ซึ่งรูปแบบการเรียนการสอน เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้นิทานเป็นสื่อ โดยใช้ซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) ประกอบด้วย 6 ขั้น คือ 1) ขั้นนำ/ทบทวนความรู้เดิม 2) ขั้นการแสวงหาความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงกับความรู้เดิม 3) ขั้นแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจภายในกลุ่ม 4) ขั้นสรุปและจัดระเบียบความรู้ 5) ขั้นแสดงผลงาน 5) ขั้นการประยุกต์ใช้ความรู้

2. พฤติกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) กับการใช้หลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ช่วยให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนอย่างทั่วถึงและเป็นผู้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ด้วยตนเอง นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการอภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน นักเรียนสามารถสรุปข้อความ เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง กล้าแสดงออก มีความมั่นใจในตนเอง เกิดทักษะในการแก้ปัญหา รู้จักยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น นักเรียนมีความกระตือรือร้น สนใจและสนุกกับการเรียน เข้าใจเนื้อหาได้อย่างลึกซึ้งและจดจำได้ดี นักเรียนเกิดการเรียนรู้จากการทำงานแก้ปัญหาด้วยตนเอง การคิดแก้ปัญหาแบบคู่คิด และการคิดแก้ปัญหาภายในกลุ่ม

3. พฤติกรรมด้านการทำงาน พบว่า นักเรียนสามารถทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข มีความสนุกในการเรียน เกิดทักษะอยากรู้อย่างเห็น สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ มีการร่วมมือวางแผนในการทำงาน มีการแบ่งงาน ทำให้นักเรียนทุกคนมีบทบาทหน้าที่ในการทำงานร่วมกัน มีความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม นักเรียนได้ร่วมกันวิเคราะห์และอภิปรายแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความคิดและความรู้สึกต่อกัน ทำให้นักเรียนได้เกิดความเข้าใจในตนเองและผู้อื่น นักเรียนได้รับความรู้ทั้งด้านเนื้อหาสาระและกระบวนการทำงานร่วมกัน และการนำเสนอผลงาน การรู้จักวิเคราะห์และวิจารณ์ผลงานอย่างมีเหตุผล การเป็นส่วนหนึ่งของผลงานทำให้เกิดความภาคภูมิใจ และการสร้างสรรค์ผลงานที่แปลกใหม่

4. คุณลักษณะที่พึงประสงค์ นักเรียนที่ได้รับการเรียนการสอนโดยใช้ซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้นิทานเป็นสื่อ เกิดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ได้แก่ การสร้างความรู้ความเข้าใจด้วยตนเอง มีวิธีการคิดและการแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล เกิดทักษะการทำงานกลุ่ม เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น มีความเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี มีความเชื่อมั่นในตนเอง กล้าแสดงออกและตัดสินใจอย่างมีเหตุผล มีกระบวนการจัดการในการทำงานที่ดี มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่อกลุ่ม มีน้ำใจในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

5. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน นักเรียนที่ได้รับการเรียนการสอนโดยใช้ซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) ในวิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้นิทานเป็นสื่อ พบว่า มีค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คิดเป็นร้อยละ 84.63 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดร้อยละ 75 และมีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์การเรียนรู้ดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 80.65 ซึ่งสูงกว่า จำนวนนักเรียนที่กำหนดร้อยละ 80

โพสต์โดย ครูขวัญ : [28 ส.ค. 2561 เวลา 14:08 น.]
อ่าน [9323] ไอพี : 58.8.33.151
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,561 ครั้ง
จัดตารางทานอาหาร ช่วยควบคุมน้ำหนัก
จัดตารางทานอาหาร ช่วยควบคุมน้ำหนัก

เปิดอ่าน 9,335 ครั้ง
ซีพียูรุ่นใหม่ในยุคคนใช้โน้ตบุ๊คไม่ง้อปลั๊ก
ซีพียูรุ่นใหม่ในยุคคนใช้โน้ตบุ๊คไม่ง้อปลั๊ก

เปิดอ่าน 41,670 ครั้ง
โปรแกรม สื่อการสอน วิทยาศาสตร์
โปรแกรม สื่อการสอน วิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 2,894 ครั้ง
Customer data platform (CDP) โปรแกรมที่คนทำธุรกิจไม่ควรพลาด
Customer data platform (CDP) โปรแกรมที่คนทำธุรกิจไม่ควรพลาด

เปิดอ่าน 36,388 ครั้ง
4 วิธีลดเครียดก่อนนอน
4 วิธีลดเครียดก่อนนอน

เปิดอ่าน 3,392 ครั้ง
นัยสำคัญยุทธศาสตร์การศึกษาในพลวัตศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมอาเชียน อย่างยั่งยืนสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย
นัยสำคัญยุทธศาสตร์การศึกษาในพลวัตศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมอาเชียน อย่างยั่งยืนสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย

เปิดอ่าน 22,747 ครั้ง
"ย่านาง" ตำรับยาแก้ไข้ สมุนไพรอายุวัฒนะ
"ย่านาง" ตำรับยาแก้ไข้ สมุนไพรอายุวัฒนะ

เปิดอ่าน 16,796 ครั้ง
ปี 2558 จะยาวขึ้น 1 วินาที เพราะโลกหมุนช้าลง
ปี 2558 จะยาวขึ้น 1 วินาที เพราะโลกหมุนช้าลง

เปิดอ่าน 12,390 ครั้ง
"ข้าวหลามดง" ไม่ใช่อาหาร แต่มันคืออะไร?
"ข้าวหลามดง" ไม่ใช่อาหาร แต่มันคืออะไร?

เปิดอ่าน 24,788 ครั้ง
เกษียณ65ปีทางแก้ประชากรสูงอายุ มีเงินเก็บ"4แสน"ก็อยู่ลำบาก
เกษียณ65ปีทางแก้ประชากรสูงอายุ มีเงินเก็บ"4แสน"ก็อยู่ลำบาก

เปิดอ่าน 18,404 ครั้ง
"ไผ่ร้อยกอ" เป็นไผ่แบบไหน มีลักษณะอย่างไร
"ไผ่ร้อยกอ" เป็นไผ่แบบไหน มีลักษณะอย่างไร

เปิดอ่าน 269,118 ครั้ง
Adverbs การทำให้เป็นคำกริยาวิเศษณ์ (Formation )
Adverbs การทำให้เป็นคำกริยาวิเศษณ์ (Formation )

เปิดอ่าน 30,055 ครั้ง
ใส่หลอดในขวดซอสมะเขือเทศจะทำให้เทออกง่าย
ใส่หลอดในขวดซอสมะเขือเทศจะทำให้เทออกง่าย

เปิดอ่าน 20,136 ครั้ง
การเรียนรู้โดยใช้แป้นพิมพ์แทนการเขียน ดีหรือไม่?
การเรียนรู้โดยใช้แป้นพิมพ์แทนการเขียน ดีหรือไม่?

เปิดอ่าน 22,802 ครั้ง
ขนบธรรมเนียม ประเพณีของชาวสยาม
ขนบธรรมเนียม ประเพณีของชาวสยาม

เปิดอ่าน 18,358 ครั้ง
การทำงานของรถจักรไอน้ำ
การทำงานของรถจักรไอน้ำ
เปิดอ่าน 40,415 ครั้ง
เทควันโด : ประโยชน์ของการเล่นกีฬาเทควันโด
เทควันโด : ประโยชน์ของการเล่นกีฬาเทควันโด
เปิดอ่าน 32,129 ครั้ง
ลายมือผู้มีบารมี
ลายมือผู้มีบารมี
เปิดอ่าน 11,363 ครั้ง
"หมอช้าง" แนะวิธีไหว้เจ้าให้เฮงๆ พร้อมข้อห้ามในวันตรุษจีน
"หมอช้าง" แนะวิธีไหว้เจ้าให้เฮงๆ พร้อมข้อห้ามในวันตรุษจีน
เปิดอ่าน 12,658 ครั้ง
8 วิธีปราบสภาวะกินอาหารตามอารมณ์ให้อยู่หมัด
8 วิธีปราบสภาวะกินอาหารตามอารมณ์ให้อยู่หมัด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ