พรรณนภา หาญบาราช. (2560). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 2) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยมีวิธีดาเนินการ 2 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหา โดยการใช้วิจัยเชิงคุณภาพ อาศัยข้อมูลพื้นฐานจากแหล่งเรียนรู้ โดยการสังเกต สัมภาษณ์ สนทนากลุ่มร่วมกับครูและนักเรียนที่มีการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) นาข้อมูลมากาหนดโครงสร้าง องค์ประกอบรูปแบบการจัดการเรียนรู้ และสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 2 ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยการนารูปแบบ การจัดการเรียนรู้มาทดลองใช้จริงกับกลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลบ้านหนองตาโผ่นมิตรภาพที่ 5 จานวน 30 คน ที่ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน 2) แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ 3 ) แบบประเมินพฤติกรรมทาง การเรียนรู้ และ 4) แบบวัดจิตวิทยาศาสตร์ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ และส่วนที่ 2 วิเคราะห์ข้อมูลจากการนารูปแบบ การจัดการเรียนรู้ไปทดลอง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ การทดสอบแบบกลุ่มตัวอย่างที่ไม่เป็นอิสระต่อกัน
ผลการศึกษาพบว่า
1.การศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์วิทยาศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหาที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย หลักการ จุดมุ่งหมาย เนื้อหา สาระกระบวนการจัดการเรียนรู้และการวัดและประเมินผล เป็นรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามกรอบแนวคิดของ Joyce และWeil ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ1) ลาดับขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ (Syntax) ซึ่งประกอบไปด้วยขั้นนาเข้าสู่บทเรียน เป็นขั้นตอนนาเข้าสู่บทเรียนเป็นขั้นกระตุ้นให้นักเรียนเชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ เพื่อให้นักเรียนมีความพร้อมต่อการดาเนินกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหา ประกอบด้วย 6 ขั้นตอนคือ ขั้นกาหนดปัญหา ขั้นทาความเข้าใจกับปัญหา/ตั้งสมมติฐาน ขั้นดาเนินการค้นคว้า ขั้นสังเคราะห์ความรู้ ขั้นสรุปและประเมินหาคาตอบ และขั้นนาเสนอและประเมินผลงาน 2) หลักการของปฏิสัมพันธ์ (Social System) ครูผู้สอนจะทาหน้าที่เป็นผู้ชี้แนะ แนะนา กระตุ้นให้นักเรียนเกิดความอยากรู้อยากเห็นเกิดกระบวนการคิดหาคาตอบ นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วม เพื่อเป็นการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง 3) หลักการของการตอบสนอง ( Principles of Reaction) ครูจัดกิจกรรมที่หลากหลายให้ท้าทาย มีสื่อประกอบที่เร้าใจกระตุ้นให้นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันภายในกลุ่ม เพื่อการค้นหาคาตอบ 4) ระบบสนับสนุนการเรียนรู้
(Support System) ครูจัดบรรยากาศของการเรียนรู้รอบๆตัวนักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีความรู้สึก อยากเรียนรู้หาคาตอบ
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน และแผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ที่พัฒนาตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
3. นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน มีคะแนนเฉลี่ยทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสาคัญที่ระดับ .05
4. นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน มีระดับความคิดเห็นต่อพฤติกรรมทางการเรียนทั้ง 3 ด้านของตนเองหลังเรียนเป็นพฤติกรรมที่ปฏิบัติบ่อยขึ้น ซึ่งก่อนเรียนเป็นพฤติกรรมที่ปฏิบัติน้อย
5. นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน มีพฤติกรรมทางการเรียน ในระหว่างเรียนดีขึ้น สังเกตจากความสนใจ ความกระตือรือร้นในการเรียน นักเรียนได้ใช้ความสามารถของตนเองอย่างเต็มศักยภาพ มีโอกาสแสดงความคิดเห็น มีอิสระในการตัดสินใจ ในการตอบคาถามและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง จากการจดบันทึกสภาพการจัดการเรียนรู้ของครู พบว่า นักเรียนสามารถค้นคว้าหาคาตอบตามกระบวนการจัดการเรียนรู้ และสร้างองค์ความรู้ต่างๆได้ด้วยตนเอง โดยครูมีหน้าที่กระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนให้เกิดการเรียนรู้ตามศักยภาพ สามารถวัดและประเมินผลนักเรียนตามสภาพจริง
6. นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน มีระดับความคิดเห็นของจิตวิทยาศาสตร์ต่อการเรียนวิทยาศาสตร์อยู่ในระดับเห็นด้วย