ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมีเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิด อย่างมีวิจารณญาณ และจิตวิทยาศาสตร์ เรื่องเซลล์ไฟฟ้าเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษ

รายงานการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และจิตวิทยาศาสตร์ เรื่อง เซลล์ไฟฟ้าเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และจิตวิทยาศาสตร์ เรื่องเซลล์ไฟฟ้าเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และจิตวิทยาศาสตร์ เรื่องเซลล์ไฟฟ้าเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และจิตวิทยาศาสตร์ เรื่องเซลล์ไฟฟ้าเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (3.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และจิตวิทยาศาสตร์ เรื่อง เซลล์ไฟฟ้าเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (3.2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ หลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และจิตวิทยาศาสตร์ เรื่องเซลล์ไฟฟ้าเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (3.3) เพื่อประเมินจิตวิทยาศาสตร์ หลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และจิตวิทยาศาสตร์ เรื่องเซลล์ไฟฟ้าเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และ จิตวิทยาศาสตร์ เรื่องเซลล์ไฟฟ้าเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 การดำเนินการวิจัย ในครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา ( Research and Development) 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่1) การวิจัย ( Research: R1) เป็นการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ความต้องการจำเป็น โดยการวิเคราะห์ข้อมูล( Analysis: A ) ที่ใช้พัฒนารูปแบบการเรียนรู้ ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี ในระดับมัธยมศึกษา ปีที่ 6 ขั้นตอนที่ 2) การพัฒนา (Development: D1) การออกแบบและพัฒนา (Design and Development: D&D) เป็นการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ แหล่งข้อมูลได้แก่ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 แนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและจิตวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สภาพปัจจุบันปัญหาเกี่ยวกับทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียน และจิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนกลุ่มการเรียนวิทยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 ที่เรียนรายวิชาเคมี จำนวน 106 คน โดยใช้เครื่องมือ (1) เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และจิตวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (2) แบบประเมินสภาพปัจจุบันปัญหาเกี่ยวกับทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนเรื่อง เซลล์ไฟฟ้าเคมี (3) แบบประเมินจิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ขั้นตอนที่ 3) การวิจัย ( Research: R2) การนำไปใช้ ( Implementation: I) เป็นการนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาไปใช้ในสถานการณ์จริง ภาคสนาม แหล่งข้อมูลที่ใช้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/4 โรงเรียนสีคิ้ว “สวัสดิ์ผดุงวิทยา” ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 36 คน โดยใช้เครื่องมือ แบบทดสอบเรื่องเซลล์ไฟฟ้าเคมี แบบทดสอบ วัดความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แบบวัดจิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ขั้นตอนที่4) การพัฒนา ( Development : D2) เป็นการประเมินผล ( Evaliation :E ) เป็นการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ นำเสนอการจัดการเรียนรู้ แหล่งข้อมูลที่ใช้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/4 กลุ่มการเรียนวิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ โรงเรียนสีคิ้ว “สวัสดิ์ผดุงวิทยา” จำนวน 36 คน โดยใช้เครื่องมือ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานที่ใช้ t-test (Dependent Samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

การวิจัยเรื่อง “การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดมีวิจารณญาณ และจิตวิทยาศาสตร์ เรื่องเซลล์ไฟฟ้าเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6”

(PTLAC Model) สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้

1.ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบว่าปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้การศึกษาประสบความสำเร็จหรือไม่คือวิธีการสอน หรือวิธีการจัดการเรียนรู้ ของครูผู้สอนเพราะหัวใจสำคัญคือการสอนที่จะทำให้นักเรียน เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิผล ไม่ใช่สอนให้ผู้เรียนจำอย่างเดียว ควรสอนให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ ประเมินค่า สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อแก้ปัญหา สาเหตุสำคัญที่นักเรียนคิดแก้โจทย์ปัญหาเรื่องเซลล์ไฟฟ้าเคมีไม่ได้ เพราะ นักเรียนขาดพื้นฐานเรื่องการหา เลขออกซิเดชัน ไม่สามารถบอกเลขออกซิเดชันของธาตุและสารต่างๆได้ ไม่รู้ จะเริ่มต้นอย่างไร ไม่เข้าใจปัญหา ตีโจทย์ไม่ออก ผู้วิจัยจึงได้สอบถามนักเรียนอย่างไม่เป็นทางการ ถึงความคิดเห็นที่มีต่อการเรียนวิชาเคมีแล้วไม่เข้าใจ วิธีการเรียนรู้ส่วนใหญ่นักเรียนจะคุ้นเคยกับการเรียนการสอนบรรยายไม่เน้นทักษะกระบวนการคิด ทำให้นักเรียนขาดหลักการการทำความเข้าใจเนื้อหาที่เรียน ขาดพื้นฐานการเรียนในเนื้อหา ขาดความกระตือรือร้นในการเรียน ไม่มีส่วนร่วมในการเรียน ครูผู้สอนจึงต้องตระหนักและจัดให้มีการจัดเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการคิดและให้นักเรียนได้มีจิตวิทยาศาสตร์

2.รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี การศึกษาข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา

รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี เพื่อเสริมสร้างเสริมสร้างทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และ จิตวิทยาศาสตร์ เรื่องเซลล์ไฟฟ้าเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (PTLAC Model) ประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบเชิงหลักการ และวัตถุประสงค์ องค์ประกอบเชิงกระบวนการ และองค์ประกอบเชิงเงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้กระบวนการเรียน การสอน มี 5 ขั้น คือ ขั้นที่1) เตรียมความพร้อมผู้เรียน (Prepare learners) ขั้นที่2) ปรับเปลี่ยนความคิด (Turning ideas) ขั้นที่3) เรียนรู้สิ่งใหม่ (Learn something new) ขั้นที่4) ประยุกต์ใช้ความรู้ (Application of Knowledge) ขั้นที่5) เติมเต็มประสบการณ์ (Complement the experience) ผลการตรวจสอบคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คน ได้ค่าความเหมาะสม/สอดคล้องมีค่าเฉลี่ย ( X-bar = 5.00 , S.D. = 0.00 ) แสดงว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่สร้างขึ้นมีความเหมาะสมและสอดคล้องเชิงโครงสร้าง สามารถนำไปทดลองใช้ได้ ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี เพื่อเสริมสร้างทักษะการอย่างคิดมีวิจารณญาณ และจิตวิทยาศาสตร์ เรื่องเซลล์ไฟฟ้าเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ (E1/E2) เท่ากับ 77.27/79.61 สูงกว่าเกณฑ์ 75/75

3. ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและจิตวิทยาศาสตร์ เรื่องเซลล์ไฟฟ้าเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ( PTLAC Model) พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2) ความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 3) จิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/4 ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (X-bar = 4.90 , S.D. = 0.20 ) 4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ (PTLAC Model) ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ( X-bar = 4.60, S.D. = 0.40)

โพสต์โดย ขวัญ : [7 ส.ค. 2561 เวลา 18:32 น.]
อ่าน [5129] ไอพี : 110.169.225.172
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,109 ครั้ง
ดนตรีโมสาร์ทช่วยทารกโตเร็วขึ้น
ดนตรีโมสาร์ทช่วยทารกโตเร็วขึ้น

เปิดอ่าน 1,685 ครั้ง
อยากเป็นติวเตอร์ ครูสอนพิเศษหางานสอนพิเศษที่ไหนดี?
อยากเป็นติวเตอร์ ครูสอนพิเศษหางานสอนพิเศษที่ไหนดี?

เปิดอ่าน 3,418 ครั้ง
ปลูกดอกหน้าวัว แซมปาล์มน้ำมัน สร้างรายได้เสริม 46,000 บาท/ไร่/ปี
ปลูกดอกหน้าวัว แซมปาล์มน้ำมัน สร้างรายได้เสริม 46,000 บาท/ไร่/ปี

เปิดอ่าน 21,269 ครั้ง
ประวัติการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
ประวัติการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

เปิดอ่าน 18,472 ครั้ง
พระพรหม (พระธาดา)
พระพรหม (พระธาดา)

เปิดอ่าน 18,253 ครั้ง
โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้

เปิดอ่าน 19,048 ครั้ง
มาฝึกสมาธิเบื้องต้นกันดีกว่า
มาฝึกสมาธิเบื้องต้นกันดีกว่า

เปิดอ่าน 8,975 ครั้ง
ระวัง! ใช้ Wi-Fi ทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ เสี่ยงโดนแฮ็ค
ระวัง! ใช้ Wi-Fi ทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ เสี่ยงโดนแฮ็ค

เปิดอ่าน 16,514 ครั้ง
ผลวิจัยการใช้แท็บเล็ตตามกระแส BYOT: Bring Your Own Technology
ผลวิจัยการใช้แท็บเล็ตตามกระแส BYOT: Bring Your Own Technology

เปิดอ่าน 5,895 ครั้ง
กรมอนามัย ย้ำดื่มน้ำเปล่าดีที่สุด ดื่มให้เหมาะสม พอเพียง ดีต่อร่างกาย
กรมอนามัย ย้ำดื่มน้ำเปล่าดีที่สุด ดื่มให้เหมาะสม พอเพียง ดีต่อร่างกาย

เปิดอ่าน 15,323 ครั้ง
อะไรเอ่ยสะสมเชื้อโรคมากที่สุดในห้องสุขาที่คุณรัก ?
อะไรเอ่ยสะสมเชื้อโรคมากที่สุดในห้องสุขาที่คุณรัก ?

เปิดอ่าน 42,968 ครั้ง
การเขียนเรื่องสั้นเบื้องต้น
การเขียนเรื่องสั้นเบื้องต้น

เปิดอ่าน 13,343 ครั้ง
อะไร? อยู่ใน Wi-Fi
อะไร? อยู่ใน Wi-Fi

เปิดอ่าน 11,033 ครั้ง
ดื่มนม ช่วยป้องกันโรคอ้วน อย่างนี้ก็มีด้วย
ดื่มนม ช่วยป้องกันโรคอ้วน อย่างนี้ก็มีด้วย

เปิดอ่าน 11,194 ครั้ง
อภิปัญหาหนี้ครู...ปมที่แก้ไม่ตก 11 ปีลุกลาม 1.2 ล้านล้าน
อภิปัญหาหนี้ครู...ปมที่แก้ไม่ตก 11 ปีลุกลาม 1.2 ล้านล้าน

เปิดอ่าน 17,071 ครั้ง
ไดร์ผมตรงอย่างมืออาชีพ
ไดร์ผมตรงอย่างมืออาชีพ
เปิดอ่าน 11,117 ครั้ง
 ประโยชน์ของการดื่มน้ำ
ประโยชน์ของการดื่มน้ำ
เปิดอ่าน 11,079 ครั้ง
ชวนรู้เรื่อง "มะเร็งลำไส้"
ชวนรู้เรื่อง "มะเร็งลำไส้"
เปิดอ่าน 10,446 ครั้ง
สรยุทธ แจง อมเงินโฆษณา อสมท 138ล.
สรยุทธ แจง อมเงินโฆษณา อสมท 138ล.
เปิดอ่าน 18,568 ครั้ง
10 วิธีบำบัดเด็กสมาธิสั้น
10 วิธีบำบัดเด็กสมาธิสั้น

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ