ชื่อเรื่อง : การพัฒนาแบบฝึกทักษะการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักร
การเรียนรู้ 4 MAT เรื่อง การดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้วิจัย : นางสาวอุษกาญจน์ พูนประสิทธิ์
หน่วยงาน : โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี สำนักการศึกษา เทศบาลนครอุดรธานี
จังหวัดอุดรธานี
ปีที่รายงาน : 2560
บทคัดย่อ
การพัฒนาแบบฝึกทักษะการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้
4 MAT เรื่อง การดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 2 โรงเรียน เทศบาล 2 มุขมนตรี สำนักการศึกษา เทศบาลนครอุดรธานี โดยมีวัตถุประสงค์
1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT เรื่อง การดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT เรื่อง การดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้น
3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการใช้การพัฒนาแบบฝึกทักษะการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT เรื่อง การดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยแบบฝึกทักษะการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT เรื่อง การดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ในการศึกษาครั้งนี้ กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/3 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี ปีการศึกษา 2560จำนวน 27คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling)เครื่องมือที่ใช้คือ
1) แบบฝึกทักษะการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT เรื่อง การดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2จำนวน 8เล่ม เล่มละ 2 ชั่วโมง
2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/3 ชนิดเลือกตอบ 3ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อมีค่าความยากตั้งแต่ 0.74 ถึง 0.85ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.21 ถึง0.50 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.7443
3) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT เรื่อง การดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2จำนวน 15 ข้อ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.9085 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐานใช้ t-test (Dependent Samples)
ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้
1) แบบฝึกทักษะการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT เรื่อง การดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ81.65/84.26
2) ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT เรื่อง การดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เท่ากับ 0.8014
3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการใช้แบบฝึกทักษะการเรียนรู้ร่วมกับ
การจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT เรื่อง การดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้
สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีคะแนนทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
4) มีความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยแบบฝึกทักษะการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT เรื่อง การดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ในระดับพึงพอใจมากที่สุด
โดยสรุป แบบฝึกทักษะการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT เรื่อง การดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ทำให้ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT เรื่อง การดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ในระดับมากที่สุด ครูผู้สอนสามารถนำแบบฝึกทักษะการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT
เรื่อง การดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นไปใช้ในกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อช่วยพัฒนาผู้เรียนให้คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น ส่งผลให้การจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดี