ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับ

เทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะ

กระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นางกัลยาวีร์ เอกวารีย์ โรงเรียนประชาพัฒนศึกษา

ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการสอนโดยมีวัตถุประสงค์ย่อยดังนี้ 3.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3.2) เปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ด้วยรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิด

แบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์

การดำเนินการวิจัยมี 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนารูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ขั้นตอนที่ 4 การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนประชาพัฒนศึกษา ซึ่งมีการจัดห้องเรียนแบบคละความสามารถ นักเรียนเก่ง ปานกลาง และอ่อน ในห้องเรียนเดียวกัน จำนวน 24 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบเป็นกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ในครั้งนี้มี 8 ชนิด ประกอบด้วย แบบบันทึกการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) แบบสัมภาษณ์เชิงลึก แบบบันทึกการประชุมแบบมีส่วนร่วม แบบประเมินร่างรูปแบบการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบวัดความสามารถด้านทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมุติฐานใช้ t–test (Dependent Samples)

ผลการวิจัยพบว่า

1) ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์

1.1 ผลจากการศึกษาแนวคิดทฤษฎีพบว่า ทฤษฎีการสรรค์สร้างความรู้ (Constructivist Learning Theory ) เป็นทฤษฎีที่มีพื้นฐานแนวคิดที่ว่า ผู้เรียนแต่ละคนจะเรียนรู้ได้ดีที่สุดก็ต่อเมื่อได้สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองการเรียนรู้แบบสร้างองค์ความรู้จะให้โอกาสผู้เรียนได้สร้างความรู้จากความรู้ที่มีมาก่อน เพื่อนำไปสู่การสร้างความรู้ใหม่และเข้าใจจากประสบการณ์จริง ดังนั้นผู้วิจัยสังเคราะห์กระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยมีแนวคิดหลักการดังนี้ 1.) หลักการสอนที่บูรณาการ 1.1) ศาสตร์ทุกศาสตร์ไม่อาจแยกจากกันโดยเด็ดขาดได้เช่นเดียวกับวิถีชีวิตของคนที่ต้องดำรงอยู่อย่างประสานกลมกลืนเป็นองค์รวม การจัดให้เด็กได้ฝึกทักษะและเรียนรู้เนื้อหาต่าง ๆ อย่างเชื่อมโยงสัมพันธ์กันจะทำให้การเรียนรู้มีความหมายสอดคล้องกับชีวิตจริง 1.2) การเรียนแบบบูรณการทำให้ผู้เรียนมีโอกาสได้ใช้ความคิด ประสบการณ์ความสามารถและทักษะต่าง ๆ อย่างหลากหลายก่อให้เกิดการเรียนรู้ทักษะกระบวนการและเนื้อหาสาระไปพร้อม ๆ กัน 2.) หลักการแนวคิดแบบเปิด 2.1) การเรียนรู้จะเกิดได้ดีเมื่อนักเรียนมีอิสระในการเรียนรู้ 2.2) การเรียนรู้คณิตศาสตร์ต้องเรียนรู้อย่างเป็นกระบวนการ เรียนรู้จากธรรมชาติและสัมพันธ์กับชีวิตจริง 2.3) การเรียนรู้คณิตศาสตร์ต้องเปิดใจรับฟังและนำหลักการทางคณิตศาสตร์มาพิสูจน์ 3.) หลักการ การเรียนรู้แบบร่วมมือ 3.1) การเรียนรู้เกิดจากการพึงพาอาศัยกัน สมาชิกภายในกลุ่มมีการทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน 3.2) มนุษย์เรียนรู้จากการปฏิสัมพันธ์ สมาชิกแต่ละคนมีบทบาทแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน 3.3) การรับผิดชอบของแต่ละคน ต่อบทบาทหน้าที่ของตนเองจะทำให้การเรียนสำเร็จ 3.4) การทำงานเป็นกลุ่มจะทำให้เกิดทักษะการสื่อสารการแก้ปัญหาและตัดสินใจ 3.5) กระบวนการกลุ่ม จะทำให้เกิดความเข้าใจในการทำงาน การวางแผนและประเมินผลใน การทำงาน 4.) หลักการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 4.1) ทำความเข้าใจปัญหา 4.2) วางแผนแก้ปัญหา 4.3) ดำเนินการตามแผน 4.4) ตรวจสอบผล

1.2 ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อ

พัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์

1.2.1 ผลการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) ครูผู้สอนรายวิชา

คณิตศาสตร์ ที่มีต่อสภาพปัจจุบันปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ จำแนกตามประเด็น 3 ประเด็น โดยที่ประชุมมีความคิดเห็นต่อประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ 1. สภาพการจัดการเรียนการสอนในปัจจุบัน ครูใช้วิธีการสอนแบบบรรยาย ยกตัวอย่างแล้วให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดส่งการบ้านในคาบถัดไป ครูเป็นฝ่ายป้อนข้อมูลนักเรียนรับข้อมูลและมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอนน้อย 2. วิธีการพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ครูควรใช้เทคนิคการสอนที่หลากหลาย กระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอนมากขึ้นและให้แนวทางนักเรียนเป็นผู้ศึกษาค้นคว้าวิธีการและหาคำตอบด้วยตนเอง 3. ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ตอบคำถาม แสดงความคิดเห็น กระตุ้น โน้มน้าวให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย มีสื่อการเรียนการสอนที่ครูและนักเรียนได้ลงมือสร้างขึ้นด้วยตนเองและนำมาใช้ในกิจกรรม

1.2.2 ผลการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิในด้านการจัดการเรียนการสอน

คณิตศาสตร์ สรุปดังนี้ 1. พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ ครูมีวิธีการสอนที่หลากหลาย มีสื่อในกระบวนการจัดการเรียนการสอน นักเรียนพร้อมที่จะเรียนรู้ ครูเป็นผู้ให้แนวทางนักเรียนศึกษาค้นคว้าจึงจะเกิดการเรียนรู้ที่ยั่งยืนเกิดการพัฒนาและผลสัมฤทธิ์ย่อมดีขึ้น 2. ครูควรเปลี่ยนแปลงการสอนคณิตศาสตร์ ครูไม่ควนใช้วิธีการสอนแบบบรรยายและอธิบายอย่างเดียวควรมีวิธีการและเทคนิคที่หลากหลายมีการกระตุ้นตั้งคำถามให้นักเรียนเกิดกระบวนการคิดหาคำตอบด้วยวิธีหรือหลักการด้วยตนเองเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ 3. ครูควรจะพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้น่าสนใจ ท้าทายความสามารถและเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน ไม่ควรเน้นเพียงทักษะการคิดคำนวณแต่ควรมีการแก้ปัญหาสถานการณ์ทั่วไป เรียงลำดับขั้นตอนเรียนรู้จากความซับซ้อนน้อยไปมาก ส่งเสริมให้นักเรียนสามารถเลือกใช้ยุทธวิธีแก้ปัญหาได้อย่างหลากหลายและนักเรียนควรได้ฝึกการแก้ปัญหาผ่านกิจกรรมกลุ่มและกิจกรรมเดี่ยวอย่างสม่ำเสมอ

2) ผลการพัฒนารูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

2.1 รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้นมีชื่อว่า “PPGWE Model” ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ คือ แนวคิดพื้นฐาน หลักการ วัตถุประสงค์ ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ประกอบด้วยการดำเนินการ 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ขั้นเตรียม (Preparation : P) 2) ขั้นนำเสนอบทเรียน (Presentation : P) 2.1 การกำหนดปัญหา 2.2 การแก้ปัญหา 2.2.1 ทำความเข้าใจปัญหา 2.2.2 วางแผนแก้ปัญหา 2.2.3 ดำเนินการตามแผน 2.2.4 ตรวจสอบผล 3) ขั้นกิจกรรมกลุ่ม (Group activities: G) 4) ขั้นตรวจผลงาน (Work Review : W) 5) ขั้นสรุปผลและประเมินผล (Conclusion and Evaluation : E) การวัดและประเมินผล

2.2 ผลการตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยที่ผลการประเมินรูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการสอนแบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ อยู่ในระดับความเหมาะสมมากที่สุดทุกข้อ

3) ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach)

ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

3.1) หลังการทดลองใช้รูปแบบการสอน พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หลังเรียนด้วยรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสติที่ระดับ .05

4) ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย กัลยาวีร์ เอกวารีย์ : [20 ส.ค. 2561 เวลา 06:54 น.]
อ่าน [3547] ไอพี : 180.183.198.8
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 25,469 ครั้ง
ระเบียบ ก.ค.ศ. ว่าด้วยระบบทะเบียนประวัติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2555
ระเบียบ ก.ค.ศ. ว่าด้วยระบบทะเบียนประวัติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2555

เปิดอ่าน 15,117 ครั้ง
ดังใหญ่! คลิปล้อ iron man 3 ของแก๊งเฟดเฟ่ ฮาแล้วทั่วโลก
ดังใหญ่! คลิปล้อ iron man 3 ของแก๊งเฟดเฟ่ ฮาแล้วทั่วโลก

เปิดอ่าน 33,759 ครั้ง
การดองผลไม้
การดองผลไม้

เปิดอ่าน 14,870 ครั้ง
เด็กไทยเป็นอัจฉริยะ 4.0 ได้ง่าย ถ้าฝึกช่วงเรียนรู้ไว (3-6 ขวบ)
เด็กไทยเป็นอัจฉริยะ 4.0 ได้ง่าย ถ้าฝึกช่วงเรียนรู้ไว (3-6 ขวบ)

เปิดอ่าน 16,996 ครั้ง
สาววัย 27 ปีบริจาคตับช่วยชีวิตครูวัย 57 ปี เพราะซาบซึ้งบุญคุณที่เคยสอน
สาววัย 27 ปีบริจาคตับช่วยชีวิตครูวัย 57 ปี เพราะซาบซึ้งบุญคุณที่เคยสอน

เปิดอ่าน 52,734 ครั้ง
การขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
การขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

เปิดอ่าน 14,402 ครั้ง
เชื้อรา และผื่นเรื่องต้องระวังเมื่อถึงหน้าร้อน
เชื้อรา และผื่นเรื่องต้องระวังเมื่อถึงหน้าร้อน

เปิดอ่าน 31,165 ครั้ง
ทำไมคนเราต้องกระพริบตา
ทำไมคนเราต้องกระพริบตา

เปิดอ่าน 19,485 ครั้ง
หยุดผมร่วงด้วยบรั่นดี
หยุดผมร่วงด้วยบรั่นดี

เปิดอ่าน 105,496 ครั้ง
รายชื่อโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ 4,000 คนขึ้นไป ปีการศึกษา 2559 (เรียงลำดับตามจำนวนนักเรียนจากมากไปน้อย)
รายชื่อโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ 4,000 คนขึ้นไป ปีการศึกษา 2559 (เรียงลำดับตามจำนวนนักเรียนจากมากไปน้อย)

เปิดอ่าน 80,193 ครั้ง
ดินสอทำไมมีตัว H กับตัว B
ดินสอทำไมมีตัว H กับตัว B

เปิดอ่าน 16,834 ครั้ง
ความแตกต่างระหว่าง http:// กับ https://
ความแตกต่างระหว่าง http:// กับ https://

เปิดอ่าน 17,144 ครั้ง
โปรดอ่านทำความเข้าใจ! กรณีการเรียน ป.บัณฑิต
โปรดอ่านทำความเข้าใจ! กรณีการเรียน ป.บัณฑิต

เปิดอ่าน 17,676 ครั้ง
โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา Partnership School Project
โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา Partnership School Project

เปิดอ่าน 9,101 ครั้ง
วิธีใช้สายตาอย่างถูกต้อง
วิธีใช้สายตาอย่างถูกต้อง

เปิดอ่าน 12,784 ครั้ง
ความลับของ ลูกแพร์หน้าทารก ที่วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตจีน
ความลับของ ลูกแพร์หน้าทารก ที่วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตจีน
เปิดอ่าน 23,110 ครั้ง
สิ่งที่จะได้รับจากการเป็นต้นแบบโรงเรียนประชารัฐ
สิ่งที่จะได้รับจากการเป็นต้นแบบโรงเรียนประชารัฐ
เปิดอ่าน 22,840 ครั้ง
อ่านกันชัดๆ ที่นี่ "อยากเป็นครู ทำอย่างไร?"
อ่านกันชัดๆ ที่นี่ "อยากเป็นครู ทำอย่างไร?"
เปิดอ่าน 16,444 ครั้ง
วิธีการเรียงกระสอบทราย ให้ถูกวิธี ป้องกันน้ำท่วม ได้ผลชัวร์
วิธีการเรียงกระสอบทราย ให้ถูกวิธี ป้องกันน้ำท่วม ได้ผลชัวร์
เปิดอ่าน 36,540 ครั้ง
Adjectives (Articles - the )
Adjectives (Articles - the )

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ