ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาเอกสารประการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) เรื่อง การปลูกหอมแบ่ง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ผู้ศึกษา ปนัดดา สุฉายา
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) หาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) เรื่อง การปลูกหอมแบ่ง
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทาง
การเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างคะแนนสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
(งานเกษตร) เรื่อง การปลูกหอมแบ่ง และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระ
การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) เรื่อง การปลูกหอมแบ่ง
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนบ้านฮ่องแฮ่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 19 คน เครื่องมือที่ใช้
ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
และเทคโนโลยี (งานเกษตร) เรื่อง การปลูกหอมแบ่ง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน
7 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 9 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
(งานเกษตร) เรื่อง การปลูกหอมแบ่ง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ
ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
และเทคโนโลยี (งานเกษตร) เรื่อง การปลูกหอมแบ่ง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่า
เกณฑ์มาตรฐาน 80/80 คือ 83.22/82.11
2. นักเรียนที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
และเทคโนโลยี (งานเกษตร) เรื่อง การปลูกหอมแบ่ง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนและวิเคราะห์ความก้าวหน้าปรากฏว่า
มีค่าคะแนนความก้าวหน้าเฉลี่ยร้อยละ 36.67
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) เรื่อง การปลูกหอมแบ่ง
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.78