ชื่อเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่องอัตราส่วนตรีโกณมิติ
ตามแนวปฏิบัติสู่ผลสัมฤทธิ์ขั้นสูง High Impact Practices (HIP) ร่วมกับเพลง
และแบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานการคิดคำนวณ
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้ศึกษา นายมงคล ลาเบ้า
ที่ทำงาน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า อุตรดิตถ์ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์ 1) เพื่อสร้างแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่องอัตราส่วนตรีโกณมิติ ตามแนวปฏิบัติสู่ผลสัมฤทธิ์ขั้นสูง High Impact Practices (HIP) ร่วมกับเพลงและแบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานการคิดคำนวณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่องอัตราส่วนตรีโกณมิติ ตามแนวปฏิบัติสู่ผลสัมฤทธิ์ขั้นสูง High Impact Practices (HIP) ร่วมกับเพลงและแบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานการคิดคำนวณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่องอัตราส่วนตรีโกณมิติ ตามแนวปฏิบัติสู่ผลสัมฤทธิ์ขั้นสูง High Impact Practices (HIP) ร่วมกับเพลงและแบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานการคิดคำนวณ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 1 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า อุตรดิตถ์ จำนวน 17 คน ที่กำลังเรียนภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่องอัตราส่วนตรีโกณมิติ ตามแนวปฏิบัติสู่ผลสัมฤทธิ์ขั้นสูง High Impact Practices (HIP) ร่วมกับเพลงและแบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานการคิดคำนวณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 5 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องอัตราส่วนตรีโกณมิติ ตามแนวปฏิบัติสู่ผลสัมฤทธิ์ขั้นสูง High Impact Practices (HIP) ร่วมกับเพลงและแบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานการคิดคำนวณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 21 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องอัตราส่วนตรีโกณมิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แบบปรนัย เลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่องอัตราส่วนตรีโกณมิติ เป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)
สรุปผลการศึกษา
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่องอัตราส่วนตรีโกณมิติ ตามแนวปฏิบัติสู่ผลสัมฤทธิ์ขั้นสูง High Impact Practices (HIP) ร่วมกับเพลงและแบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานการคิดคำนวณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.12/87.06 และค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.69 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน พบว่า มีค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนเท่ากับ 16.41 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยของคะแนนเท่ากับ 26.12 และผลการเปรียบเทียบความแตกต่างกันระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยการทดสอบค่าที (t-test) เท่ากับ 31.68 แสดงว่าคะแนนหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่องอัตราส่วนตรีโกณมิติ ตามแนวปฏิบัติสู่ผลสัมฤทธิ์ขั้นสูง High Impact Practices (HIP) ร่วมกับเพลงและแบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานการคิดคำนวณ พบว่านักเรียน มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐานในระดับความพึงพอใจมากที่สุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.63 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.50