ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม โดยบูรณาการกิจกรรม ส่งเสริมคุณธรรม เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีและมีคุณธรรมประจำใจ ของนักเรียนโรงเรียนนานาชา

ชื่อผลงานวิชาการ รายงานการประเมินโครงการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม โดยบูรณาการกิจกรรม ส่งเสริมคุณธรรม เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีและมีคุณธรรมประจำใจ ของนักเรียนโรงเรียนนานาชาติเทศบาลนครนครศรีธรรมราช

ผู้รายงาน นายเกรียงไกร วุฒิมานพ

หน่วยงาน โรงเรียนนานาชาติเทศบาลนครนครศรีธรรมราช

ปี พ.ศ. 2558

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม โดยบูรณาการกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีและมีคุณธรรมประจำใจ ของนักเรียนโรงเรียนนานาชาติเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยมีวัตถุประสงค์ของการประเมินโครงการ 1.)เพื่อประเมินความเหมาะสมของบริบทที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการ 2. ) เพื่อประเมินความเหมาะสมของปัจจัยนำเข้าที่ใช้ในการดำเนินงานตามโครงการ 3.) เพื่อประเมินความเหมาะสมของกระบวนการดำเนินงานตามโครงการ 4. ) เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการในเรื่องต่อไปนี้ 4.1 คุณธรรมจริยธรรมนักเรียน จำนวน 10 ด้าน ได้แก่ ความมีวินัย ความรับผิดชอบ ความขยัน ความซื่อสัตย์ ความมีสติและละเอียดรอบคอบ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละ ความสุภาพ ความยุติธรรม ความมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม และความสามัคคี 4.2 ความรู้หรือประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการโดยมีประชากรกลุ่มตัวอย่างคือ 1.) ครู จำนวน 12 คน โดยใช้วิธีโดยใช้วิธีสุ่มอย่างง่าย(Simple Random Sampling) ด้วยวิธีการจับฉลาก 2.) นักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 50 คน โดยใช้วิธีโดยใช้วิธีสุ่มอย่างง่าย(Simple Random Sampling) ด้วยวิธีการจับฉลาก 3.) ผู้ปกครองนักเรียนซึ่งเป็นผู้ปกครองของนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 50 คน โดยใช้วิธีสุ่มอย่างง่าย(Simple Random Sampling) ด้วยวิธีการจับฉลาก จากผู้ปกครองของนักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง รวมกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 112 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการพัฒนาคุณธรรมประจำใจประจำใจ ของนักเรียนโรงเรียนนานาชาติเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เป็นแบบสอบถามที่ผู้รายงานได้สร้างขึ้น แบ่งออกเป็น 4 ชุด ดังนี้ ชุดที่ 1 ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต่อบริบทของโครงการ ข้อคำถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 12 ข้อ ชุดที่ 2 ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต่อปัจจัยนำเข้าของโครงการ ข้อคำถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับจำนวน 12 ข้อ ชุดที่ 3 ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต่อกระบวนการดำเนินงานตามโครงการข้อคำถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 12 ข้อ ชุดที่ 4 ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต่อผลผลิตของโครงการ ข้อคำถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 แบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน จำนวน 20 ข้อ ตอนที่ 2 แบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อคุณค่าหรือประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการ จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐานคือค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่ผู้รายงานได้สร้างขึ้น แบ่งเป็น 4 ชุด ข้อคำถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการประเมินสรุปได้ดังนี้

ผลการประเมิน

1. บริบทของโครงการมีความเหมาะสม ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.63, = 0.48 ) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 10 ข้อ และระดับมาก 2 ข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ โครงการมีความเหมาะสมและมีความจำเป็นในการแก้ปัญหา ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ หลักการและเหตุผลของโครงการมีความสอดคล้องกับนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกรายการ

2. ปัจจัยนำเข้าของโครงการมีความเหมาะสม ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.58, = 0.50 ) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 7 ข้อ และระดับมาก 5 ข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ มีแผนการดำเนินงานตามโครงการอย่างชัดเจน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ งบประมาณในการดำเนินโครงการมีเพียงพอ ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกรายการ

3. กระบวนการดำเนินงานตามโครงการมีความเหมาะสมในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.55 , = 0.49 ) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 7 ข้อ และระดับมาก 6 ข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ มีการกำหนดขั้นตอน รายละเอียดและวิธีดำเนินโครงการ อย่างชัดเจนและเหมาะสม ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ มีการให้ความรู้ ประชุมชี้แจง สื่อสารประชาสัมพันธ์ ผู้รับผิดชอบ และผู้เกี่ยวข้องเข้าใจขั้นตอนและวิธีดำเนินการ ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกรายการ

4. ผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมนักเรียน ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.63 , = 0.47 ) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน และด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ความรับผิดชอบ ความมีสติและละเอียดรอบคอบ และความสามัคคี มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ความสุภาพ ส่วนคุณค่าและประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.57 , = 0.49 ) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 8 ข้อ และระดับมาก 2 ข้อ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการเวลา มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติตนให้มีความรับผิดชอบในการปฏิบัติงาน เมื่อเรียงลำดับคุณธรรมจริยธรรมด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย สามารถเรียงลำดับได้ดังนี้คือ ด้านความรับผิดชอบ ด้านความมีสติและละเอียดรอบคอบ ด้านความสามัคคี ด้านความมีวินัย ด้านความยุติธรรม ด้านความขยัน ด้านความมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละ ด้านความซื่อสัตย์ และความสุภาพ ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกรายการ

โพสต์โดย khunphai : [22 ส.ค. 2561 เวลา 11:51 น.]
อ่าน [3590] ไอพี : 61.7.240.66
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 201,228 ครั้ง
ระบบย่อยอาหาร
ระบบย่อยอาหาร

เปิดอ่าน 18,448 ครั้ง
ดูให้รู้ : อนุบาลอัจฉริยะ
ดูให้รู้ : อนุบาลอัจฉริยะ

เปิดอ่าน 15,696 ครั้ง
คลิปแนะนำวิธีระบายความร้อนรถตากแดดแบบเร่งด่วน แบบนี้ต้องลอง
คลิปแนะนำวิธีระบายความร้อนรถตากแดดแบบเร่งด่วน แบบนี้ต้องลอง

เปิดอ่าน 10,127 ครั้ง
กระเป๋านักเรียนหนักเสี่ยง! หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
กระเป๋านักเรียนหนักเสี่ยง! หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

เปิดอ่าน 9,676 ครั้ง
เด็กนั่งกลางที่เบาะหลังรถ มีแนวโน้มเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ
เด็กนั่งกลางที่เบาะหลังรถ มีแนวโน้มเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ

เปิดอ่าน 11,489 ครั้ง
คลิปฮ็อต "พลเมืองดี" รุมล็อกตัวหนุ่มเขมรวิ่งราวมือถือสาวเกาหลี-ตบสั่งสอนกลางอนุสาวรีย์ชัยฯ
คลิปฮ็อต "พลเมืองดี" รุมล็อกตัวหนุ่มเขมรวิ่งราวมือถือสาวเกาหลี-ตบสั่งสอนกลางอนุสาวรีย์ชัยฯ

เปิดอ่าน 10,974 ครั้ง
ตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจคิดใหม่ทำใหม่เพื่อหัวใจของคุณ
ตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจคิดใหม่ทำใหม่เพื่อหัวใจของคุณ

เปิดอ่าน 31,163 ครั้ง
สพฐ.เผยแพร่หน่วยการเรียนรู้ Active Learning ที่ได้รับรางวัลเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับครูในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้
สพฐ.เผยแพร่หน่วยการเรียนรู้ Active Learning ที่ได้รับรางวัลเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับครูในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้

เปิดอ่าน 14,815 ครั้ง
ความรู้เรื่องวัฒนธรรม
ความรู้เรื่องวัฒนธรรม

เปิดอ่าน 9,430 ครั้ง
เผย"แรม"รุ่นใหม่-มาตรฐานใหม่ต้องเก็บความจำไว้ได้แม้ไม่มีไฟฟ้า
เผย"แรม"รุ่นใหม่-มาตรฐานใหม่ต้องเก็บความจำไว้ได้แม้ไม่มีไฟฟ้า

เปิดอ่าน 34,033 ครั้ง
7 วิชาชีพที่สามารถย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรีในประชาคมอาเซียน
7 วิชาชีพที่สามารถย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรีในประชาคมอาเซียน

เปิดอ่าน 13,130 ครั้ง
"ถั่ว" ยาต้านมะเร็งตับอ่อน
"ถั่ว" ยาต้านมะเร็งตับอ่อน

เปิดอ่าน 16,816 ครั้ง
ยาปฏิชีวนะ
ยาปฏิชีวนะ

เปิดอ่าน 10,801 ครั้ง
ปวดตึงที่คอและไหล่ อย่าคิดว่ามันเรื่องเล็ก
ปวดตึงที่คอและไหล่ อย่าคิดว่ามันเรื่องเล็ก

เปิดอ่าน 9,985 ครั้ง
สร้างนวัตกรรมเพื่อคนไทย ใช้ "ปัญญา" แก้ "ปัญหา"
สร้างนวัตกรรมเพื่อคนไทย ใช้ "ปัญญา" แก้ "ปัญหา"

เปิดอ่าน 12,563 ครั้ง
เดินหน้าปฏิรูป โครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ 59 โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เดินหน้าปฏิรูป โครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ 59 โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เปิดอ่าน 4,194 ครั้ง
ประวัติ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ประวัติ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
เปิดอ่าน 45,908 ครั้ง
ประโยชน์จาก "ส้มตำ"
ประโยชน์จาก "ส้มตำ"
เปิดอ่าน 3,206 ครั้ง
3 อันดับทุเรียนเปลี่ยนรูปให้พลังงานสูง แนะทานให้เหมาะสมต่อร่างกาย
3 อันดับทุเรียนเปลี่ยนรูปให้พลังงานสูง แนะทานให้เหมาะสมต่อร่างกาย
เปิดอ่าน 11,861 ครั้ง
ระวัง! หยุดหายใจขณะหลับ
ระวัง! หยุดหายใจขณะหลับ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ