ชื่อผู้วิจัย นางสาวนันทาณิชกร อรอินทุ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านหนองสาหร่าย) อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองปากช่อง
ปีที่วิจัย 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (สาระประวัติศาสตร์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ (2) ศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (สาระประวัติศาสตร์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 (3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (สาระประวัติศาสตร์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และ (4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (สาระประวัติศาสตร์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านหนองสาหร่าย) อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา สังกัดเทศบาลเมืองปากช่อง จำนวน 3 ห้องเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/1 จำนวน 32 คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 จำนวน 29 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/3 จำนวน 29 คน รวม 90 คน และกลุ่มตัวอย่าง คือนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านหนองสาหร่าย) อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา สังกัดเทศบาลเมืองปากช่อง จำนวน 29 คน ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่มโดยจับสลากมา 1 ห้องเรียน เนื่องจากการจัดนักเรียนเข้าห้องเรียนเป็นแบบคละความสามารถทุกห้อง คือ มีนักเรียน กลุ่มเก่ง กลุ่มปานกลางและกลุ่มอ่อน คละกัน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ (1) บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (สาระประวัติศาสตร์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 5 เล่ม (2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (สาระประวัติศาสตร์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 5 แผน (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (สาระประวัติศาสตร์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากรายข้อตั้งแต่ 0.23 ถึง 0.77 มีอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.33 ถึง 0.73 และ ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.76 และ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มี ต่อการเรียน โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (สาระประวัติศาสตร์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.79
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่าประสิทธิภาพ ค่าดัชนีประสิทธิผลและสถิติทดสอบสมมติฐานโดยใช้การทดสอบค่าที (t test Dependent)
ผลการวิจัยพบว่า
1. บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (สาระประวัติศาสตร์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 83.06/81.77 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (สาระประวัติศาสตร์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.74 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.74 หรือคิดเป็นร้อยละ 74
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (สาระประวัติศาสตร์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนที่เรียนโดยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (สาระประวัติศาสตร์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 2 มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก และนักเรียนมีความคิดเห็นใกล้เคียงกัน