ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถ ในการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ และความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นอนุ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถ

ในการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ และความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์

ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2

ผู้วิจัย นางนุชนารถ รัตนดร ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) เทศบาลเมืองลำสามแก้ว

อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี

ปีที่วิจัย พ.ศ. 2559

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเพื่อพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดเชิงวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 สรุปสาระที่ได้จากการวิจัย โดยมีวัตถุประสงค์ (1.) พัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดเชิงวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 (2) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างความสามารถการคิดเชิงวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ดังนี้ (2.1) ศึกษาและเปรียบเทียบความสามารถในการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ระหว่างก่อนและหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถการคิดเชิงวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 และ (2.2) ศึกษาและเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ระหว่างก่อนและหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถการคิดเชิงวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยมีขั้นตอน ดังนี้ ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพและปัญหาการจัดการการเรียนรู้ การนำแนวคิด แนวคิดเกี่ยวกับรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การคิดเชิงวิทยาศาสตร์ ความสามารถในการแก้ปัญหาความสามารถในการคิดเชิงวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดเชิงวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 และระยะที่ 3 การศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการการเรียนรู้ตามแนวแนวคิดเกี่ยวกับรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การคิดเชิงวิทยาศาสตร์ ความสามารถในการแก้ปัญหาเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดเชิงวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบไปด้วย ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบ t – test (Independent Sample t – test)

ผลการวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างความสามารถ

ในการคิดเชิงวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

1. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดเชิงวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 รูปแบบการจัดการการเรียนรู้มีขั้นตอนกระบวนการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 6 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ขั้นจุดประกายการคิด (Sparkling) เป็นขั้นที่ครูกระตุ้นให้เด็กเกิดความสนใจด้วยการนำสถานการณ์ หรือ ประเด็นปัญหา กระตุ้นให้เด็กคิด หรือบางครั้งครูนำเด็กออกไปออกนอกห้องเรียน สำรวจสิ่งต่างๆที่จะทำให้เกิดข้อสงสัยประเด็นปัญหา นำไปสู่การกำหนดหัวข้อในการเรียนรู้ 2) ขั้นการสำรวจและค้นหา (Searching) เป็นขั้นที่ครูทบทวนความรู้และประสบการณ์เดิมของเด็กเกี่ยวกับปัญหาหรือสถานการณ์ปัญหา ด้วยการสนทนา อภิปราย ใช้คำถาม ให้เด็กร่วมแสดงความคิดเห็น และร่วมกันวิเคราะห์ปัญหา สิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาแนวทางการแก้ปัญหา และสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นจากการแก้ปัญหา ครูนำความคิดที่เด็กเสนอมาทำแผนผังความคิด (Mind-Mapping) พร้อมกับร่วมกันคาดคะเนผลที่เกิดขึ้น จากการค้นคว้าหาคำตอบ ตามที่ได้คาดคะเนไว้ 3) ขั้นร่วมกันระดมความคิด (Sharing Constructing and Creating) เป็นขั้นที่ครูแบ่งเด็กเป็นกลุ่มๆ ละ 4-5 คน ให้อิสระในการเลือกเข้ากลุ่ม ให้เด็กได้มีโอกาสเข้ากลุ่มทำงานกับเพื่อนเด็กร่วมกันแสดงความคิดเห็น หาแนวทางหรือวิธีแก้ปัญหาที่หลากหลายวิธี และเลือกวิธีการที่เหมาะสมแตกต่างจากที่มีอยู่เดิมสามารถนำไปใช้แก้ปัญหาได้ แล้วจึงร่วมกันปฏิบัติกิจกรรมการแก้ปัญหาร่วมกับเพื่อนในกลุ่ม 4) ขั้นจัดระบบความรู้ (Systemizing Knowledge) เป็นขั้นที่เด็กและครูร่วมกันออกแบบและเขียนความสัมพันธ์ของปัญหาและสาเหตุในลักษณะที่ทำให้เห็นความสัมพันธ์เชื่อมโยงของปัญหา สาเหตุของปัญหา วิธีแก้ปัญหา และผลที่อาจจะเกิดขึ้น สนทนาร่วมกันเกี่ยวกับวิธีคิด เหตุผลที่เด็กนำมาใช้ในการแก้ปัญหาโดยเน้นให้เด็กนำความรู้ความเข้าใจจากการเรียนรู้ และการลงมือปฏิบัติ การแก้ปัญหาหรือการประยุกต์ใช้ ให้สามารถสรุปเป็นองค์ความรู้ของตนเองได้อย่างเป็นระบบ 5) ขั้นสรุปและนำเสนอ (Summarizing and Presenting) เป็นขั้นที่เด็กและครูร่วมกันสรุปผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และองค์ความรู้ที่ได้รับจากการเรียนรู้ และร่วมกันวางแผนในการแสดงผลงานด้ายเทคนิควิธีการต่างๆ เช่น จัดนิทรรศการ การแสดงบทบาทสมมุติ การแสดงนิทาน การจัดทำสารสัมพันธ์ถึงผู้ปกครอง การทำหนังสือเล่มเล็ก เป็นต้นและ 6) ขั้นนำไปประยุกต์ใช้ (Application) เป็นขั้นที่เด็กนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ โดยครูใช้คำถามให้เด็กหาคำตอบจากเหตุการณ์ใหม่ที่คล้ายคลึงกับเหตุการณ์เดิมซึ่งเด็กตอบได้ หลากหลายวิธี เช่น การเล่าหรือสร้างผลงานใหม่ ครูสังเกตการให้เหตุผลของเด็ก ในการนำ ความรู้หรือประสบการณ์ที่ได้รับมาใช้ในสถานการณ์ใหม่2. ผลการศึกษาการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดเชิงวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์

ผู้วิจัยสรุปผลการวิจัยการศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดเชิงวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 สรุปผลการวิจัย ดังนี้

2.1 ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ระหว่างก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า เด็กปฐมวัยมีคะแนนเฉลี่ยหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

2.2 ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ระหว่างก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า เด็กปฐมวัยมีคะแนนเฉลี่ยหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

โพสต์โดย ศิริ : [16 ส.ค. 2561 เวลา 09:36 น.]
อ่าน [5090] ไอพี : 223.206.251.16
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 53,095 ครั้ง
รวมคำสั่ง RUN ที่จำเป็นต้องใช้
รวมคำสั่ง RUN ที่จำเป็นต้องใช้

เปิดอ่าน 2,578 ครั้ง
7 วัดเชียงใหม่ เที่ยวเชียงใหม่สุดปัง ไหว้พระรับโชค
7 วัดเชียงใหม่ เที่ยวเชียงใหม่สุดปัง ไหว้พระรับโชค

เปิดอ่าน 10,851 ครั้ง
เปิดผลวิจัยคนไทยติดแชต กระทบงาน-การเรียนหนัก
เปิดผลวิจัยคนไทยติดแชต กระทบงาน-การเรียนหนัก

เปิดอ่าน 26,300 ครั้ง
ร้อยความเชื่อหลักการ
ร้อยความเชื่อหลักการ 'ตั้งชื่อ'

เปิดอ่าน 9,808 ครั้ง
แนวทางดำเนินงานโครงการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ
แนวทางดำเนินงานโครงการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ

เปิดอ่าน 18,924 ครั้ง
จัดสวนอย่างไร ให้มี "ฮวงจุ้ย" ดี
จัดสวนอย่างไร ให้มี "ฮวงจุ้ย" ดี

เปิดอ่าน 21,534 ครั้ง
เทคนิคปลดหนี้ที่ควรรู้ หมดหนี้สินไว ๆ ต้องทำตามนี้
เทคนิคปลดหนี้ที่ควรรู้ หมดหนี้สินไว ๆ ต้องทำตามนี้

เปิดอ่าน 33,706 ครั้ง
FOCUS ประเด็นจาก PISA : การศึกษาเวียดนาม: ทำไมนักเรียนจึงมีผลการประเมินสูง
FOCUS ประเด็นจาก PISA : การศึกษาเวียดนาม: ทำไมนักเรียนจึงมีผลการประเมินสูง

เปิดอ่าน 26,623 ครั้ง
สำนักวิชาการฯ สพฐ. เปิดให้ดาวน์โหลด "แบบฝึกคิดเลขในใจ"
สำนักวิชาการฯ สพฐ. เปิดให้ดาวน์โหลด "แบบฝึกคิดเลขในใจ"

เปิดอ่าน 128,574 ครั้ง
เช็คให้ดี! "ฮวงจุ้ยห้องพระ" วางตรงไหนเหมาะ วางไม่ดีอาจทำเงินทองรั่วไหล
เช็คให้ดี! "ฮวงจุ้ยห้องพระ" วางตรงไหนเหมาะ วางไม่ดีอาจทำเงินทองรั่วไหล

เปิดอ่าน 11,132 ครั้ง
ดูแลสมอง ให้แจ๋วเสมอ
ดูแลสมอง ให้แจ๋วเสมอ

เปิดอ่าน 18,268 ครั้ง
วิธีแก้อาการปวดหลัง
วิธีแก้อาการปวดหลัง

เปิดอ่าน 877 ครั้ง
มาตรฐานสากล ISO 9001 คืออะไร ทำไมจึงสำคัญต่อสถาบันการศึกษา
มาตรฐานสากล ISO 9001 คืออะไร ทำไมจึงสำคัญต่อสถาบันการศึกษา

เปิดอ่าน 30,869 ครั้ง
ประมวลภาพทั่วโลก - สุริยคราสวงแหวนครั้งยาวนานที่สุดของสหัสวรรษ
ประมวลภาพทั่วโลก - สุริยคราสวงแหวนครั้งยาวนานที่สุดของสหัสวรรษ

เปิดอ่าน 48,426 ครั้ง
กรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม
กรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม

เปิดอ่าน 38,433 ครั้ง
ทำให้ถั่วฝักยาวมีฝักมาก
ทำให้ถั่วฝักยาวมีฝักมาก
เปิดอ่าน 3,210 ครั้ง
11 ผลไม้บำรุงผิว ช่วยให้ผิวที่เปล่งปลั่ง และสุขภาพดี
11 ผลไม้บำรุงผิว ช่วยให้ผิวที่เปล่งปลั่ง และสุขภาพดี
เปิดอ่าน 32,492 ครั้ง
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (photosynthesis)
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (photosynthesis)
เปิดอ่าน 10,315 ครั้ง
รู้เรา รู้ใคร... จากนิสัยท่องเที่ยว
รู้เรา รู้ใคร... จากนิสัยท่องเที่ยว
เปิดอ่าน 55,502 ครั้ง
โรคหัวใจ เลี่ยงได้ แค่เลือกอาหาร
โรคหัวใจ เลี่ยงได้ แค่เลือกอาหาร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ