ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด พหุสัมผัสและเทคนิคผังความคิดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๓ (บ้านคลองหา - นาเตรียะ)
ชื่อผู้วิจัย สุนิตา จุลวิชิต
ปีที่ศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยการพัฒนารูปแบบการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้ตาม
แนวคิดพหุสัมผัสและเทคนิคผังความคิด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๓ (บ้านคลองหา - นาเตรียะ) มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบ การสอนเขียนเชิงโดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดพหุสัมผัสและเทคนิคผังความคิด ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดพหุสัมผัส และเทคนิคผังความคิด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อทดลอง ใช้รูปแบบการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดพหุสัมผัส และเทคนิค ผังความคิด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการสอนเขียน เชิงสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดพหุสัมผัส และเทคนิคผังความคิด ดังนี้ 4.1 หาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการสอนเขียนโดยใช้แนวคิดพหุสัมผัสและเทคนิคผังความคิด 4.2 เปรียบเทียบทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการสอนเขียนโดยใช้แนวคิดพหุสัมผัสและเทคนิคผังความคิด 4.3 ศึกษาพฤติกรรมการกล้าแสดงออกทางความคิดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนเขียนโดยใช้แนวคิด พหุสัมผัสและเทคนิคผังความคิด 4.4 เปรียบเทียบเจตคติต่อวิชาภาษาไทยการเขียนสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แนวคิดพหุสัมผัสและเทคนิคผังความคิด
ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้
1. ผลจากการสำรวจข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์โดย ใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดพหุสัมผัสและเทคนิคผังความคิด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากการประเมินทดสอบความสามารถพื้นฐานผู้เรียนระดับชาติ (National Test NT) รวมทั้ง 3 ด้าน มีค่าเฉลี่ยลดลง -1.74 เกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับน้อยที่สุด ในการสำรวจความคิดเห็นข้อมูลพื้นฐานการพัฒนารูปแบบการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 อยู่ในระดับมาก และผลจากวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ และระดับความคิดเห็นข้อมูลพื้นฐานการพัฒนารูปแบบการสอน พบว่า ปัญหาของนักเรียนในการเขียนเชิงสร้างสรรค์ คือนักเรียนอ่านไม่คล่อง ครูขาดกลวิธีในการสอน เขียนสะกดคำผิด ลำดับคำและข้อความในประโยคไม่ได้
2. ผลจากพัฒนารูปแบบการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ได้กำหนดเนื้อหาสาระ 5 อย่างดังนี้ 1) การแต่งประโยค 2) การเขียนบรรยาย 3) การเขียนเรียงความ 4) การเขียนแสดงความคิดเห็น 5) การเขียนเรื่องจากประสบการณ์ และได้จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ตามแนวคิดพหุสัมผัส และเทคนิคผังความคิด ผลการพิจารณาความสอดคล้องของผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน พิจารณาความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดพหุสัมผัสและเทคนิคผังความคิดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ค่า IOC = 0.96 แสดงว่าแผนการจัดการเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 นำไปทดลองใช้ได้
3. ผลจากการทดลองใช้รูปแบบการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดพหุสัมผัสและเทคนิคผังความคิดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากการทดลอง 1:1:1 ,3:3:3 และ 10:10:10 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 69.47/76.67, 80.06/81.67 และ 86.05/88.50 ตามลำดับ แสดงว่า มีการพัฒนาขึ้น
4. ผลการประเมินของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดพหุสัมผัสและเทคนิคผังความคิด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
4.1 ประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดพหุสัมผัสและเทคนิคผังความคิด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 81.69/80.19
4.2 ทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ก่อนเรียน มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 58.30 หลังเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 75.84 เมื่อเปรียบเทียบทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ พบว่าหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4.3 พฤติกรรมการกล้าแสดงออกทางความคิด หลังจากใช้รูปแบบการสอนเขียน เชิงสร้างสรรค์ โดยใช้แนวคิดพหุสัมผัสและเทคนิคผังความคิด ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้คืออยู่ในระดับสูง
4.4 เจตคติต่อวิชาภาษาไทยในการเขียนเชิงสร้างสรรค์ หลังจากใช้รูปแบบการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้แนวคิดพหุสัมผัสและเทคนิคผังความคิด หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01