ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน

บทคัดย่อ

รายงานการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านไร่หลวง) สังกัดเทศบาลตำบลกาญจนดิษฐ์ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน 3) ทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน และ 4) ประเมินผลการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน ดังนี้ 4.1) เปรียบเทียบทักษะการสอนของครูจากการใช้รูปแบบการบริหารศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน 4.2) เปรียบเทียบทักษะการอ่านของผู้เรียนจากการใช้รูปแบบการบริหารศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน 4.3) เปรียบเทียบทักษะการสื่อสารของผู้เรียนจากการใช้รูปแบบการบริหารศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน 4.4) ประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน ผู้ปกครอง กรรมการสถานศึกษาและครูจากการใช้รูปแบบการบริหารศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน

ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ มีจำนวน 134 คน ประกอบด้วย นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1จำนวน 42 คน ผู้ปกครองจำนวน 42 คน ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 15 คน คณะกรรมการสถานศึกษาจำนวน 15 คน และครูจำนวน 20 คน กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย (simple random sampling) โดยวิธีจับสลากและเฉพาะเจาะจง โดยแบ่งกลุ่มตัวอย่างเป็น 4 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 วิจัย (R1/ Research) กลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 77 คน ประกอบด้วย ผู้ปกครองจำนวน 42 คน กรรมการสถานศึกษาจำนวน 15 คน และครู จำนวน 20 คน ระยะที่ 2 พัฒนา (D1 / Development) กลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 15 คน ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิทางการศึกษาจำนวน 2 คน อาจารย์ระดับมหาวิทยาลัยจำนวน 2 คน คณะกรรมการสถานศึกษาจำนวน 3 คน ผู้อำนวยการกองการศึกษาจำนวน 1 คน ผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 3 คน ศึกษานิเทศก์จำนวน 2 คน และครูเชี่ยวชาญจำนวน 2 คน ระยะที่ 3 ทดลองใช้ (R2/ Research) กลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 9 คน ประกอบด้วยครูที่ปฏิบัติการสอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ระยะที่ 4 ประเมินผล (D2/ Development) กลุ่มตัวอย่าง มีจำนวน 119 คน ประกอบด้วย ผู้เรียนจำนวน 42 คน ผู้ปกครองจำนวน 42 คน คณะกรรมการสถานศึกษาจำนวน 15 คน และครูจำนวน 20 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบสอบถามความต้องการจำเป็น แบบสัมภาษณ์เชิงโครงสร้าง แบบสอบถามความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของการพัฒนารูปแบบ แบบสอบถามความพึงพอใจของการพัฒนารูปแบบ แบบวัดทักษะการสอนของครู แบบวัดทักษะการอ่านของผู้เรียน และแบบวัดทักษะการสื่อสารของผู้เรียนของการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการสำรวจความต้องการของการพัฒนารูปแบบบริหารจัดการศักยภาพครูในจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านทั้ง 5 ด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ ด้านการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม มีค่าเฉลี่ยในระดับมาก และด้านมีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ด้านการพัฒนาบุคลิกภาพมีค่าเฉลี่ยในระดับปานกลาง

2. ผลการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ความเหมาะสมและความเป็นไปได้ มีค่าเฉลี่ยในระดับมากที่สุด

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน ผู้วิจัยให้กลุ่มตัวอย่างดำเนินการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการบริหารจัดการศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียนตลอดปีการศึกษา 2560 และวิเคราะห์ผลการประเมินและสรุปผลการประเมินในระยะต่อไป

4. ผลการประเมินการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน ดังนี้

4.1 ผลการเปรียบเทียบทักษะการสอนของครูจากการใช้รูปแบบการบริหารศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน พบว่าทักษะการสอนของครูก่อนและหลังใช้รูปแบบการบริหารจัดการศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4.2 ผลการเปรียบเทียบทักษะการอ่านของผู้เรียนจากการใช้รูปแบบการบริหารศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน พบว่า ทักษะการอ่านของผู้เรียนก่อนและหลังใช้รูปแบบการบริหารจัดการศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4.3 ผลการเปรียบเทียบทักษะการสื่อสารของผู้เรียนจากการใช้รูปแบบการบริหารศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน พบว่า ทักษะการสื่อสารของผู้เรียนก่อนและหลังใช้รูปแบบการบริหารจัดการศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน พบว่ามีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4.4 ประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน ผู้ปกครอง กรรมการสถานศึกษาและครูจากการใช้รูปแบบการบริหารศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารของผู้เรียน โดยรวมในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผู้เรียนมีค่าเฉลี่ยสูงสุดในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ ผู้ปกครอง เท่ากับครู มีค่าเฉลี่ยในระดับมากที่สุด ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษามีค่าเฉลี่ยต่ำสุดในระดับมาก

โพสต์โดย ปรียา โกละกะ : [15 ส.ค. 2561 เวลา 06:58 น.]
อ่าน [4987] ไอพี : 113.53.161.34
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,287 ครั้ง
ดูแลสมอง ให้แจ๋วเสมอ
ดูแลสมอง ให้แจ๋วเสมอ

เปิดอ่าน 23,690 ครั้ง
เทรนด์ใหม่ แต่บ้านสวยด้วย wall stickers
เทรนด์ใหม่ แต่บ้านสวยด้วย wall stickers

เปิดอ่าน 13,393 ครั้ง
คู่มือและแนวทางปฎิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย (ฉบับปรับปรุงใหม่ พ.ศ.2560)
คู่มือและแนวทางปฎิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย (ฉบับปรับปรุงใหม่ พ.ศ.2560)

เปิดอ่าน 1,144 ครั้ง
มาตรฐานสากล ISO 9001 คืออะไร ทำไมจึงสำคัญต่อสถาบันการศึกษา
มาตรฐานสากล ISO 9001 คืออะไร ทำไมจึงสำคัญต่อสถาบันการศึกษา

เปิดอ่าน 12,284 ครั้ง
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (1)
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (1)

เปิดอ่าน 32,653 ครั้ง
ไขปัญหาเกี่ยวกับ สถิติ วัดผล และวิจัย ตอนที่ 1
ไขปัญหาเกี่ยวกับ สถิติ วัดผล และวิจัย ตอนที่ 1

เปิดอ่าน 18,031 ครั้ง
กฏ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูฯออกจากราชการกรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพ
กฏ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูฯออกจากราชการกรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพ

เปิดอ่าน 17,787 ครั้ง
คุณครอบครองลูกได้กี่ปี? ทุกๆปีสำคัญขนาดไหน? อ่านดูแล้วรู้เลยว่าทุกเวลามีค่าขนาดไหน!
คุณครอบครองลูกได้กี่ปี? ทุกๆปีสำคัญขนาดไหน? อ่านดูแล้วรู้เลยว่าทุกเวลามีค่าขนาดไหน!

เปิดอ่าน 10,618 ครั้ง
พบ ยีน ต้นเหตุชายโตเร็วกว่าหญิง แต่ส่งผลอายุขัยสั้นกว่า!
พบ ยีน ต้นเหตุชายโตเร็วกว่าหญิง แต่ส่งผลอายุขัยสั้นกว่า!

เปิดอ่าน 32,040 ครั้ง
ยาสระผมเข้าตาบ่อย ๆ เป็นอันตรายต่อดวงตามั้ย
ยาสระผมเข้าตาบ่อย ๆ เป็นอันตรายต่อดวงตามั้ย

เปิดอ่าน 56,289 ครั้ง
"โรงเรียนแบบไหนที่สร้างเด็กให้ฉลาด" โดย ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
"โรงเรียนแบบไหนที่สร้างเด็กให้ฉลาด" โดย ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ

เปิดอ่าน 16,421 ครั้ง
1 กันยายน วันรำลึกถึง สืบ นาคะเสถียร
1 กันยายน วันรำลึกถึง สืบ นาคะเสถียร

เปิดอ่าน 14,100 ครั้ง
เพลงลูกเทวดา ฮอตฮิต! ถูกค้นมากสุดในปี
เพลงลูกเทวดา ฮอตฮิต! ถูกค้นมากสุดในปี '53

เปิดอ่าน 11,784 ครั้ง
"หนี้ครู" ปัญหาอมตะคู่แม่พิมพ์ของชาติ
"หนี้ครู" ปัญหาอมตะคู่แม่พิมพ์ของชาติ

เปิดอ่าน 28,755 ครั้ง
สีเสริมมงคลปี 58 ! หมอช้างถอดรหัส 12 ราศี สีไหนใส่ดี สีไหนควรระวัง?
สีเสริมมงคลปี 58 ! หมอช้างถอดรหัส 12 ราศี สีไหนใส่ดี สีไหนควรระวัง?

เปิดอ่าน 21,019 ครั้ง
4 สมุนไพร สยบโรค
4 สมุนไพร สยบโรค
เปิดอ่าน 19,942 ครั้ง
ปลูกเมล่อนหน้าแล้ง
ปลูกเมล่อนหน้าแล้ง
เปิดอ่าน 15,351 ครั้ง
วิธีสังเกตยาที่เสื่อมคุณภาพ
วิธีสังเกตยาที่เสื่อมคุณภาพ
เปิดอ่าน 11,490 ครั้ง
12 สุขลักษณะ การนอนที่ดี
12 สุขลักษณะ การนอนที่ดี
เปิดอ่าน 11,191 ครั้ง
วิธีลดลอยแผลขรุขระบนใบหน้า
วิธีลดลอยแผลขรุขระบนใบหน้า

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ