ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะทางภาษาและความเชื่อมั่นในตนเองของนักเรียนอนุบาลปีที่ 2 ที่ได้รับ
การจัดประสบการณ์แบบ SPARPS
ผู้วิจัย นางสาวอัมพรพรรณ โจมภาค
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านปราสาท ตำบลปราสาท อำเภอห้วยทับทัน สังกัด องค์การบริหารส่วน
จังหวัดศรีสะเกษ
บทคัดย่อ
การสื่อสารเป็นทักษะภาษาที่มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในชีวิตประจำวันเพื่อเชื่อมโยงพัฒนาการทางสติปัญญา และการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย ดังนั้นควรนำรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลายในพัฒนาการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์เพื่อพัฒนาการสื่อการกับเด็กปฐมวัย การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อหาประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์( ) เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาและความเชื่อมั่นในตนเองของเด็กอนุบาลปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์แบบ SPARPS ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์80/80 หาดัชนีประสิทธิผล (E.I) เปรียบเทียบทักษะทางด้านภาษาของเด็กอนุบาลปีที่2 ระหว่างก่อนและหลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และศึกษาความเชื่อมั่นในตนเองของเด็กอนุบาลปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์แบบ SPARPS โดยมีกลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่2 ปีการศึกษา 2559 ภาคเรียนที่ 2 โรงเรียนบ้านปราสาท สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 25 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sample) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดประสบการณ์ตามรูปแบบ SPARPS จำนวน 20 แผน แบบประเมินทักษะทางภาษา จำนวน 20 ข้อ และแบบสังเกตพฤติกรรมความเชื่อมั่นในตนเอง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมุติฐานโดยใช้ t test (Dependent Sample)
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ SPARPS สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มี
ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลการสื่อสารโดยรวมเท่ากับ .4943
2. นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์ แบบ SPARPS มีพัฒนาการทักษะทางด้าน
ภาษา สูงขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
โดยสรุป การจัดประสบการณ์ ตามรูปแบบ SPARPS เป็นกิจกรรมที่สามารถพัฒนาทักษะทางภาษา
และความเชื่อมั่นในตนเองของนักเรียนอนุบาลปีที่ 2 ครูผู้สอนควรนำกิจกรรมลักษณะนี้ไปใช้ในการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ให้นักเรียนได้