ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนากิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนบ้านป่าเป้า
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ขอนแก่น เขต 3
ผู้วิจัย นายนิมิตร อินทร์นอก
ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน วิทยฐานะผู้อำนวยการชำนาญการ
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านป่าเป้า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ขอนแก่น เขต 3
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการพัฒนากิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนบ้านป่าเป้า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ขอนแก่น เขต 3 2) เพื่อศึกษาแนวทางการแก้ปัญหากิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนบ้านป่าเป้า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ขอนแก่น เขต 3
3) เพื่อพัฒนากิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนบ้านป่าเป้า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ขอนแก่น เขต 3 และ 4) เพื่อประเมินการพัฒนาการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนบ้านป่าเป้า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ขอนแก่น เขต 3 โดยใช้การวิจัยและพัฒนา (Research and Development) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสัมภาษณ์ แบบประเมิน แผนดำเนินงานกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน แบบรายงานกิจกรรม/โครงการ แบบสอบถามและแบบบันทึกการนิเทศ กลุ่มเป้าหมายในการพัฒนาคือ นักเรียน จำนวน 21 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญคือ คือ จำนวน 2 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน 7 คน และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 21 คน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้วิธีพรรณนาวิเคราะห์ (Descriptive Analysis) การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพการดำเนินงานกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียน พบว่า มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านได้แก่ กิจกรรมบันทึกการอ่าน กิจกรรมบันทึกการสืบค้น เป็นต้น โรงเรียนมีห้องสมุดเอกเทศจำนวน 1 ห้อง ขนาด 54 ตารางเมตร มีหนังสือจำนวน 200 เล่ม ข้อมูลผู้ใช้บริการคิดเป็น ร้อยละ 68.18 ข้อมูลผู้ใช้บริการสืบค้นคิดเป็นร้อยละ 36.36 แหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน ได้แก่ ห้องสมุด บ่อปลา เป็นต้น แหล่งเรียนรู้ภายนอกได้แก่ วัด กลุ่มหัตกรรมสานก่องข้าว ปราชญ์ชาวบ้าน เป็นต้น นักเรียนมีผลการประเมินนิสัยนักการอ่านก่อนดำเนินงานพัฒนาโดยรวมอยู่ในระดับน้อย ปัญหาการดำเนินงานจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน ที่สำคัญได้แก่ นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านอยู่ในระดับน้อย เป็นต้น ส่วน ความต้องการพัฒนาการดำเนินงานกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านที่สำคัญได้แก่ แก้ปัญหานักเรียนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ส่งเสริมให้นักเรียนรักการอ่าน อ่านคล่อง เขียนคล่อง และใช้การอ่านเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ เป็นต้น
2. แนวการดำเนินงานกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน มีกิจกรรมสำคัญจำนวน 8 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมปรับปรุงห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้ กิจกรรมภาษาไทยวันละคำ กิจกรรมนักข่าวรุ่นเยาว์ กิจกรรมนักอ่านแฟนพันธุ์แท้ กิจกรรมนิทานเที่ยงวันสร้างสรรค์สังคม กิจกรรมคลินิกรักภาษาไทย กิจกรรมพี่น้องรักอ่าน และ กิจกรรมครอบครัวรักการอ่าน และพบว่าทางการดำเนินงานกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนมีความเหมาะสม ความเป็นไปได้โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการทดลองใช้แนวทางการดำเนินงานกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนบ้านป่าเป้า พบว่า 1) กิจกรรมปรับปรุงห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้ โรงเรียนได้ปรับปรุงห้องสมุด จัดหาหนังสือ จำนวน180 เล่ม ให้นักเรียนเป็นผู้ช่วยบรรณารักษ์ ปรับปรุงแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียนได้แก่ ห้องปฏิบัติการภาษาไทย ห้องปฏิบัติการภาษาอังกฤษและภาษาอาเซียน เป็นต้น และมีผลการดำเนินงานกิจกรรมโดยรวมอยู่ในระดับมาก 2) กิจกรรมภาษาไทยวันละคำ ทำให้นักเรียนรู้คำใหม่เพิ่มขึ้น 30 คำ 30 ประโยค สำนวน สุภาษิต คำพังเพยประเภทละ 15 คำ และมีผลการดำเนินงานโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 3) กิจกรรมนักข่าวรุ่นเยาว์ ทำให้นักเรียนนำเสนอข่าวจำนวน 80 เรื่อง สาระน่ารู้จำนวน 30 เรื่อง ข่าวในท้องถิ่นจำนวน 30 เรื่อง สุภาษิตอีสานจำนวน 30 เรื่อง และมีผลการดำเนินงานโดยรวมอยู่ในระดับมาก 4) กิจกรรมนักอ่านแฟนพันธุ์แท้ วงรอบที่1 นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมเฉลี่ยสัปดาห์ละ16 คน คิดเป็นร้อยละ 80 และวงรอบที่ 2 เฉลี่ยสัปดาห์ละ 18 คน คิดเป็นร้อยละ 90 และมีผลการดำเนินงานโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 5) กิจกรรมนิทานเที่ยงวันสร้างสรรค์สังคม ดำเนินการจำนวน 16 สัปดาห์ มีนักเรียนเข้าร่วมคิดเป็น ร้อยละ 100 และมีผลการดำเนินงานโดยรวมอยู่ในระดับมาก 6) กิจกรรมคลินิกรักษาไทย ได้จัดทำห้องปฏิบัติการภาษาไทย จุดมุมฐานต่างๆ ทำให้นักเรียนมีพัฒนาการด้านการอ่านออกเสียงดีขึ้นและมีผลการดำเนินงานโดยรวมอยู่ในระดับมาก 7) กิจกรรมพี่น้องรักอ่าน ได้แบ่งนักเรียนออกเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละ 1-2 ทำให้นักเรียนทำการบ้านส่งครูทันกำหนด มีพัฒนาการอ่านเพิ่มขึ้นและมีผลการดำเนินงานโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 8) กิจกรรมครอบครัวรักอ่าน ผู้ปกครองให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นักเรียนนำบันทึกการทำกิจกรรมส่งครูประจำชั้นทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 และมีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับมาก
4. ผลการประเมินและปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน พบว่า 1) ผลการประเมินโครงการ/กิจกรรมการดำเนินงานกิจกรรมการดำเนินงานกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนบ้านป่าเป้า อยู่ในระดับมาก 2) ผลการประเมินนิสัยรักการอ่านของนักเรียนหลังดำเนินการพัฒนาโดยรวมอยู่ในระดับมาก 3) ครูและนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการดำเนินงานกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนโรงเรียนบ้านป่าเป้า โดยรวมอยู่ในระดับมาก 4) ครูและผู้ปกครองมีความพึงพอใจต่อนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนบ้านป่าเป้า โดยรวมอยู่ในระดับมาก
5. โรงเรียนได้รายงานผลการดำเนินงานกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนบ้านป่าเป้า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 ได้แก่ เผยแพร่ไปยังโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 จำนวน 10 แห่งและ เผยแพร่ผลงานทางวิชาการผ่านทางเว็บไซต์ จำนวน 1 แห่ง
สรุปได้ว่า ผลลัพธ์ที่ได้จากการวิจัยและพัฒนาการดำเนินงานกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนบ้านป่าเป้า ส่งผลให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านเพิ่มขึ้นมีผลการประเมินด้านการอ่านดีขึ้น บรรลุเป้าหมายมาตรฐานการศึกษาที่ตั้งไว้