ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) ประกอบแบบฝึกปฏิบัติ (Drill and Practice) เรื่องการใช้โปรแกรม Ms Paint

การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมาย (1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ เรื่องการใช้โปรแกรม MS Paint ก่อนเรียน ระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง (2) เพื่อศึกษาหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนประกอบแบบฝึกปฏิบัติ (Drill and Practice) ตามเกณฑ์ 80/80 ) (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้หลังเรียน เรื่องการใช้โปรแกรม MS Paint ระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง (4) เพื่อเปรียบเทียบผลการฝึกปฏิบัติด้านการใช้โปรแกรม MS Paint หลังเรียนระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง (5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนประกอบแบบฝึกปฏิบัติ (Drill and Practice) ที่ส่งเสริมต่อการรู้แบบร่วมมือและการทำงานร่วมกันเป็นทีม

ประชากร เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 5 ห้องเรียน มีนักเรียนทั้งสิ้น 158 คน ประจำภาคเรียนที่ 1/2560 ของโรงเรียนเมืองสมุทรสงคราม กลุ่มตัวอย่าง ได้จากการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (cluster sampling) คือขั้นที่ 1 สุ่มโดยวิธีการจับสลากแบ่งห้องเรียน 5 ห้อง ออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มควบคุมมี 2 ห้องเรียน คือห้อง 2/1, 2/3 , และกลุ่มทดลอง มีจำนวน 3 ห้องเรียน คือห้อง 2/2, 2/4, 2/5 และขั้นที่ 2 เมื่อทำการทดลองเสร็จสิ้นแล้วจะสุ่มอย่างง่ายโดยวิธีการจับสลากเพื่อเลือกนักเรียนทั้ง 2 กลุ่ม ในทุกๆ ห้องเรียนๆ ละ 15 คนมาทำการวิเคราะห์ข้อมูล จะได้กลุ่มควบคุม จำนวน 30 คน และกลุ่มทดลองจำนวน 45 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล คือ แบบทดสอบ แบบวัดทักษะการปฏิบัติ และแบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t-test

สรุปผลการศึกษา พบว่า (1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ก่อนเรียนของนักเรียนกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม มีคะแนนเฉลี่ยไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 (t=2.711. ,df=59)

(2) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนประกอบแบบฝึกปฏิบัติ (Drill and Practice) ทุกหน่วยย่อยการเรียนรู้ มีคะแนนประสิทธิภาพมีสูงกว่าเกณฑ์ โดยเฉลี่ย 82.64 /82.66 (3) คะแนนเฉลี่ยของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้หลังเรียนของกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (t=15.719, df= 32.506) (4) ทักษะการใช้โปรแกรม MS Paint หลังการเรียนของกลุ่มทดลอง สูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (t=5.348,df= 46.956 และ (5) นักเรียนกลุ่มทดลอง โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 80 มีความพึงพอใจต่อการสอนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนประกอบชุดฝึกปฏิบัติ (Drill and practice) อยู่ในระดับดี ถึง ดีมาก และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้แบบการฝึกปฏิบัติและการร่วมมือกันเป็นกลุ่มและการทำงานเป็นทีม สามารถทำให้นักเรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผลในทางบวกทุกด้าน

คำสำคัญ : บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน , แบบฝึกปฏิบัติ, การเรียนรู้แบบร่วมมือ, ความพึงพอใจ

โพสต์โดย kan : [24 ส.ค. 2561 เวลา 09:09 น.]
อ่าน [66537] ไอพี : 223.24.157.117
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 2,773 ครั้ง
กรมอนามัย เผยวัยทำงานสุขภาพแย่ แนะกินถูกหลัก ออกกำลังกาย ลดเครียด
กรมอนามัย เผยวัยทำงานสุขภาพแย่ แนะกินถูกหลัก ออกกำลังกาย ลดเครียด

เปิดอ่าน 13,279 ครั้ง
ภัยเงียบของเด็กไทย
ภัยเงียบของเด็กไทย

เปิดอ่าน 19,601 ครั้ง
5 กิจวัตรที่คนประสบความสำเร็จมักทำก่อน 8 โมงเช้า
5 กิจวัตรที่คนประสบความสำเร็จมักทำก่อน 8 โมงเช้า

เปิดอ่าน 18,397 ครั้ง
แต่งบ้านเรียกทรัพย์
แต่งบ้านเรียกทรัพย์

เปิดอ่าน 9,269 ครั้ง
"Alprazolam" ไม่ใช่ "ยาเสียสาว" เป็นยานอนหลับ แก้อาการกังวล ง่วงซึม แต่ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด
"Alprazolam" ไม่ใช่ "ยาเสียสาว" เป็นยานอนหลับ แก้อาการกังวล ง่วงซึม แต่ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด

เปิดอ่าน 17,449 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย เป็นเรื่องที่เหลวไหลและเลื่อนลอย
ปฏิรูปการศึกษาไทย เป็นเรื่องที่เหลวไหลและเลื่อนลอย

เปิดอ่าน 17,147 ครั้ง
5 ตุ๊กตาสุดฮิตของโลก
5 ตุ๊กตาสุดฮิตของโลก

เปิดอ่าน 12,542 ครั้ง
ฟังหรือยัง เพลง "จากนี้ไปจนนิพพาน"
ฟังหรือยัง เพลง "จากนี้ไปจนนิพพาน"

เปิดอ่าน 17,137 ครั้ง
ตามไปดูต้นแบบความสำเร็จ การปฏิรูปการศึกษา 5 ประเทศ
ตามไปดูต้นแบบความสำเร็จ การปฏิรูปการศึกษา 5 ประเทศ

เปิดอ่าน 13,876 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล

เปิดอ่าน 10,502 ครั้ง
ทำอย่างไรการเรียนรู้จึงเกิดขึ้นกับคนทั้งประเทศ โดย นพ.ประเวศ วะสี
ทำอย่างไรการเรียนรู้จึงเกิดขึ้นกับคนทั้งประเทศ โดย นพ.ประเวศ วะสี

เปิดอ่าน 23,512 ครั้ง
ทั่วโลกยอมรับ นร.เก่งได้เพราะครูเก่ง
ทั่วโลกยอมรับ นร.เก่งได้เพราะครูเก่ง

เปิดอ่าน 65,585 ครั้ง
"นายกรัฐมนตรี" อธิบาย "ไทยแลนด์ 4.0" และ "คนไทย 4.0" ให้เข้าใจง่าย
"นายกรัฐมนตรี" อธิบาย "ไทยแลนด์ 4.0" และ "คนไทย 4.0" ให้เข้าใจง่าย

เปิดอ่าน 12,927 ครั้ง
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (1)
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (1)

เปิดอ่าน 12,269 ครั้ง
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ คำตอบสุดท้ายจะออกมาอย่างไร
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ คำตอบสุดท้ายจะออกมาอย่างไร

เปิดอ่าน 16,853 ครั้ง
สะกดชื่อเป็นภาษาอังกฤษผ่านทางโทรศัพท์แล้วฟังกันไม่รู้เรื่องใช่มั๊ย เรามีทางช่วย
สะกดชื่อเป็นภาษาอังกฤษผ่านทางโทรศัพท์แล้วฟังกันไม่รู้เรื่องใช่มั๊ย เรามีทางช่วย
เปิดอ่าน 50,048 ครั้ง
กรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม
กรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม
เปิดอ่าน 37,246 ครั้ง
การทักทาย วิธีเรียงประโยค(ภาษาจีน)
การทักทาย วิธีเรียงประโยค(ภาษาจีน)
เปิดอ่าน 711 ครั้ง
เก้าอี้แบบไหนเหมาะกับการใช้งานของคุณ?
เก้าอี้แบบไหนเหมาะกับการใช้งานของคุณ?
เปิดอ่าน 11,676 ครั้ง
สัตว์ชนิดเดียวที่รู้จัก หาวตามคน
สัตว์ชนิดเดียวที่รู้จัก หาวตามคน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ