ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้
5 ขั้น ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้รายงาน นางสาวสาวิตรี เศรษฐีแสง
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อหาการพัฒนาผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบ
วัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบ
วัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา2560 จำนวน 16 คน โรงเรียนบ้านตูหยง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลาเขต 3 ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เพราะเป็นห้องเรียนที่ผู้ศึกษาต้องการพัฒนาการเรียนรู้และทำการสอนอยู่ในปัจจุบัน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้มี 4 ชนิด คือ (1) การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้การพัฒนาผลการจัดการเรียนรู้
โดยใช้วิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จัดทำเป็นชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำ ฟ้า และดวงดาว จำนวน 4 ชุด ดังนี้ ชุดกิจกรรมที่ 1 เมฆ หมอก ฝน ลูกเห็บ น้ำค้าง ชุดกิจกรรมที่ 2 วัฏจักรของน้ำและอุณหภูมิ ชุดกิจกรรมที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของอากาศ และชุดกิจกรรมที่ 4 ปรากฏการณ์ของดวงดาว ซึ่งมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.52 (2) แผนการจัดการเรียนรู้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำ ฟ้า และดวงดาว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 18 ชั่วโมง มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.65 (3) แบบทดสอบ
วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำ ฟ้า และดวงดาว ซึ่งเป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่าย (P) ระหว่าง 0.34 ถึง 0.75 และค่าอำนาจจำแนก (D) มีค่าตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.85 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.82
(4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำ ฟ้า และดวงดาว เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ชนิด
5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ มีค่า IOC ตั้งแต่ 0.67 ถึง 1.00 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ และการทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t test
ผลการศึกษา พบว่าการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำ ฟ้า และดวงดาว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปรากฏผล ดังนี้
1) ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.09/82.92 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด