ชื่อเรื่อง การพัฒนาความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู
โรงเรียนเทศบาล 2 (ถนนบำรุงเมือง)
สถานที่วิจัย โรงเรียนเทศบาล 2 (ถนนบำรุงเมือง)
ผู้วิจัย นางสุดวนิดา เหลือบุญชู
ปีที่วิจัย 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพและปัญหาในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล 2 (ถนนบำรุงเมือง) 2) พัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมการทำวิจัยในชั้นเรียน และ 3) ศึกษาผลการพัฒนาความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล 2 (ถนนบำรุงเมือง) โดยใช้หลักสูตรการฝึกอบรมการทำวิจัยในชั้นเรียน กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ครูผู้สอนโรงเรียนเทศบาล 2 (ถนนบำรุงเมือง) ในปีการศึกษา 2559 จำนวน 27 คน ที่ได้มาจากการการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) หลักสูตรการฝึกอบรมครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน 2) แบบทดสอบความรู้ของครูในการทำวิจัยในชั้นเรียน 3) แบบวัดความพึงพอใจต่อการอบรมโดยใช้หลักสูตรการทำวิจัยในชั้นเรียนสถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย
การวิเคราะห์ข้อมูลการพัฒนาความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล 2 (ถนนบำรุงเมือง) ของการวิจัยครั้งนี้ปรากฏผลโดยสรุป ดังนี้
1. สภาพและปัญหาการดำเนินการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูในโรงเรียนเทศบาล 2 (ถนนบำรุงเมือง) พบว่า สภาพการดำเนินการในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู มีการดำเนินการตามระเบียบวิธีวิจัย ตามขั้นตอนคือ มีการวิเคราะห์ปัญหา การศึกษาแนวคิดทฤษฎี การออกแบบการวิจัย การพัฒนานวัตกรรม การดำเนินการแก้ปัญหา การสรุปผล และการเขียนรายงานการวิจัยและปัญหาที่พบ มีดังนี้ ครูมีความเข้าใจในการพัฒนาเครื่องมือวัดแต่ไม่มั่นใจในวิธีการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ การพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษา ครูสับสนเกี่ยวกับนวัตกรรมในการวิจัยและเครื่องมือในการวิจัยไม่สามารถแยกออกจากกันได้ การดำเนินการแก้ปัญหาการรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล ครูไม่มีความเข้าใจการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลยังไม่เข้าใจในการใช้สถิติว่ามีความเหมือนหรือแตกต่าง จากการวิจัยทางการศึกษา การสรุปผลและการเขียนรายงานผลการทำวิจัยในชั้นเรียน ครูไม่แน่ใจ ในรูปแบบวิธีการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียนกับการวิจัยทางการศึกษามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร การออกแบบการวิจัย ครูไม่มีประสบการณ์ในการวางแผนการวิจัยมาก่อนการศึกษาแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ครูยังไม่ค่อยรู้แหล่งการสืบค้นข้อมูลที่หลากหลาย
2. ผลการพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมการทำวิจัยในชั้นเรียน
2.1 การสร้างและพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมการทำวิจัยในชั้นเรียน ได้มีการดำเนินการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรมด้านการทำวิจัยในชั้นเรียนและทำการหารือวางแผนร่วมกับวิทยากรในการฝึกอบรมครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน ดำเนินการสร้างคู่มือการฝึกอบรมการทำวิจัยในชั้นเรียน ได้แก่ หลักสูตรการทำวิจัยในชั้นเรียน ตารางการฝึกอบรม แผนการฝึกอบรมการทำวิจัยในชั้นเรียน และสื่อประกอบการฝึกอบรม การวัดและประเมินผลการพัฒนาครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน ได้มีการดำเนินการวัดและประเมินผลการพัฒนาใน 2 ด้าน ได้แก่ ด้านความรู้ ใช้เครื่องมือเป็นแบบทดสอบความรู้ก่อน-หลังการฝึกอบรม ด้านความพึงพอใจใช้เครื่องมือเป็นแบบประเมินความพึงพอใจ
2.2 ตรวจสอบความถูกต้องเหมาะสมและความเป็นไปได้ของหลักสูตร โดยผู้เชี่ยวชาญได้ค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.20-4.60 และความเป็นไปได้ ในการนำไปปฏิบัติได้ค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 3.60-4.20 ซึ่งแสดงว่าหลักสูตรมีความเหมาะสมและเป็นไปได้ ในการดำเนินการฝึกอบรมและเมื่อประเมินประสิทธิภาพโดยครูและบุคลากรทางการศึกษา พบว่า การประเมินประสิทธิภาพของหลักสูตรการวิจัยในชั้นเรียนด้านการจัดการฝึกอบรม และด้านรูปแบบการฝึกอบรมมีผลต่อประสิทธิภาพของหลักสูตรทุกรายการ และเมื่อตรวจสอบความเหมาะสมและความมีประสิทธิภาพจากครูสังกัดโรงเรียนเทศบาลเมืองนครพนม จำนวน 10 คน พบว่า การประเมินประสิทธิภาพของหลักสูตรการวิจัยในชั้นเรียนด้านการจัดการฝึกอบรม และด้านรูปแบบการฝึกอบรมมีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพทุกรายการ
3. ผลการวิเคราะห์ผลการพัฒนาครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน โดยการจัดฝึกอบรมตามตารางการฝึกอบรม สรุปได้ดังนี้
3.1 ด้านความรู้ พบว่า หลังจากครูได้รับการฝึกอบรมด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน ครูมีความรู้เพิ่มขึ้นกว่าก่อนการฝึกอบรม
3.2 ด้านความพึงพอใจ พบว่า หลังการฝึกอบรมการทำวิจัยในชั้นเรียน โดยรวม ครูมีความพึงพอใจในการเข้ารับการฝึกอบรมการทำวิจัยในชั้นเรียน อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านปัจจัยนำเข้า ครูมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ด้านปัจจัยกระบวนการดำเนินการ ครูมีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง และด้านปัจจัยผลลัพธ์ ครูมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ข้อเสนอแนะ ควรจัดอบรมช่วงวันจันทร์-วันศุกร์ และควรให้เวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลมากกว่านี้