ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงเหตุผล ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมายของการวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงตุผลของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เชิงเหตุผลของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 4) ประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/3 โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก จำนวน 35 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 รูปแบบการวิจัย เป็นแบบ One-Group Pretest-Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์ รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M แบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบ แบบทดสอบทักษะการคิดเชิงเหตุผล และแบบประเมินความพึงพอใจ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการวิเคราะห์เอกสาร การสัมภาษณ์ครูปฐมวัย ผู้เชี่ยวชาญประเมินความเหมาะสมของรูปแบบ ทดสอบทักษะการคิดเชิงเหตุผลและสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาทฤษฎีและแนวคิดพื้นฐานที่เกี่ยวกับพัฒนาการทางสติปัญญาด้านการคิดเชิงเหตุผล ที่นำมาใช้ในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ จะมีหลักการเรียนรู้ที่ให้เด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ มีการค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยมีการคอยช่วยเหลือจากครูในด้านการจัดสภาพแวดล้อม การจัดหาสื่ออุปกรณ์การเรียนรู้ให้เหมาะสมกับพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย

2. ผลการสร้างรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M ได้มาจากอักษรภาษาอังกฤษตัวแรกขององค์ประกอบหลัก 4 ประการคือ การกระตุ้นความสนใจ (Motivation: M1) การลงมือทำด้วยตนเอง (Manipulation: M2) การขยายผลกิจกรรมการเรียนรู้ (Multiplication of learning activities: M3) และการใช้สื่อประสม (Multimedia: M4) โดยมีขั้นตอนการเรียนรู้ 3 ขั้นตอน คือ ขั้นเริ่มต้นเรียนรู้ ขั้นปฏิบัติการ ขั้นนำเสนอผลงาน และผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด

3. ผลทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 พบว่า คะแนนหลังทดลองใช้รูปแบบสูงกว่า ก่อนทดลองใช้รูปแบบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05

4. ผลประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 นักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย ดวงจันทร์ ยอดสะอึ : [28 ส.ค. 2561 เวลา 13:19 น.]
อ่าน [4283] ไอพี : 180.183.67.243
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 8,133 ครั้ง
เล่นหมากล้อม สามารถพัฒนาผลการเรียนคณิตศาสตร์ได้!
เล่นหมากล้อม สามารถพัฒนาผลการเรียนคณิตศาสตร์ได้!

เปิดอ่าน 19,273 ครั้ง
วิธีกินอย่างฉลาด
วิธีกินอย่างฉลาด

เปิดอ่าน 8,638 ครั้ง
ผู้นำซูเปอร์บอร์ดการศึกษา?
ผู้นำซูเปอร์บอร์ดการศึกษา?

เปิดอ่าน 15,056 ครั้ง
อบเชย
อบเชย

เปิดอ่าน 207,594 ครั้ง
10 อาชีพในอนาคต ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จอย่างสูงในไทย
10 อาชีพในอนาคต ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จอย่างสูงในไทย

เปิดอ่าน 11,558 ครั้ง
"ราชบัณฑิตยสภา"
"ราชบัณฑิตยสภา"

เปิดอ่าน 68,081 ครั้ง
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560

เปิดอ่าน 10,961 ครั้ง
"พอล"หมึกยักษ์..นักทำนาย ต้นตระกูลกำเนิดยุคแคมเบรียน
"พอล"หมึกยักษ์..นักทำนาย ต้นตระกูลกำเนิดยุคแคมเบรียน

เปิดอ่าน 19,306 ครั้ง
ยูทูป ห้องเรียนใหม่ พลังการเรียนรู้ ที่ไม่รู้จบ
ยูทูป ห้องเรียนใหม่ พลังการเรียนรู้ ที่ไม่รู้จบ

เปิดอ่าน 6,966 ครั้ง
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก

เปิดอ่าน 12,235 ครั้ง
ครีมหอยทาก คืออะไร ทำไมสาว ๆ ฮิตกันจัง
ครีมหอยทาก คืออะไร ทำไมสาว ๆ ฮิตกันจัง

เปิดอ่าน 20,607 ครั้ง
จุดที่เย็นที่สุดในโลก
จุดที่เย็นที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 13,854 ครั้ง
ความเป็นมา  "วันสงกรานต์"
ความเป็นมา "วันสงกรานต์"

เปิดอ่าน 31,266 ครั้ง
iPhone 6 เปิดตัวแล้ว ไอโฟน6 มีอะไรใหม่บ้าง มาดูกัน
iPhone 6 เปิดตัวแล้ว ไอโฟน6 มีอะไรใหม่บ้าง มาดูกัน

เปิดอ่าน 11,832 ครั้ง
ปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค วันที่ 10 - 16 ตุลาคม 2551
ปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค วันที่ 10 - 16 ตุลาคม 2551

เปิดอ่าน 8,534 ครั้ง
ความคิดสร้างสรรค์ (1)
ความคิดสร้างสรรค์ (1)
เปิดอ่าน 129,677 ครั้ง
การจัดตั้งโรงเรียนเอกชนประเภทกวดวิชา
การจัดตั้งโรงเรียนเอกชนประเภทกวดวิชา
เปิดอ่าน 16,452 ครั้ง
พระประวัติ  สมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
พระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
เปิดอ่าน 94,464 ครั้ง
รถเกียร์ออโต้จะเข้าเกียร์ N หรือ ค้างที่ D เวลาติดไฟแดงดีนะ?
รถเกียร์ออโต้จะเข้าเกียร์ N หรือ ค้างที่ D เวลาติดไฟแดงดีนะ?
เปิดอ่าน 24,003 ครั้ง
ความลี้ลับของ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
ความลี้ลับของ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ