ชื่อเรื่อง : การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ผู้ศึกษา : นายกิตติศักดิ์ พึ่งหวาน
ตำแหน่ง : ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านแม่ท่าแพ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 2
บทคัดย่อ
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา มีวัตถุประสงค์ของการศึกษา 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนและหลังการเรียนโดยใช้ใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา และ 3) เพื่อศึกษาความ
พึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง
การคุ้มครองผู้บริโภคชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย ชุดกิจกรรม
การเรียนรู้ เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ
พลศึกษา เป็นชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จำนวน 7 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนและหลังการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีลักษณะเป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก โดยวัดผลก่อนเรียนและหลังการเรียน จำนวน 20 ข้อ และแบบสอบ ถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระ
การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 13 ข้อ กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนบ้านแม่ท่าแพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 15 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เป็นห้องที่ผู้ศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้เกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้ (t test) แบบกลุ่มตัวอย่างไม่เป็นอิสระ (Dependent samples) และหาระดับความพึงพอใจของนักเรียน
ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 83.90/82.00 โดยนักเรียนสามารถทำแบบทดสอบหลังการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ได้ถูกต้อง โดยเฉลี่ยร้อยละ 83.90 และนักเรียนสามารถทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ได้ถูกต้อง โดยเฉลี่ยร้อยละ 82.00 แสดงว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพที่ตั้งไว้คือร้อยละ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาสูงกว่าก่อนการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด เรียงลำดับ 3 ลำดับแรกดังนี้ การเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ทำให้นักเรียนสนใจการเรียนมากขึ้น ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สะดวกต่อการนำไปใช้ และกิจกรรมการเรียนรู้มีจำนวนเหมาะสม